“ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”


“ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”

“ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”

“ความรักทำให้คนตาบอด”

        
        คำกล่าวทำนองนี้เป็นคำเตือนที่เราได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ  ประหนึ่งเป็นการชี้ให้โทษของความรัก   อันที่จริงทุกสิ่งมีทั้งคุณและโทษ  ความรักก็มีคุณประโยชน์ 
เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจแช่มชื่นมีความสุข  โดยเฉพาะเมื่อรักสมหวัง แต่ก็มีโทษมากเช่นกัน เมื่อเราปล่อยให้ความรักเป็นความหลงจนขาดการพิจารณา  ไตร่ตรอง 
         ดังมีคำสอนเรื่องโทษของความรักในพระราชนิพนธ์ ของรัชกาลที่ 6  ดังนี้

                        
         ความรักเหมือนโรคา             บันดาลตาให้มืดมน 
ไม่ยินและไม่ยล                            อุปสรรคะใดใด

          ความรักเหมือนโคถีก           กำลังคีกผิขังไว้    
ก็โลดจากคอกไป                          บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง

         ถึงหากจะผูกไว้                    ก็ดึงไปด้วยกำลัง              
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง                             บ หวนคิดเจ็บกาย

คำสำคัญ (Tags): #kmanw
หมายเลขบันทึก: 471813เขียนเมื่อ 20 ธันวาคม 2011 09:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน 2012 12:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ท่านพุทธทาสว่า ผู้กำลังเสพความรักเป็นอารมณ์ก็เหมือนผู้เกิดเสวยชาติเป็นสัตว์เดรัจฉาน ส่วนจะเป็นสัตว์อะไรก็ขึ้นกับความลุ่มหลงมัวเมาในรักนั้น โดยเปรียบว่าสัตว์นั้นมีสมองน้อยกว่ามนุษย์ ขาดสติปัญญาความเฉลียวฉลาด ผู้ตกอยู่ในห้วงรัก ก็มักมีดวงตามืดบอดมองไม่เห็นความเป็นจริงแห่งโลก ลิ้นไม่อาจรับรสแท้จริงได้แม้นน้ำต้มผักขมๆก็หวานชื่น นี่เองคือความรัก

การเรียนรู้ชีวิต ด้วยความรัก ทั้งที่รักและถูกรักเกิดขึ้นกับคนธรรมดาอย่างเราเสมอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท