ชีวิตหลังเออรี่อยู่กับงานในไร่ กับดิน เป็นชีวิตที่แตกต่างกันแต่ไม่มากนัก นอกเหนือจากงานจิตอาสาผู้ป่วยโรคเรื้อรังในโรงพยาบาล ทุกๆวันหยุดจึงมักจะโผยผินกลับไปหาธรรมชาติ และเริ่มต้นเรียนรู้ ที่จะอยู่กับน้องไร่ มาเป็นเวลาเกือบครบปีแล้ว เรามีเป้าหมายให้ที่นี่เป็นที่พักผ่อน สำหรับครอบครัว และกัลยาณมิตรทุกท่านที่รักความสงบ เวลานี้ผืนดินแห่งนี้จึงได้รับการดูแลเอาใจใส่ด้วยการปลูกต้นไม้ โดยเน้นไม้ป่าที่กำลังจะหายไปตามที่ใจปรารถนา ไม้หอมตามที่ท่านอ.ดร.แสวง รวยสูงเนินได้ให้คำแนะนำ และปลูกผักผลไม้ ไม้กินได้ตามที่เพื่อนๆแนะนำ เพาะเห็ดขายเป็นรายได้มาจุนเจือบำรุงป่า ส่วนการทำนาบกนั้นกำลังอยู่ระหว่างทดลอง ล้มลุกคลุกคลานไปหลายตลบ แบบตลกๆ ถึงวันสำเร็จเมื่อไหร่คงมีเรื่องให้ได้โม้หลายตอน อิอิ
วันนี้ไม้ผลที่เจ้าของเดิมปลูกไว้ และเจ้ามะม่วงน้อยที่ฉันหากิ่งตอนมาปลูกใหม่ก็เริ่มออกดอก ออกผลมัน เจ้ามะม่วงน้องใหม่มันพยายามออกดอกมา 2 ครั้งแล้ว แต่ก็ตัดใจตัดทิ้งไป เพราะเกรงว่าจะทำให้ต้นแย่ในปีต่อไป หลังจากตัดดอกทิ้งไปไม่นาน มันกลับออกดอกใหม่อีกเป็นครั้งที่ 3 ผู้จัดการไร่จึงบอกว่า "ปล่อยมันไปก่อนเถอะนะแม่" หลายต้นน้อยๆนี้จึงพากันระรื่นออกดอกผลไปพร้อมๆกับไร่ใหญ่โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี นอกจากน้ำEM ที่เราทำมาจากครัว และน้ำจึงรู้สึกยินดี และดีสำหรับเรามาก เพราะเราตั้งใจจะเป็นเกษตรกรรักษ์อินทรีย์ แม้จะเหนื่อยแต่ด้วยความตั้งใจเราต้องทำได้
อีกอย่างเป็นอุบายที่จะได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีในบั้นปลายชีวิตของตนเอง และกัลยาณมิตรทุกท่านที่มาเยือนให้รู้สึกเสมือนหนึ่งเป็นบ้านของกัลยาณมิตรเอง
สวัสดีค่ะพี่ต้อย
ยินดีกับขวบปีที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติค่ะ
มองเห็นภาพแห่งความสุขเวลาพี่อยู่กับน้องไร่ค่ะ
สุขสันต์ส่งท้ายปีเก่า นะคะ
ชีวิตในไร่สวน เป็นชีวิตในฝันของผมเลยครับ