นวัตกรรม...ข้องดักกุ้งฝอยของชาวบ้าน


บันทึกหลังเยี่ยมบ้านวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2554

หลายปีแล้ว...เมื่อเรียนจบใหม่...

จริง ๆ แล้ว ผมอยากทำงานในที่เจริญ...สบาย  และไม่กันดาร

แต่ด้วยอาชีพหมออนามัย...ต้องได้ไปทำงานในชนบท และหมู่บ้านที่ห่างไกล…

จนญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ที่เรียนสาขาอื่น ๆ  อดห่วงไม่ได้ว่า

เราจะถูกชาวบ้านกลืนตัวเรา...กลายเป็นชาวบ้านไปอีกคน

 

 

ทำงานใหม่ ๆ ผมเชื่อมั่นว่า...ผมมีความรู้มากกว่าชาวบ้าน

เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่...ขณะนั้น...ความรู้ในระบบการศึกษาสูงสุดไม่เกิน มอ.6

โรงเรียนในหมู่บ้านก็ไม่มี

ผมเลยเป็นคนที่มีการศึกษาสูงสุด เพราะผมจบตั้งอนุปริญญา

 

 

ทำงานแรก ๆ ผมก็พร่ำ...ก็สอนชาวบ้านไปทั่ว…ทุกละแวก...ทุกคุ้ม

ทำไม...ไม่ทำตามหมอบอก...ทำแบบนี้...เห็นไหม...เป็นตามหมอบอก

อดคิดในใจว่า...ชาวบ้านช่างไม่มีความรู้ด้านสุขภาพเลย

 

 

อดคิดย้อนหลังแล้ว...อาย และเกลียดตัวเอง ที่คิดต่อชาวบ้านอย่างนั้น

ผมก็บ้าทฤษฎีที่ร่ำเรียนมา....โดยไม่นึกถึงวิถีและบริบทของชาวบ้าน

แล้วจะไปด้วยกัน...แล้วจะไปรอดไหมนะ

 

 

ทุกวันนี้...ผมกลายเป็นชาวบ้านเต็มตัว

ทฤษฎี...วิธีชีวิต...และหัวใจ...ต่างหาก ที่กลมกลืนผสมผสานให้การทำงานของผมกับชาวบ้าน

เดินทางไปด้วยกัน

ชาวบ้านสอนให้ผม...เรียนรู้ทั้งความรู้ในระบบการศึกษาผ่านประสบการณ์ชีวิต หรือภูมิปัญญา

และความรู้ที่เกิดจากหัวใจเรียบง่าย...ท่ามกลางธรรมชาติ

 

 

 

 

 

 

ณ  ภรรยาของชายหนุ่มคนหนึ่ง

ที่ยิ้มแย้มพราย....บนตักมีลูกสาวแบเบาะ...แก้มยุ้ย...น่ากอดน่าหอม

ให้กำลังใจสามี...พ่อ....ในการทาสีรถ...อีแต๋น...ขนอ้อย

 

 

ผมเลิกคร่ำครวญโหยหาที่อยากจะทำงานในที่เจริญ...สบาย  และไม่กันดาร

ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชาวบ้าน

ผมไม่อายใคร ๆ ว่า ผมประกอบอาชีพหมออนามัย

เพราะผมได้มองเห็นมุมมองความงามของชาวบ้าน

ที่คนเมืองไม่มองเห็น...ความงาม...หรือละเลยความงามเหล่านั้นไปแล้ว

ผมไม่ได้คุยกับเจ้าของ...นวัตกรรมข้องดักกุ้งฝอย  โดยตรง

เป็นคุณตาของแม่หนูแก้มยุ้ย

เพราะคุณตาไปป่า (ภาษาชาวบ้าน คือ ไปเลี้ยงวัว)

แม่ของแม่หนูแก้มยุ้ย...ให้ความรู้ผมว่า

เห็นพ่อประดิษฐ์คิดค้น...เอาข้องที่เจาะรูด้วยปากขวดน้ำพลาสติก

บนลงใน ‘น้ำนิ่ง’ (ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะดัดกุ้งด้วยการยกยอ...หรือข้องแบบเก่าใน ‘น้ำไหล’)

เอาเหยื่อวางลงล่างของข้องนี้  แล้วกุ้งฝอยก็จะพลัดเข้าข้อง และออกไม่ได้

 

 

ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่า...ทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์ในตัวเอง

เราอย่าไปดูถูก...สกัดกั้น...ความคิดสร้างสรรค์ของใคร

คิดแล้วทำ...และใช้ประโยชน์ได้...สุดยอดของความคิดแล้ว

 

 

ผมอดคิดต่อไปไม่ได้ว่า...

ถ้าใครก็ตาม...

ทำงานที่ไหนก็ตาม...ไม่ได้ใช้ศักยภาพในความคิดและสร้างสรรค์ของตนเองให้เป็นประโยชน์

ทำงาน...ใช้ชีวิต...เหมือนเดิม...ไม่มีความคิดสร้างสรรค์

มองไม่เห็นคุณค่าของการทำงาน...ในบริบทของชีวิต

และละเลยกระบวนการคิดอย่างมีเหตุและผล

เพื่อขยายคุณค่า และขยายโอกาสให้กับชีวิตและผู้อื่น

 

 

เมื่อนั้น...

เราจะเหมือน...กุ้งฝอย...เหล่านั้น

ที่ได้กลิ่นเหยื่อล่อที่หอมหวาน...และหลงความหอมหวานพลัดหลงตกลงไปในข้อง

ที่เข้าไปแล้ว...ตะเกียกตะกายหลุดออกมาไม่ได้

และอยู่ในวังวนของข้องดักกุ้งฝอยนั้น…ตลอดไป....

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 466835เขียนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2011 14:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 14:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

คิดได้ไงค่ะเนี๊ย ทั้งคนคิดและครเขียน เยี่ยมมากเลยค่ะ (^_^)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท