ณ ราตรีหนึ่งขณะได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกให้ตื่นขึ้นมาลืมตาดูโลกตอนตีห้า จากเสียงดังของนาฬิกาจึงคว้ามากดปิดเสียงนั้นแล้วนอนต่อแบบเบลอ ๆ เออ...คนเรานี้เหมือนเหรียญมีสองด้านในตัวคนเดียวกันคนหนึ่งชื่อขี้เกียจอีกคนหนึ่งชื่อขยัน แล้วเขาทั้งสองก็คุยกันเอ็ดตระโรว่า
ขี้เกียจ...เอ้ย...ขยันเอ็งตื่นขึ้นมาทำไมหวา.. นอนต่อดีกว่าวะ...
ขยัน...อย่านอนเลยเพื่อน นอนมามากแล้วลุกขึ้นหางานทำดีกว่านะ...
ขี้เกียจ...ไม่เอากูจะนอน มันยังนอนไม่อิ่มเลยวะ...
ขยัน...การนอนก็เพียงพอแล้วนี่ จะนอนให้แสงตะวันส่องก้นรึไง...ตื่น ๆ ได้แล้วโว้ย
ขี้เกียจ...อย่ามากวนกู กูยังง่วงอยู่เว้ย...
ขยัน...เอ้าถ้าอย่างนั้นข้าเองจะอุ้มเองไปออกกำลังกายดีกว่า
ขี้เกียจ...อย่ามายุ่งกับกูนะ
ขยัน...เองไม่ไปข้าต้องบังคับละ การอยู่ด้วยกันมันต้องมีวินัยกันบ้างไปไหนก็ต้องไปด้วยกันสิ...
ขี้เกียจ...ก็คนอื่นยังนอนหลับใหลกันอยู่แล้ว นี่รบกวนความสุขเสียจริง ๆ
ขยัน...ก็ชีวิตตนเองนะ ต้องหมั่นรักษาให้มีสุขภาพแข็งแรง จะแข็งแรงมันต้องออกกำลังกาย ถึงจะเป็นเรื่องที่ฝืนก็ต้องทนสิวะ เพราะไม่มีใครมาทำให้เราหรอก อยากได้เราต้องทำเอาเอง
ขี้เกียจ...นี่วิ่งมาถึงกี่นาทีแล้วละนี่...
ขยัน...ก็ปาเข้าไป 30 นาทีแล้วละ เป็นไง ยังอยากนอนอีกมั๊ย มาวิ่งในถนนโล่ง ๆ ตอนก่อนรุ่งนี่อากาศก็ดี มีแสงดาวสุกสกาวพราวพร่างฟ้าแม้ไม่พบพาแสงจันทร์ก็ชวนเย็นใจดีนะ
ขี้เกียจ...เออ...สนุกดีวะ...ข้ายอมแพ้เองแล้ว...ต่อไปนี้เองชวนข้าบ่อย ๆ ก็แล้วกันนะ...อิ อิ อิ.
ไม่มีความเห็น