มือ ตีน และ ปาก


  เวลาเดินผ่านไปอีกหนึ่งวันอันแสนน่าจะมีคุณค่าหากแต่เรารู้จักใช้ทุกลมหายใจให้เกิดประโยชน์อย่างสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้แม้มีความท้อแท้เกาะกินในใจก็ตามแต่ซึ่งวันนี้การพาสมาชิกกระทำประโยชน์ก็ยังคงดำเนินต่อไปในเวลากลางวันซึ่งแทบจะไม่มีใครได้รับรู้เนื่องด้วยว่าในเวลากลางวันนั้นคณะพระภิกษุสามเณรมักกลับไปกระทำภารกิจของตนเองในด้านต่างๆก็แล้วแต่จะว่ากัน

  ซึ่งจะมีไม่มีใครอยู่ในส่วนด้านหน้าของวัดเลยจะมีก็แค่เรากับสมาชิกเป็นส่วนมากนอกจากช่วงที่ทางวัดมีการจัดงานต่างๆจึงจะมีบ้างที่มาเตรียมงานแต่วันธรรมดาญาติโยมมาวัดก็เป็นบางช่วงมาก็มาหาแต่หลวงปู่กันละไอ้เรามันก็ไม่มีค่าในสวยตาเขากันอยู่แล้วยิ่งมาอยู่กับสมาชิกเหล่านี้ที่หลงผิดไปใน อวิชชา ในความไม่รู้ในการล่วงเกินศีลข้อห้าแค่ข้อเดียวแต่กลับกลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจจากคนที่มาพบเห็นเป็นอย่างมาก

  บางคนแค่ว่าตัวเองมีเงินทองในการทำบุญได้มากเข้าใกล้หลวงปู่ได้เป็นคนสำคัญของหลวงปู่กันว่างั้นเถอะ แต่เขาเองยังผิดศีลข้อสามบ้าง หรือข้อห้าเหมือนสมาชิกเหล่านี้และข้ออื่นหลายๆข้อ แต่มักชอบมาออกบทบาทกันภายในวัดว่าต้องการให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งๆที่นานๆจะเห็นหน้ามาวัดซักทีจะรู้ความเปลี่ยนแปลงสิ่งใดก็หารู้ไม่

  แต่คนที่อยู่วัดแทบทุกวันหรืออย่างสมาชิกที่วัดนั้นอย่างน้อย 60 วันที่เขามาอยู่ในทุกๆวันเขาทำในสิ่งที่เป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกันแทบทุกวันหากเราจะมองในคุณงานความดีของเขาแต่มันก็ยังมีในความไม่ดีในส่วนอุปนิสัยในเรื่องการสำรวมอยู่บ้างที่ยังไม่สามารถแสดงความสำรวมให้เหมือนนักปฏิบัติธรรมเป็นอาชีพไม่ได้ไปที่ไหนวัดใดนั่งฟังเทศน์แล้วต้องนั่งหลับตาปี๋สงบไม่ขยับไปใหนมาใหน

  ถึงแม้ความดีเขาจะน้อยแต่หากเราส่งเสริมให้เขาได้สร้างกุศลกรรมบ้างในเวลาแค่ 60 วันถึงมันจะน้อยแต่มันก็ได้กันบ้างละเป็นผลบุญสั่งสมกันไปต่ออาจเป็นชาติหน้าหรือชาติใดๆก็แล้วแต่

  เหมือนคนมีเงินมากๆก็ทำบุญแล้วก็หวังให้ถึงพระนิพพานในชาตินี้และชาติหน้าแต่ก็ยังมันจะถึงยังงัยวะทำทานแต่ไม่ เมตตา ไม่วางศีลไว้เป็นแนวทางชีวิตให้มรรคแปดเป็นแนวทางดำเนินชีวิต ดั่ง อริยสัจ ๔ แล้วลงมือปฏิบัติหาทางหลุดพ้นมาหวังลมๆแล้งกับการได้ทำบุญกับพระอรหันต์จะได้บุญเป็นทางไปสู่นิพพานบวชมาก็ไม่ได้เป็นพระสายเรียนเป็น "มหา" กันละแต่ก็พอรู้กันอยู่บ้างว่า ทางไปสู่นิพพานมาจากการลงมือปฏิบัติ ให้มี ศีล เป็นตัวยึด มีสมาธิเป็นตัวกำหนดรู้แห่งสติ มีการภาวณาเป็นปัญญาในการเอาชนะทั้งปวงยังไปงงกันแต่ฉากหน้าว่า อรหันต์ไม่อรหันต์ เป็นพระฐาตุไม่พระฐาตุ

  แน่นอนสมาชิกที่มาอยู่กับเราเองก็มักไม่ค่อยอธิบายมากแต่มักให้ลงมือกระทำให้เป็นนิสัยเป็นผลบุญอย่าพูดมากน่าเบื่อฟังแล้วลงมือติดขัดก็มาแก้กัน

  เหมือนวันนี้พาสมาชิกมุงหลังคาหน้าศาลา 4  คนน้อยมีกันแค่หกคนรวมเราก็เจ็ดแถมต้องแบ่งหนึ่งคนต้องรีบทำฝ้าเหลือแค่หกเหมือนเก่าเพราะจะมีงานอบรมวันศุกร์นี้ มันจะเหนื่อยร้อนอีกต่างหากก็ใช้วิธิแก้ขนหลังคาก็ใช้รถเข็น พอยกขึ้นพาดได้แล้วก็ให้หาผ้ามาลองแล้วลากเอาวันนี้ก็มุงเสร็จหนึ่งศาลาอยู่หนาพรุ่งนี้มุงต่ออีกหนึ่งศาลา

  ก็น่าจะดีกว่าอะไรก็ไม่ลงมือทำที่จะแก้ปัญหาแล้วใจแต่วาจาไปกล่าวสิ่งนั้นสิ่งนี้หาแต่ดีใส่ตัว

สุดท้ายมีรูปมาฟากกันนะ

 

 

หมายเลขบันทึก: 469072เขียนเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2011 21:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 22:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สาธุเจ้าค่ะ เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมากเลยเจ้าค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท