เมื่อนั้นเราเกิดความคับข้องใจเกิดความทุกข์ ดู ๆ ไปแล้ว เป็นการหาความสุขใส่ตัวแบบ เอาชีวิตจิตใจไปแลกกับมัน ตกเป็นทาสของมัน
ทั้งที่รู้ว่า ความสุขชนิดนี้เป็นความสุขที่เป็น อนิจจตา คือไม่เที่ยง
ความสุขอีกอย่างหนึ่งคือ ความสุขในทางธรรม คือสุขแบบอิสระ
(มีต่อ)
ก่อนอื่นแม่ขอคัดลอกตารางเปรียบเทียบ ลักษณะคนที่มีความสุข และคนที่มีความทุกข์ ให้ลูกอ่านเปรียบเทียบดูก่อน
ลักษณะคนที่มีความสุข |
ลักษณะคนที่มีความทุกข์ |
แผ่
|
|
แล้วเดี๋ยวเราคุยกันต่ออีกนะครับ
แม่ติดงานเล็กน้อยครับ
ที่ใดใช้อำนาจมากที่นั่นมีคอรัปชั่นมาก
อาจเป็นเหมือนเมืองไทยในตอนนี้ก็ได้
เพราะมีอำนาจรวมศูนย์อยู่ในเมือง
วิธีแก้ไขแบบสวิสฯคือกระจายอำนาจออกไป
กระจายอำนาจไปแก่ชุมชน
แก้รัฐประหารได้ด้วย
ท่านเรียกร้องปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ
ให้ชุมชนช่วยกันทำ ตำบลคิดเองทำเอง
อำเภอ จังหวัด กลุ่มจังหวัด คิดเองทำเอง
จะแก้ปัญหาได้แน่
คุณหมอนักคิดกล่าว.............รายการเจาะข่าววงใน
แม่อ่านหนังสือ พุทธธรรม ยอมรับว่า อ่านทำความเข้าใจได้ค่อนข้างยาก
จึงลองเอาให้ลูกชายอ่านเอง แล้วเว้าซื่อ ๆ ว่า
"ลูกครับ อ่านแล้วเล่าหรือย่อแก่นเนื้อ ๆ ให้แม่ฟังหน่อยเถิด"
ลูกตั้งหน้าตั้งตาอ่านได้สักพัก
หยิบเล่ม "คืนสู่สามัญ" ของพระไพศาล วิสาโล มาอ่านด้วย
แล้วลูกก็พูดให้แม่ฟังว่า
"ความสุข หรือคนที่มีความสุขก็คือคนที่รู้จักสังเกตและระลึกสิ่งเล็กหรือสิ่งใหญ่ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วมองเห็นข้อดี รับรู้ถึงความสุข ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ หรือข้อเปิ่น ข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ "
"อย่างเช่น วาน วาน นักเขียนจากบล็อกเกอร์ชื่อดังจากไต้หวัน หรือไม่ก็ พี่โน้ต อุดม แต้พานิช"
เข้าท่าเหมือนกันแฮะ
ความสุขอันประณีต
สำนวนของลูกอันสืบเนื่องมาจากกระดาษโน้ตแผ่นน้อยของพ่อ
แม่จะบันทึกไว้จ้ะ