๙๑. เรื่องหมา ๆ...


เรื่องหมา ๆ...

 

 

เรื่องหมา ๆ...

 

           วันนี้ ตั้งแต่เช้าจะออกมาทำงานที่มหาวิทยาลัย ได้เรื่องมา ๑ เรื่อง เรียกว่า "งานเข้าแต่เช้าเลย"...แต่ไม่ใช่งานในที่ทำงาน เป็นงานที่เกิดระหว่างเพื่อนบ้าน โดยมีหมาของเพื่อนบ้านเป็นต้นเหตุ...

           จากที่ผู้เขียนได้ปรับปรุงบ้านใหม่ โดยปูพื้นกระเบื้องภายในบริเวณบ้าน เพราะเจ้าของโครงการเดิมที่ซื้อมานั้น เทปูนให้เฉย ๆ ไม่ได้ปูกระเบื้องไว้ให้ เมื่อปลายปีที่แล้วผู้เขียนก็เลยจ้างช่างมาปูกระเบื้องให้ เมื่อปูเสร็จ ก็มีมิตรที่ไม่ได้รับเชิญ คือ "หมา" ของเพื่อนบ้านเข้ามาถ่ายมูลเอาไว้ให้ในบริเวณที่ปูกระเบื้อง ซึ่งผู้เขียนก็แปลกใจว่า "ทำไมบ้านของมันทำไมมันไม่ไปอึ ทำไมมันต้องมาอึที่บริเวณบ้านเราที่ปูกระเบื้องเสร็จใหม่ ๆ"...ผู้เขียนก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะนิสัยตัวเองไม่ค่อยชอบจะไปมีเรื่องกับเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ก็ได้แต่เก็บอึที่ถ่ายไว้ และก็อีกหลายครั้งที่เป็นเช่นนี้...สุดท้ายผู้เขียนก็ทนไม่ได้ ก็เลยให้ช่างนำตาแกรงเหล็กถี่ ๆ มาขึงตรงประตูหน้าบ้านเพื่อไม่ให้หมารอดเข้ามาในบ้านแล้วมาถ่ายอึกเละเทอะ...เพราะมันถ่ายหลายครั้งแล้ว และก็ทนไม่ได้ที่ตัวเราเองไม่ได้เลี้ยง แต่ก็ต้องมานั่งเก็บอึหมาให้ตลอด มันคงไม่ไหว เพราะเราก็ไม่ชอบความสกปรก...

            ถ้าจากใจจริง ๆ แล้ว ผู้เขียนจะเป็นคนรักสัตว์ เพราะสัตว์ทุกตัวเกิดมาบนโลกต่างก็ต้องการมีชีวิตเพื่ออยู่รอดด้วยกันทั้งนั้น...แต่ความที่ไม่ชอบว่า ถ้าตัวเราเลี้ยงมันก็ต้องฝึกให้มันถ่าย อึ เป็นที่เป็นทาง เพื่อตัดปัญหา เพราะเราก็ใช่ว่าจะอยู่บ้านนี้ทุกวัน เนื่องจากบางครั้งเราก็ต้องไปราชการที่อื่นหลายวัน ทำให้เป็นภาระในการเลี้ยง จึงไม่เลี้ยงหมาหรือแมว เพราะเกรงว่ามันจะอดเวลาเราไม่อยู่บ้าน...

            ความที่ผู้เขียนไม่ได้เลี้ยงหมา แต่ก็ต้องมาเก็บอึหมาซึ่งเป็นหมาของเพื่อนบ้าน ครั้ง สองครั้งก็ไม่เท่าไหร่ แต่นี่มันถี่เหลือเกิน ผู้เขียนก็เลยนำตะแกรงมาปิดตรงประตูหน้าบ้านเพื่อไม่ให้มันเข้ามาในบ้านถ่ายเลอะเทอะแล้วมาเป็นภาระให้เราต้องมาเก็บอึอีก...

