ได้อ่านเรื่อง "แม่ไม่เคยคิดเงิน" ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งในหนังสือพลังชีวิต(Chicken Soup for the soul) เขียนโดย แจ๊กแคนฟิลด์, มาร์ก วิกเตอร์ แฮนเซน, เจนนิเฟอร์ รีด ฮอว์ธอร์น และ มาร์ช ชิมอฟฟ์ แปลโดย งามพรรณ เวชชาชีวะ เห็นเป็นเรื่องกินใจดี เลยนำมาแบ่งปันกันต่อ เรื่องมีอยู่ว่า...
...เจ้าเด็กหญิงตัวน้อยของเราเข้าไปหาแม่และส่งกระดาษให้ หลังจากแม่เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้วเธอก็ก้มลงอ่าน...
ค่าตัดหญ้า 5 บาท
ค่าทำความสะอาด 1 บาท
ค่าซื้อของให้แม่ 2.50 บาท
ค่าดูแลน้องชาย 2.50 บาท
ค่าเอาขยะไปทิ้ง 1 บาท
ค่าได้คะแนนดี 5 บาท
ค่ากวาดสนาม 2 บาท
รวม ค้างชำระ 19 บาท
...เธอหยิบปากกาขึ้นมา พลิกไปด้านหลังแล้วเขียน...
เก้าเดือนที่แม่อุ้มท้อง ไม่คิดเงิน
เวลาแม่พยาบาลและดูแลลูก ไม่คิดเงิน
ค่าที่ลูกทำให้แม่เสียน้ำตา ไม่คิดเงิน
ของเล่น อาหาร เสื้อผ้า พาเที่ยว ไม่คิดเงิน
แม้แต่เช็ดน้ำมูกให้ ไม่คิดเงินหรอกจ๊ะลูก
เมื่อรวมทั้งหมดเป็นราคาเต็มของความรัก ไม่คิดเงินเหมือนกัน
...เมื่อลูกสาวของเราอ่านสิ่งที่แม่เขียนแล้ว น้ำตาหยดโตก็ไหลออกมา เขาสบตาแม่ และพูดว่า
"แม่คะ หนูรักแม่จริงๆนะคะ"
แล้วเขาก็เอาปากกาเขียนหนังสือตัวโตๆว่า
"จ่ายหมดแล้ว แม่จ่ายหมดแล้ว แต่ลูกทอนให้ไม่หมด"
สมัยเด็ก ๆ คำว่าพ่อแม่ มีบุญคุณกับลูก ผมรู้แต่ไม่เข้าใจ
ต่อมาปี 2533 วันที่แฟนคลอดลูกสาวโดยการผ่า
ได้ประคบประงมจนกระทั่งเติบโตเป็นวัยรุ่น
ตั้งแต่วันที่ลูกคลอด ผมเข้าใจอย่างลึกซึ้งกับคำว่า บุญคุณพ่อแม่
และหลายปีมานี้ ผมและแฟนต่างเฝ้ารอว่า
เมื่อไหร่ลูกจะเข้าใจถึงความรัก ความห่วงใย ของพ่อแม่
อย่างน้อยให้รู้จักรักตนเอง นำตนเองไปในทางที่ดี
มีความรู้ที่สูง (เท่าที่จะทำได้) เพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองให้ได้