จากบันทึกของผม...เชียงคานครั้งที่หนึ่งของปี
แม่พาผมไปเลย (3)...เชียงคาน...ตัวตน...การเปลี่ยนแปลง
แม่พาผมไปเลย (4)...ฟ้าคราม...มวลเมฆ...แก่งคุดคู้
แม่พาผมไปเลย (5)...ประวัติแก่งคุดคู้...สายเลือด...หนังสือ
-------------------------------------------------------
จะว่าไปแล้วผมเป็นคนเชื้อสายจังหวัดเลย...เพราะเตี่ยกับแม่...เกิดและเติบโตที่นี้ เชียงคานของผมครั้งนี้...คึกคักกว่าครั้งแรก... นักท่องเที่ยวมากมาย...รถรานานาชนิดจอดเรียงราย...ที่พักเล็กใหญ่...ที่กางเต้นท์...ผุดเบ่งบานราวดอกเห็ด กลางคืนที่เชียงคานแสงสีเสียงวันนี้...ไม่เคยหลับใหล การเปลี่ยนแปลงของเชียงคานวันนี้...ช่างมากมายนัก เพราะกระแสความโหยหวน...โหยหา...บริบทแห่งอดีตกาล...ของผู้คน แต่สิ่งหนึ่ง...ที่ไม่เคยห่างหาย..และบ่งบอกความเป็นตัวตนของที่นี้ นั่นก็คือ...รอยยิ้ม...น้ำใสไมตรี...ความสดใสบริสุทธิ์...ของผู้คนเชียงคาน นอกจากผู้คนขวักไขว้เบียดเสียด...เสียงการจับจ่ายสิ่งของ....แสงแฟลชจากกล้อง เสียงเพลงบรรเลงจากร้านรวง...เสียงขับกล่อมของวณิพก...คนเปิดหมวก เส้นทางสายยาวไกลของตลาดร้อยปี... ทำให้ผมหลบมุม...มานั่งรอเพื่อน ๆ ...อยู่เส้นทางสุดท้าย...บนขอนไม้เก่า ๆ แว่ว ๆ ผมได้ยินเสียงคนแก่ผู้หญิงท่านหนึ่ง... บอกกับคนในรถเก๋ง...ใหม่เอี่ยมป้ายทะเบียนกรุงเทพ ฯ ...ที่กำลังลังเลจะเลี้ยวเข้าไปซอยข้างใน “...คุณขา...อย่าขับรถไปเลยนะค่ะ..ข้างในเป็นเส้นทางตลาดร้อยปี...เข้าไปไม่ได้หรอกคะ... เอาจอดไว้ที่บ้านยายนี่แหละค่ะ....ยายจะดูให้...ไม่หายหรอกคะ...” เสียงของคุณยายเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ...ที่ผมโหยหามานาน...บันดาลให้หายเหนื่อย... เชียงคาน...ต้องเปลี่ยนแปลง...
ตั้งแต่ต้นปี...ถึงปลายปี...ผมได้มาเชียงคาน และแก่งคุ้ดคู้ ถึง 2 ครั้งแล้ว
แต่คานหลัก...ของที่นี้...อย่า....เปลี่ยนไปเลย....
(ภูมิปัญญา...เป็ดจาก...รากไม้)
เห็นภาพบรรยากาศ เชียงคาน แล้วให้รำลึก
เคยไปเยือนเมื่อเจ็ดปีก่อน ประทับใจ
ไม่อยากให้เชียงคานเปลี่ยนไป ขอบคุณค่ะ
ยังไม่เคยไปเที่ยวที่นี่ ต้องหาโอกาสไปเยือนบ้างคะ
ที่ว่า "เลยคาน" นั้นหมายถึง
คานบ้านหรือสุภาพสตรีครับ