              แต่ที่ไหนได้ วันนี้พอผู้เขียนเปิดประตูบ้านเพื่อถอยรถยนต์ขับไปทำงาน เจ้าหมาตัวนั้น มันแอบเข้ามาในบ้านอีกแล้ว ซึ่งแต่ก่อนมันก็เข้ามา แต่ผู้เขียนไม่เห็นเพราะมันตัวเล็ก พี่ข้างบ้านบอกว่า "วันก่อนมันก็เข้าบ้านของผู้เขียนแล้วออกมาไม่ได้ เพราะติดตะแกรง เขาจึงช่วยนำมันมาเอาออกทางด้านบน..แต่ก็ยังไม่วาย เจ้าของหมากับบอกพี่ข้างบ้านว่า "เป็นเพราะผู้เขียนนำตะแกรงมาปิดทำให้หมาของเขาออกไม่ได้" เอ๊า!!!...เป็นอย่างนั้นไป "มันเป็นความผิดของฉันหรือนี่ ที่นำตะแกรงมาปิดประตู...ฉันทำเพื่อป้องกันไม่ให้หมามันเข้ามาถ่ายเลอะในบ้านฉันต่างหาก...แต่กลับกลายว่าเจ้าของหมาหาว่าเป็นเพราะฉันนำตะแกรงมาปิดประตู หมาของเขาจึงออกจากบ้านฉันไม่ได้"...เออนี่แหล่ะหนอโลกมนุษย์...เป็นถึงผู้บริหารของสถานศึกษาแห่งหนึ่ง แต่กลับมีความคิดแบบนี้...ไม่น่าเชื่อ...แต่ก็อโหสิในความคิด...

                พี่ข้างบ้านบอกว่า ได้ช่วยมันเอาออกมา...แต่แล้วเมื่อมันเคยเข้า มันก็เข้ามาอีกในวันนี้ ระหว่างที่ผู้เขียนกำลังถอยรถยนต์ออกจากบ้าน แต่บังเอิญ สายตาของผู้เขียนก็เหลือบไปเห็นหมาตัวนั้นพอดี มันกำลังวิ่งเข้าไปหลังบ้าน...ชักอารมณ์ขึ้น...เอาอีกแล้วเข้ามาทำไม บ้านตัวเองก็มี ทำไมมันไม่อยู่ ไม่วิ่ง มาวิ่งบ้านฉันทำไม...เมื่อถอยรถแล้วจอดเสร็จ...ผู้เขียนก็เดินไปไล่มันหลังบ้าน รอบแรกก็ไม่เห็นว่ามันออกจากบ้านเราไปแล้วหรือไม่ เพราะมันเร็วมาก ตัวเล็ก เอาอีกรอบสิน่า...ขอเดินดูรอบบ้านอีกรอบ...พอดูแล้วไม่มีก็โอเค...ปิดประตูล็อคให้เรียบร้อย...และใจก็อยากให้เจอกับเจ้าของหมา เพื่อนบ้านที่อยู่เยื้อง ๆ เหมือนกันจะได้พูดกันให้รู้เรื่องไปเลย จะได้รู้ว่า เหตุที่เราปิดตะแกรงตรงประตูไว้เพราะอะไร?...

             ไม่รู้ว่าบุญหรือกรรมของเจ้าของหมากับผู้เขียน รถยนต์ของเจ้าของหมาตัวนั้นโผล่ตรงปากซอยพอดี...ความที่เคยใจเย็นมานานแล้ว และไม่สามารถที่เย็นต่อไปได้แล้ว มันก็มีขีดจำกัดของมัน...ผู้เขียนรอให้เจ้าของหมาเปิดประตูรถยนต์ออกมาก่อน...พอเขาเปิดประตูรถออกมา เท่านั้นแหล่ะ...ผู้เขียนก็ถามแบบว่าไม่ให้เขาตั้งตัว เพราะปกติผู้เขียนมาซื้อบ้านในเมืองแล้วก็จะไม่ค่อยชอบไปยุ่งกับคนอื่น และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ว่าในเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น เราจะอยู่แต่ในบริเวณของเรา แต่ก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับพวกเขาได้ ยามที่พวกเขาไม่อยู่ เราก็จะเป็นหูเป็นตาให้ในเรื่องของขโมย...แต่นิสัยส่วนตัวแล้วจะไม่ค่อยชอบไปพูดคุย สุงสิง เพราะทราบว่า การพูดคุยกันมากนักนั้นไม่ค่อยดี มักจะมีเรื่องมาให้เดือดร้อน...สู้อยู่อย่างสงบสุขดีกว่า

              คำพูดที่ผู้เขียนว่าเจ้าของหมาเป็นคำพูดแรก คือ "นี่คุณ สาเหตุที่ฉันปิดตะแกรงที่ประตูบ้านฉัน นี่ก็เพราะ หมาของคุณมันเข้าไปอึในบ้านของฉัน ฉันต้องเก็บอึหมาแล้วก็ล้างอยู่เรื่อย ๆ หลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยพูด...แต่มันก็ชอบแอบเข้ามาในบริเวณบ้านฉันอยู่เรื่อย ๆ วันนี้ก็อีก มันเข้าไปอีกแล้ว และถ้าฉันไม่เห็นและปิดประตูก็จะขังมันไว้ข้างในแล้วมันก็จะออกไม่ได้อีก"...เพราะผู้เขียนต้องการให้เจ้าของหมารู้สึกตัวไงว่า การจะว่ากล่าวใครสักคนให้รู้จักมองดูตัวเองก่อน ๆ ที่จะไปว่าใครเขา ว่าใครกันแน่ที่ถูก ที่ผิด...เจ้าของหมาอึ้ง หน้าเสียไปเหมือนกัน เขาบอกกับผู้เขียนว่า "ให้ผู้เขียนเห็นแล้วก็ไล่มันไปหรือตีมันไป"...ก็มันจะเห็นอย่างไรได้ ผู้เขียนก็อยู่แต่ในบ้าน มีภารกิจที่จะต้องทำในบ้านไม่ใช่มาอยู่บริเวณบ้านนี่นา...พูดแปลก...มันอยู่บริเวณบ้านของเราด้านนอก...แต่ถ้าฉันเห็นมันจริง ๆ มันจะเหลือมาถ่ายอึเลอะเทอะรึ...เขาช่างพูดก่อนที่จะคิดจริง ๆ...ผู้เขียนโต้ไปว่า...ตัวฉันไม่ทำหรอก เพราะในใจมันรักสัตว์ จะทำไปเพื่ออะไร ทำไปก็จะมีเรื่องกันเปล่า ๆ จริงไหม เพราะเพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเจ้าของหมามีนิสัยอย่างไร?...อย่าไปแตะเป็นดีที่สุด...เหมือนคำสอนโบราณเคยกล่าวไว้...

               บอกได้แค่นั้น ผู้เขียนก็ปิดประตูบ้านขับรถยนต์มาทำงานที่ มหาวิทยาลัย ด้วยอารมณ์ที่เดือดนิด ๆ ...ก็ให้รู้ไงว่า หมาของคุณมันไม่ธรรมดา มันไม่ถ่ายในบ้านของคุณ มันเที่ยวมาถ่ายเลอะเทอะในบริเวณบ้านของคนอื่นเขา ทำให้เขาต้องเดือดร้อน...เออหนอ!!!...คนเรา นี่ขนาดเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันนะ...คงไม่คิดหรอกว่า ตัวเองเลี้ยงหมาแล้วหมาไปทำความเดือดร้อนให้คนอื่น คิดอยากเลี้ยงก็เลี้ยง...เวลาไม่อยู่บ้านก็ปล่อยให้วิ่งเล่นบนถนนในซอย ถ้ามีรถยนต์สักคันเขาวิ่งมาแล้วทับมันจะทำอย่างไร...มันจะไม่มีเรื่องกันรึ...และก็ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้าน...

                 ผู้เขียนเคยเข้าไปอ่านในบล็อกที่เพื่อน ๆ ได้เขียนใน G2K. เหมือนกัน บางท่านก็มีปัญหากับเพื่อนบ้าน ในเรื่องหมา ๆ นี้เช่นกัน...มันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้น...ผู้เขียนคิดว่า "การเลี้ยงหมา นั้นดี เลี้ยงได้"...แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของหมาว่า คุณจะดูแลมันอย่างไร ฝึกมันอย่างไร ไม่ให้มันไปทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน...แล้วคุณมีเวลาให้กับมันมากน้อยเพียงใด...สุดท้ายเมื่อคุณมีเรื่องกับเพื่อนบ้านแล้วคุณจะอยู่อย่างไร?...หัดเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง...อย่าใช้แต่ความรู้สึกของตัวเองมาเป็นหลักในการอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม...ยิ่งถ้าเป็นข้าราชการมีตำแหน่งใหญ่โต...จะทำให้เขาดูแคลนเราได้...

 

หมายเลขบันทึก: 474409เขียนเมื่อ 12 มกราคม 2012 09:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม 2013 15:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ อาจารย์ Ico48
  • ถ่ายกับอาจารย์เฉลิมชัย ใช่ไหมค่ะ...

ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ อาจารย์ Ico24

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท