เงินชดเชย เสื้อแดง และลูกเสือชาวบ้าน


ผมนี่แหละที่เป็นคนปั้นคำว่า “ความเหลื่อมล้ำ” ... จนคำนี้กลายมาเป็น “วาทกรรม” ที่ขับเคลื่อนกระบวนการเสื้อแดงไปแล้ว

จากลูกเสือชาวบ้าน ถึงหมู่บ้านเสื้อแดง ถึงเงินชดเชย

 

คนที่มีอายุคงยังพอจำกันได้กรณี ลูกเสือชาวบ้าน ที่ฝ่ายการเมืองจัดตั้งกันขึ้นมา ให้เป็นฝ่ายขวาพิฆาตซ้าย ในยุคช่วง ๖ ตค. ๑๙  

 

กลุ่มชนพวกนี้ก็คือพวกชาวบ้านตามชนบทเป็นหลัก ที่ได้รับการจัดตั้ง มีการฝึกเล็กน้อยพอเป็นพิธี ส่วนใหญ่ก็ไปร้องเพลงกันสนุกสนาน จากนั้นแจกผ้าพันคอเป็นสัญลักษณ์ ที่น่าสนใจคือมีการดึงเอาสถาบันเข้ามาเป็นข้ออ้างด้วยว่า วัตถุประสงค์หลักประการหนึ่งของกลุ่มคือการปกป้องสถาบัน

 

มาถึงพศ. ๒๕๕๓ มีการจัดตั้งที่มีปัจจัยคล้าย ๒๕๑๙ มากทีเดียว เริ่มด้วยว่าการจัดตั้งนั้นมาจากฝ่ายการเมือง(อีกแล้ว) กลุ่มเสื้อแดง แล้วขยายผลไปเป็น หมู่บ้านเสื้อแดง กลุ่มพวกนี้ก็คือชาวบ้านตามชนบทเป็นหลัก (อีกแล้ว) จากนั้นแจกเสื้อแดงเป็นสัญลัษณ์ ยังมีการดึงเอาสถาบันกษัตริย์มาเกี่ยวข้องด้วยการอ้างว่า ต้องล้มระบบอำมาตย์เพื่อสร้างความเท่าเทียมกัน

 

นี่เป็นการระบุทางอ้อมไปถึงสถาบันนั่นเอง เพราะอำมาตย์คือบริพารของกษัตริย์ ถ้าหมดอำมาตย์ก็หมดกษัตริย์ ดังนั้นการตั้งเป้าของผู้นำเสื้อแดงนั้นเป็นเจตนาที่ “ย่อมเล็งเห็นผล” อย่างแนบเนียนพอควร หลอกคนได้มากทีเดียว

 

สถาบันกษัตริย์มีมานานนับพันปี และส่วนใหญ่แล้วสร้างชาติ ปกป้องชาติ จนทำให้ไพร่ฟ้าหน้าใสเป็นส่วนใหญ่  ไม่น่าเชื่อว่าเวลาเพียงสองปีเท่านั้นจะปลุกปั่นให้คนกลุ่มเดียวกัน (คือกลุ่มรากหญ้า) เปลี่ยนพื้นฐานความคิดเกี่ยวกับสถาบันสูงสุดของชาติไปได้มากเช่นนี้ ทั้งที่ว่าไปแล้วในพศ. ๒๕๕๓ นั้นถ้าไม่มีการยุแยงตะแคงรั่ว จะเห็นได้ว่ากลุ่มชนรากหญ้านั้นมีความจงรักภักดีต่อสถาบันเป็นอย่างยิ่ง ระดับความภักดีน่าจะสูงกว่าช่วงพศ. ๒๕๑๙ ด้วยซ้ำไป ทั้งนี้เนื่องจากพระราชกรณียกิจที่ทรงบากบั่นทำงานเพื่อพสกนิกรของพระองค์ที่ได้รับการรับรู้จากพสกนิกรอย่างกว้างขวางจากสื่อสารมวลชนรูปแบบต่างๆ  

 

ดังนี้แล้ว น่าถามมากว่า ทำไมกลุ่มชนนี้จึงเปลี่ยนแนวคิดพื้นฐานที่มีต่อสถาบันฯได้ง่ายเช่นนั้น??? (มีเครื่องหมายคำถามมากหน่อย ) 

 

กรณีเงินชดเชยจำนวนสูงมากที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ๑ จะจ่ายให้ต่อการตาย บาดเจ็บ จากการชุมนุมทางการเมืองนั้น ถ้าจะให้พบกันที่ทางสายกลาง ผมเสนอว่า..ไม่ควรให้เป็นตัวเงิน แต่ให้เป็นกองทุน “การศึกษา” จะดีกว่า เช่น ลูกเมีย พี่น้องท้องเดียวกัน สามารถใช้เงินนี้ในการเล่าเรียนศึกษาหาความรู้ได้ (โดยเงินต้องไม่ผ่านมือโดยตรง แต่ให้สถานศึกษาเบิกโดยอ้อมจากกองทุน)

 

ถ้าให้เงินโดยอ้อมแบบนี้ ก็อาจทำให้คนไทยเรามีการศึกษาสูงขึ้น จนรู้เท่าทันคนอื่นมากขึ้น และช่วยกระจายความรู้ออกไปให้มากขึ้น ส่งผลให้เกิดการพัฒนาทางการเมือง ...แต่ทำแบบนี้นักการเมืองไทยคงไม่ค่อยชอบ เพราะถ้าคนฉลาดมากขึ้นเท่าไร พวกนักการเมืองก็หลอกพวกเขาได้ยากมากขึ้นเท่านั้น

 

ในกรณีปกติประโยชน์จากการศึกษาคงได้แน่ เว้นแต่ว่าพวกเสื้อแดงไปเปิด “มหาวิทยาลัยแดง”  ใกล้ๆหมู่บ้านแดง แล้วสอนกันเองเรียนกันเองแบบเดิมๆ ใช้อารมณ์นำสมองแบบเดิมๆ โดยมีแกนนำเดิมๆ เป็น อาจารย์ มียศทางวิชาการเป็น ผศ. รศ. กันเพียบ ก็คงยิ่งไปกันใหญ่แหละครับ  แบบว่าเอาเงินจ้างแมวไปสอนปลาย่างแหละ อิอิ

 

อย่าเพิ่งหาว่าผมเป็นอริกับเสื้อแดงนะครับ เพราะผมนั้นลึกๆแล้วเห็นใจคนเสื้อแดงมากที่สุด มากกว่าพวกเสื้อเหลืองที่ผมเคยขึ้นเวทีปราศรัยที่ราชดำเนินสองครั้งเสียอีก (อาจารย์เก่ามหาลัยราดดำเนินนะเนี่ย)  ผมเชื่อว่าผมนี่แหละที่เป็นคนปั้นคำว่า “ความเหลื่อมล้ำ”  ที่เป็นต้นเหตุให้คนเสื้อแดงกระทำการต่างๆที่พวกเขากระทำ  จนคำนี้กลายมาเป็น “วาทกรรม” ที่ขับเคลื่อนกระบวนการเสื้อแดงไปแล้วก็ว่าได้

 

ลึกๆแล้วผมอยากให้ทุกฝ่ายชนะ โดยนำเอาข้อดีของทุกฝ่ายมาผสมผสานกัน  และต้องไม่ลืมการปรับปชต.ให้สอดคล้องกับนิสัยคนไทยด้วยนะ ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นพวกสีเสื้อไหนนำเสนอเลย โดยที่ผม(คนชอบถอดมากกว่าใส่เสื้อ...ธรรมดาของคนถางทางกลางป่าทึบ มันร้อนอ้าว)  ได้เขียนบทความนำเสนอปชต.ทางเลือกใหม่แบบไทยๆไว้นับร้อยได้แล้วกระมัง

...คนถางทาง (๑๘ มกราคม ๒๕๕๕)

หมายเลขบันทึก: 475016เขียนเมื่อ 18 มกราคม 2012 03:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 16:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ไม่อยากจะจินตนาการว่า หากระบบยังคงเป็นอย่างนี้ อีกไม่ต้องถึงทศวรรษ รับรองว่า ...

คนกลาง ผู้ประสาน ผู้นำ มีส่วนสำคัญยิ่ง ต่อการปรับแนวคิด หากยังยึดระบบอุปถัมภ์แบบไทย น่ากลัวค่ะ

เพิ่งกลับจากค่าย ลส. แต่ไม่ใช่ ลส.ชาวบ้านนะ ที่ อ.ขึ้นปราศรัย ไม่ได้ดูได้ฟัง แต่เดาว่า ท่าจะ..น่าดูเลยละมั้ง ด่าเก่งซะขนาด !!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท