เราเริ่มปลูกพวงครามไว้หน้าบ้าน ใต้ร้านตรงนี้สองต้น ขวาและซ้าย
อีกสองต้น ปลูกไว้ใต้ต้นพญาสัตบรรณ หน้าบ้านเช่นกัน เผื่อเหลือเผื่อขาด
แรกนั้น สองต้นที่ปลูกใต้ต้นพญาสัตบรรณโตเร็วกว่ามาก เพราะพยายามสูงเพื่อรับแสงแดด
อย่างไรไม่ทราบ สองต้นที่ใต้ร้านหน้าบ้านนี้ โตแซงหน้าไปไกล ตามไม้รวกที่เราปักนำให้เธอเลื้อยขึ้นร้าน
พักหลัง เมื่อเธอแข็งแรง โตเต็มวัยรุ่น อายุประมาณสองถึงสามปีเห็นจะได้ ร้านที่ตั้งใจให้พวงครามไต่ หากเธอหัวสูงไปกว่านั้น ชูช่อสูงกว่าร้านไปไกล จนใกล้หลังคาบ้านขึ้นทุกที
“จะถึงหลังคาบ้านหรือเปล่าคะคุณหม้อ” แม่บ้านชอบถามอย่างนี้
ที่เธอพยายามไต่ขึ้นสูงไปเรื่อย ๆ นั้น เห็นจะเป็นเพราะไม้รวกที่เราหาไปปักนำทางไว้ ความสูงของไม้ที่ปักนั้น สูงเลยเกินร้านไปสักครึ่งเมตรได้
สรุปว่า เป็นความผิดเราเองที่สอนเธอให้ บินหรือปีน สูงเกิน
จึงต้องตัดไม้รวกออกทางข้างล่าง และพยายามรูดไม้รวกให้ลงมาทางปลายต้น
หากรูดลำบากมาก เพราะกิ่งก้านของเธอ ซึ่งเป็นธรรมชาติของไม้เลื้อย เธอกอดเกี่ยวกระหวัด เหนี่ยวรัดแขนของชายคนรักไว้แนบแน่น
จนเราต้องตัดสินใจ ริดกิ่งของเธอบางส่วนที่ไม่ยอมปล่อยไม้รวก สิ่งที่เธอรัดเหนี่ยวไว้แน่ ๆ
ตัด หรือ ริด จริง ๆ คือใช้มีดอีโต้ฟันในบางจุด
ยอมให้เธอ ลดอายุลงมา กลับกลายเป็นเด็ก แล้วรอเธอโตใหม่ คล้ายกับการอบรมเธอไม่ให้ยึดติด
เหมือนสอนเราเองด้วย อย่ายึดติดบางสิ่ง หรือ เครื่องค้ำจุนบางสิ่งจนเกินไป เกิดภัยต่อตัวเอง
บางครั้งเธอหรือเราเอง ต้องหัดปล่อยวาง ก้าวถอยหลัง
ม่วงครามพราวเสน่หา
ห้าแฉกไล่สีพาฉงน
เส้นสายอ่อนช้อยน่ายล
ใฝ่สูงหมุนวนชูช่อไกล
คว้างคว้างหล่นสู่พื้นดิน
ดั่งชีวินมนุษย์เลื่อนไถล
มีสูงต่ำดำขาวใกล้ไกล
ไหวแปรแท้จริงสัจธรรม
พวงคราม กระจุ๋มกระจิ๋ม น่ารักจังเลยค่ะพี่หมอเล็ก
น่าสนใจ หากต่อไป จะทำระแนงไม้ นั่งเล่น ขอบคุณค่ะ
Pooน้องปูเป็น คนประจำ แม้ไม่ใช่คนแรกแต่พี่รอน้องปูจ๋าทุกบันทึกเลยค่ะ
ขออนุญาตไปพรวนบันทึกน้องปูจ๋ามาบล็อก สนทนาวิสาสะบ้าง มาคุยกันต่อน่ะค่ะ
จากความทรงจำของพี่ เรารู้จักกันเพราะ
รวงข้าวที่มักค้อมตัวอยู่เสมอ
ใช่มั้ยคะ
|