ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป โรงเรียนไทยจะกลายเป็นโรงเรียนพูดภาษาอังกฤษสัปดาห์ละหนึ่งวัน เป้าหมายของกระทรวงชวนเคลิ้มไม่น้อยไปกว่าชวนให้เชื่อ (หรืออาจมากกว่าก็ได้ในบางกรณี) มองในแง่บวก กระทรวงศึกษาฯของนายกรัฐมนตรีที่พูดไม่ชัดเอามากๆทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษนี้ อาจเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยก็ได้ที่ทำได้สำเร็จหลังจากล้มเหลวมาทุกรัฐบาลในอดีต (รวมทั้งครูภาษาอังกฤษจำนวนมากด้วย) และครูเก่าอย่างผมที่เคยสอนภาษาอังกฤษหลายปีก็ไม่ควรมีสิทธิได้รับการยกเว้นการมีส่วนในความล้มเหลวดังกล่าว แม้ว่าศิษย์หลายคนจะไปได้สวยพอสมควรก็ตาม
นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการนี้ไม่น่าจะมีความสัมพันธ์กับภาษาอังกฤษของนายกรัฐมนตรีไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เพราะได้เตรียมไว้ก่อนการสำแดงความสามารถของนายกเป็นเวลานาน อนึ่ง ถ้าขืนรับว่ามีความสัมพันธ์กันก็จะทำให้รัฐบาลนี้เป็นผู้สร้างสองมาตรฐานเสียเองได้โดยไม่ยาก
ผมขอไม่วิจารณ์ท่านนายกชาวจังหวัดเดียวกันกับผม เพราะมีคนเล่นงานท่านหนักๆหลายรายแล้ว และฝ่ายกองเชียร์ก็ได้ออกมาปกป้องท่านเต็มที่แล้วเช่นกัน จนบางรายสีข้างถลอกปอกเปิกไปเลย
เจตนาดีๆของกระทรวงศึกษาฯเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งมาคิดได้ การใช้อำนาจสั่งให้ปฏิบัติจริงนั้นต่างหาก ที่เพิ่งปรากฏ อย่างไรก็ตาม คำสั่งอย่างเดียวกับวันเดียวต่อสัปดาห์จะให้คาดหวังผลอะไรจริงจังคงจะไม่ได้ถ้าครูอังกฤษยังคง teach ABOUT English ไม่ได้ teach THE English และการวัดผลยังคงตั้งเกรดไว้เป็นเป้าหมายอย่างเดิม เพราะคนไทยที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้จำนวนมาก สอบภาษาอังกฤษผ่านกันทั้งนั้น แถมในกลุ่มนี้มีครูภาษาอังกฤษปนอยู่บ้างอีกด้วย
ประโยคหนึ่งของ น.ม.ส. ที่กล่าวว่า “แม้เทวดาก็ฝืนใจคนหัวดื้อไม่ได้” นั้นยังใช้ได้เสมอกับคนที่ไม่อยากเรียนไม่อยากฝึก แต่ต้องซังกะตายเรียนเพื่อสอบให้ผ่าน คนแบบนี้พบได้ในทุกระดับการศึกษาและทุกแห่งในโลก จึงไม่แปลกที่มหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตชาวไทยที่จบจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษทุกวันตลอดปีจำนวนหนึ่ง จะยังคงใช้ภาษาอังกฤษได้แย่เหมือนไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆเลย อะไรไม่ว่า เราเคยมีผู้บริหารในกระทรวงศึกษาธิการที่เป็นแบบนี้มาแล้วไม่น้อยเลยเสียด้วย ปัจจัยตามย่อหน้านี้คือตัวแปรที่สำคัญมากเช่นกัน และเป็นโจทย์ที่กระทรวงศึกษาฯคงจะแก้ไม่ตกอยู่ดี ถึงแม้จะต้องให้เด็กช่วยกู้หน้าให้ก็ตามเพราะเด็กดื้อไม่เคยขาดหายไปไหน
แล้วถ้าผู้เรียนบางคนย้อนมาล่ะว่า “ขนาดนายกหรือรองนายกพูดไม่ได้ความยังมีคนซูฮกเลย คนธรรมดาๆอย่างพวกเราจะเก่งไปหา(.....ตรงนี้สามารถเติมเอาเองได้ตามอัธยาศัย)อะไรให้เสียแรงเสียเวลาเปล่าๆ” ท่านเจ้ากระทรวงจะตอบว่ากระไร
Soon the need for English will show up as "better business" or money-making option, then those who never thought they need English would come in and pay for evening English classes.
The salary for a primary school teacher in Thailand USD15,000,
in Australia USD45,000 in USA USD40,000+. The gap is ENGLISH! Not the training or the ability to teach.
สวัสดิ์ค่ะท่านอาจารย์
เชื่อมั่นว่า เพราะทักษะแต่ละด้าน แปรผัน ตามการฝึกฝน ค่ะ
ขอเพียง ใจ ยังเป็นไทย แม้จะเรียน พูด ภาษาต่างด้าวค่ะ :)
ขอบพระคุณบันทึกดีๆ ส่งความสุขท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ค่ะ
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๕ ค่ะ ขอส่งความสุขด้วยคำกล่าวว่า สุขสันต์ วันปีใหม่ และทุกวันคืนตลอดไปนะคะอาจารย์... คนไทยจำนวนมากพูดภาษาอังกฤษได้ดี มีทั้งบัณฑิต, มหาบัณฑิต, ดุษฎีบัณฑิต, พ่อค้า, แม่ค้า, แม่บ้าน ฯลฯ...หลากหลายกลุ่มอาชีพ ...จึงควรมีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในรูปแบบกลุ่มอาชีพต่างๆ ...เพราะมีหลายอาชีพที่ต่างประเทศต้องการคนไทยแต่คนไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้...ส่วนในประเทศอาชีพที่ต้องพูดภาษาอังกฤษก็ควรได้เงินมากขึ้น...คงจะทำให้เด็กรุ่นหลังอยากเรียนอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษกัน นะคะ...
มาส่งความสุขด้วยปฏิทินชุด "รอยยิ้มของพ่อ" ค่ะ