ตอบกระทู้เรื่อง จิตไม่ตกเพราะคิดเชิงบวก


ผู้ใดเข้าถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก่อน แล้วทำให้คนอื่นเข้าถึงปรัชญานี้ได้ นับว่าผู้นั้นทรงคุณค่าต่อสังคมยิ่ง

การคิดเชิงบวก การใช้จิตวิทยาเชิงบวก นับเป็นเรื่องที่ดี ทำให้คนคิดมีความสุขได้ ประสบผลสำเร็จได้ แต่ไมใช่ทางที่จะนำผู้คิดผู้ใช้แนวทางนี้ไปสู่การพ้นทุกข์ได้ และการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ผลสำเร็จโดยไม่มองภาพรวมทั้งหมดจะก่อปัญหาให้กับตนเองครอบครัวและสังคม ขอขยายความดังนี้ครับ

การคิดเป็นเครื่องมือดี แต่การ "รู้" หรือรู้สึก เป็นเครื่องมือที่ทำให้ผู้ฝึกหรือผู้ใช้ ไปถึงความพ้นทุกข์ได้ (เขียนตามตำรานะครับ เป็นตำราพุทธ) ทุกๆ ครั้งที่เกิดปัญหา ผู้นิยมใช้ความคิดเชิงบวก จะคิดทันทีในเชิงบวกทำให้ปัญหานั้นสามารถแก้ไขได้หรือหมดไปได้ เช่น เมื่อเจอคนรู้จักที่ไม่ถูกชะตาเดินมา ทำให้เกิดความไม่ชอบขึ้น ก็ "คิดทับ" ทันทีว่า ที่เขาเป็นอย่างนี้ๆ เพราะอย่างนี้ๆ ที่เขาเป็นอย่างนั้นๆ เพราะเขาเป็นอย่างนั้นๆ เป็นธรรมชาติของเขาเอง เขาถูกสอนมาแบบนั้น อะไรทำนองนี้ ผลคือทำให้สบายใจขึ้น จึงพ้นจากทุกข์จากความโกรธนั้นได้ โดยไม่ได้เผลอเดินไปทำกิริยาหรือพูดจาไม่ดีต่อคนนั้น ..... กรณีแบบนี้ เมื่อทำบ่อยๆ จนเป็นนิสัย หรือที่เรียกว่า เป็นคนมองโลกในแง่ดี ....มีความสุข... มีเพื่อนมาก..... แต่ปลายสุดก็เพียงแค่ "เป็นคนดี" ไม่ได้ฝึกฝนตนเองอะไรให้ใกล้ การรู้ความจริงนัก  กล่าวคือ เมื่อคนรู้จักที่ไม่ถูกชะตาเดินมา ความรู้สึกไม่ชอบเกิดขึ้น ไม่รู้ รู้ไม่ทัน ไม่ได้สังเกตอย่างใคร่ครวญ เพราะไปคิดเชิงบวกทับเสียก่อน เลยปล่อยโอกาสที่จะฝึกฝนการรู้กระบวนการของ กายใจว่าเกิดขึ้นอย่างไร เมื่อไม่ได้ฝึกฝนอย่างนี้ การจะรู้สภาวะและกระบวนการทางอารมณ์จึงยาก ทำให้เข้าถึงความเป็นกลางได้ยาก เมื่อไม่เข้าถึงความเป็นกลางได้ยาก การจะมีโอกาสรู้ความจริง รู้สัจจธรรมจึงน้อย แน่นอนว่าโอกาสพ้นทุกข์อย่างแท้จริงจึงน้อย (ขอบอกอีกครั้งว่าเขียนตามตำราพุทธนะครับ)

ประเด็นต่อมาที่ผมบอกว่า การนำวิธีการคิดเชิงบวกมาใช้โดยไม่ได้มองภาพรวมทั้งหมดจะก่อนให้เกิดปัญหา ขอขยายความดังนี้ครับ การจะทำกิจกรรมใดก็แล้วแต่ ถ้าเอาตนเองเป็นจุดศูนย์กลาง เช่น ต้องการที่จะขายประกันฯให้ได้ เรียนมาว่า จะต้องฝึกฝนให้สมดุลกันระหว่างทักษะกับความท้าทาย ก็มาพิจารณาตนเองว่ามีทักษะการขายเท่าใด พบว่ากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับทักษะที่สุดคือเริ่มขายจากญาติๆ ก่อน เมื่อทักษะการขายดีขึ้นจึงจะขยายไปสู่คนกลุ่มอื่น......   หากการไปขายประกันฯให้ญาติ โดยไม่ได้คำนึงว่า ญาติคนนั้นเขาควรต้องทำประกันหรือไม่ วินัยการเงิน ศักยภาพทางการเงิน รายได้ รายรับ รายจ่ายของครอบครัวเขาเหมาะแก่การทำประกันฯหรือไม่ รวมทั้งที่สำคัญที่สุด ศักยภาพ โอกาสหรือความเสี่ยงที่เขาจะไม่สามารถส่งประกันได้ ทั้งความเสี่ยงในปัจจุบันและอนาคต เช่น เศรษฐฺกิจ สังคม และการเมือง และอีกประเด็นที่สำคัญคือ การเข้าไปแทรกแซงการจัดการบริหารชีวิตของคนอื่นโดยไม่ได้หวังดี ซึ่งจะก่อผลเสียหายต่อเขาทีหลัง  หากไม่ได้ขายประกันความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีคุณธรรม ไม่มีจริยธรรม มองไม่เห็นโอกาสที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อคนอื่น การขายประกันให้ญาติๆ กันจึงเป็นสิ่งที่ต้องระวัง ... ชาวอีสานบ้านผมขาดส่งประกันสูงมาก เพราะระบบขายประกันให้ญาติ นี่แหละครับ น่าสงสารมาก บริษัทประกันรับเงินคนจนที่ถูกหลอก(แบบไม่ผิดกฏหมาย)  ไม่ต่างอะไรกับขูดเลือดปู (ไม่ใช่ปูนายกนะครับ ไม่เกี่ยวการเมือง).... ที่เขียนอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ขายประกันให้ญาติ แต่ไม่สนับสนุนให้ใช้ศาสตร์ตะวันตก ดึงดูดด้วยผลตอบแทนต่างๆ เข้าว่า เพื่อให้ตนเองขายได้เพื่อจะได้เงินส่วนแบ่ง แต่หมายถึง ต้องเข้าไปเรียนรู้ ค้นคว้าอย่างจริงจัง ด้วยความจริงใจ จนแน่ใจว่าเขามีศักยภาพที่จะซื้อประกัน และประกันจะช่วยเหลือเขาแน่นอน ในกรณีที่แน่ใจว่าญาติหรือครอบครัวญาติไม่มีศักยภาพที่จะทำประกันได้ ก็ต้องมาพิจารณาว่า เราจะช่วยให้เขามีศักยภาพได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ช่วยเหลือให้ความรู้แนวทาง เป็นต้น แต่ถ้าไม่ได้แทนที่จะเดินหนีไปเลย กลับต้องสอนและถ่ายทอดให้เขารู้ว่าทำไมญาติถึงยังไม่สมควรทำประกัน.....

สุดท้าย ผู้ใดเข้าถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก่อน แล้วทำให้คนอื่นเข้าถึงปรัชญานี้ได้ นับว่าผู้นั้นทรงคุณค่าต่อสังคมยิ่ง

หรือ ท่าน ดร.ภิญโญ เห็นว่าอย่างไร

หมายเลขบันทึก: 468813เขียนเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2011 15:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 22:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีครับ

ผมตอบให้แล้วนะครับ..

ที่นี่

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/468809

ครับ

อาจไม่ครบทุกประเด็นนะครับ..มีอะไรชี้แนะเพิ่มเติมได้ครับ..

ขอบคุณมากนะครับ

เห็นภาพของท่าน อาจารย์โสภณ ผมนึกถึงคำๆ หนึ่งครับ "กระจกใสไม่มี กระจกมีไม่ใส เช่นเดียวกัน ใจใสเพราะไม่มี ถ้าใจมีก็ไม่ใส"

อ่านบทความนี้ดีมากค่ะ เพราะได้แง่คิดที่ดี เนื่องจากตนเองได้ทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่กลับไม่พบความสุขดังที่คาดไว้ มีความเครียดและหดหู่ คนที่จะประสบความสำเร็จ พร้อมกับมีความสุขควบคู่กันไปได้อย่างไรค่ะ

งานวิจัยเศรษฐกิจพิเพียง

http://www.porpeangnetwork.com/

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท