หลายปีแล้ว...เมื่อเรียนจบใหม่...
จริง ๆ แล้ว ผมอยากทำงานในที่เจริญ...สบาย และไม่กันดาร
แต่ด้วยอาชีพหมออนามัย...ต้องได้ไปทำงานในชนบท และหมู่บ้านที่ห่างไกล…
จนญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ที่เรียนสาขาอื่น ๆ อดห่วงไม่ได้ว่า
เราจะถูกชาวบ้านกลืนตัวเรา...กลายเป็นชาวบ้านไปอีกคน
ทำงานใหม่ ๆ ผมเชื่อมั่นว่า...ผมมีความรู้มากกว่าชาวบ้าน
เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่...ขณะนั้น...ความรู้ในระบบการศึกษาสูงสุดไม่เกิน มอ.6
โรงเรียนในหมู่บ้านก็ไม่มี
ผมเลยเป็นคนที่มีการศึกษาสูงสุด เพราะผมจบตั้งอนุปริญญา
ทำงานแรก ๆ ผมก็พร่ำ...ก็สอนชาวบ้านไปทั่ว…ทุกละแวก...ทุกคุ้ม
ทำไม...ไม่ทำตามหมอบอก...ทำแบบนี้...เห็นไหม...เป็นตามหมอบอก
อดคิดในใจว่า...ชาวบ้านช่างไม่มีความรู้ด้านสุขภาพเลย
อดคิดย้อนหลังแล้ว...อาย และเกลียดตัวเอง ที่คิดต่อชาวบ้านอย่างนั้น
ผมก็บ้าทฤษฎีที่ร่ำเรียนมา....โดยไม่นึกถึงวิถีและบริบทของชาวบ้าน
แล้วจะไปด้วยกัน...แล้วจะไปรอดไหมนะ
ทุกวันนี้...ผมกลายเป็นชาวบ้านเต็มตัว
ทฤษฎี...วิธีชีวิต...และหัวใจ...ต่างหาก ที่กลมกลืนผสมผสานให้การทำงานของผมกับชาวบ้าน
เดินทางไปด้วยกัน
ชาวบ้านสอนให้ผม...เรียนรู้ทั้งความรู้ในระบบการศึกษาผ่านประสบการณ์ชีวิต หรือภูมิปัญญา
และความรู้ที่เกิดจากหัวใจเรียบง่าย...ท่ามกลางธรรมชาติ
ณ ภรรยาของชายหนุ่มคนหนึ่ง
ที่ยิ้มแย้มพราย....บนตักมีลูกสาวแบเบาะ...แก้มยุ้ย...น่ากอดน่าหอม
ให้กำลังใจสามี...พ่อ....ในการทาสีรถ...อีแต๋น...ขนอ้อย
ผมเลิกคร่ำครวญโหยหาที่อยากจะทำงานในที่เจริญ...สบาย และไม่กันดาร
ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชาวบ้าน
ผมไม่อายใคร ๆ ว่า ผมประกอบอาชีพหมออนามัย
เพราะผมได้มองเห็นมุมมองความงามของชาวบ้าน
ที่คนเมืองไม่มองเห็น...ความงาม...หรือละเลยความงามเหล่านั้นไปแล้ว
ผมไม่ได้คุยกับเจ้าของ...นวัตกรรมข้องดักกุ้งฝอย โดยตรง
เป็นคุณตาของแม่หนูแก้มยุ้ย
เพราะคุณตาไปป่า (ภาษาชาวบ้าน คือ ไปเลี้ยงวัว)
แม่ของแม่หนูแก้มยุ้ย...ให้ความรู้ผมว่า
เห็นพ่อประดิษฐ์คิดค้น...เอาข้องที่เจาะรูด้วยปากขวดน้ำพลาสติก
บนลงใน ‘น้ำนิ่ง’ (ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะดัดกุ้งด้วยการยกยอ...หรือข้องแบบเก่าใน ‘น้ำไหล’)
เอาเหยื่อวางลงล่างของข้องนี้ แล้วกุ้งฝอยก็จะพลัดเข้าข้อง และออกไม่ได้
ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่า...ทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์ในตัวเอง
เราอย่าไปดูถูก...สกัดกั้น...ความคิดสร้างสรรค์ของใคร
คิดแล้วทำ...และใช้ประโยชน์ได้...สุดยอดของความคิดแล้ว
ผมอดคิดต่อไปไม่ได้ว่า...
ถ้าใครก็ตาม...
ทำงานที่ไหนก็ตาม...ไม่ได้ใช้ศักยภาพในความคิดและสร้างสรรค์ของตนเองให้เป็นประโยชน์
ทำงาน...ใช้ชีวิต...เหมือนเดิม...ไม่มีความคิดสร้างสรรค์
มองไม่เห็นคุณค่าของการทำงาน...ในบริบทของชีวิต
และละเลยกระบวนการคิดอย่างมีเหตุและผล
เพื่อขยายคุณค่า และขยายโอกาสให้กับชีวิตและผู้อื่น
เมื่อนั้น...
เราจะเหมือน...กุ้งฝอย...เหล่านั้น
ที่ได้กลิ่นเหยื่อล่อที่หอมหวาน...และหลงความหอมหวานพลัดหลงตกลงไปในข้อง
ที่เข้าไปแล้ว...ตะเกียกตะกายหลุดออกมาไม่ได้
และอยู่ในวังวนของข้องดักกุ้งฝอยนั้น…ตลอดไป....
คิดได้ไงค่ะเนี๊ย ทั้งคนคิดและครเขียน เยี่ยมมากเลยค่ะ (^_^)