สายสะพาย

การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ. ได้กล่าวว่า

         สิ่งที่ถือเป็นรางวัลและเกียรติยศสูงยิ่งอย่างหนึ่งในชีวิตการรับราชการของทุกคน คือการได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ยิ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย ก็นับเป็นยอดปรารถนา ซึ่งเริ่มต้นชั้นสายสะพายที่ 1 ป.ม. คือ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยิ่งมงกุฎไทย ซึ่งการดำเนินการของก.ค.ศ.เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับสิทธิประโยชน์ในเรื่องนี้ ที่มีผลใช้บังคับเรียบร้อยแล้วได้แก่ ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) 

สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ.2554 สำหรับในตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ซึ่งเกษียณอายุราชการและเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดในวันที่ 30 กันยายน 2554 และได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงสุดของอันดับ (อันดับ คศ.3) ก.ค.ศ.ได้ขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย ป.ม. ให้เป็นกรณีพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ในบัญชี 7 

การดำเนินการขั้นต่อไปสำหรับตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทุกตำแหน่งได้แก่ ตามมาตรา 38 ก. (1) และ (2) มาตรา 38 ข. และมาตรา38 ค. (1) ก.ค.ศ.จะเสนอขอเทียบตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ เพื่อประโยชน์ในการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามหลักเกณฑ์ในบัญชี 41 ท้ายระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ.2536 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 

           ทั้งนี้ ในการดำเนินการในเรื่องนี้ต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล) ในฐานะประธาน ก.ค.ศ.แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน ที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามเครื่องราชอิสริยาภรณ์และพิจารณาเทียบตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเทียบกับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งขณะนี้คณะอนุกรรมการติดตามเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ได้พิจารณาเทียบตำแหน่งแล้ว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเห็นชอบและลงนามในหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในการที่จะนำตารางเทียบตำแหน่งเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปแล้ว ซึ่งหลังจากนี้สำนักงาน ก.ค.ศ.จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 

ที่มา  มติชน