ชอบภาพที่ 1 และ 9 ค่ะ แต่เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายภาพที่บ้านส่งประกวดด้วยเลยค่ะ อิอิ
.....เพิ่มเติม.."ความคิด"..สักนิด "ดี"ไหมเอ่ย...หลังน้ำท่วม..เมื่อน้ำลด...จะนำถุงเหล่านี้ไปใช้อย่างไร "ดี"..เพราะ..น้ำจะมาทุกปี..เราห้ามไม่ให้ "ฝน" ตกมิได้.."ทำฝนเทียมได้"(บางครั้ง)...ใครมีความคิด ดีๆ..ส่งมาที่"โกทูโน"...นอกจากนั้น..ยังมีของ"ดีๆ"..คือ..ขยะอีกมากมาย...รวมทั้ง..ของเสียที่..ขับถ่าย..ระหว่างน้ำท่วม..และหลังน้ำท่วม...อาหาร..ที่จะกิน(สำหรับผู้เดือดร้อน)..ที่นอน..ที่พักพิง..ชั่วคราว..และ"ถาวร"...มีไหม...ไม่มีจะทำได้อย่างไร...อาจารย์เจ้าคะ..อยู่กับผู้มีความรู้ใน"สถาบัน"..รูปถ่ายดูอย่างเดียว..คงช่วยไม่ได้เท่าไรนัก..เพราะความทุกข์..ครั้งนี้..คงจะ..สาหัสสากัน..ยิ้มสวยกับรูปถ่ายอย่างเดียวคง..แย่..แน่..รูปออกมาคง..ยิ้มแหย..ได้อย่างเดียว..อ้ะ..(ยายธีแอบคิดเจ้าค่ะ)...
สวยงามอมขม แต่ยิ้มเถอะครับ! เดี๋ยวก็ผ่านไปนะครับ
เรียนคุณโรงเรียนพ่อแม่ครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชม
ในบรรยากาศอันเต็มไปด้วยความเครียด
อย่างน้อยก็ถือว่าหาสิ่งใดที่คลายได้เล็กน้อยก็ยังดีนะครับ
เรียนคุณยายธีครับ
ความคิดที่แอบคิดมามีค่ายิ่งนัก
ควรที่ทุกท่านจะนำไปถ่ายทอดกันต่อๆไป
เพชรมักซุกอยู่ตามอิฐหินดินทราย
คนผู้ประมาทมักมองผ่านเลย
คนผู้มีจักษุดีย่อมมองก่องเก็จประกายวาว นะครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์
บ้านครูปอไม่ต้องใช้กระสอบทรายแล้วค่ะ...จมหมดแล้วจ้า.....
เรียน ผอ. เพชรครับ
ภาพเหล่านี้อาจเป็นรอยต่อของเหตุการณ์ "น้ำท่วม"ครั้งนี้
เมื่อวันเวลาผ่านไป กลับมาทบทวนอาจเห็นสิ่งเหล่านี้
เป็นสิ่งมีค่า เป็นเรื่องช่วงหนึ่งของชีวิต โดยแท้
เรียนครูบังอรครับ
ช่างน่าเห็นใจจริง อายุยังน้อยแท้ๆ
ใครจะรู้ว่าความตายจะมาในวันพรุ่งนี้
สิ่งเล็กน้อยทำให้เกิดความสมบูรณ์
แต่สิ่งสมบูรณ์มิใช่สิ่งเล็กน้อย.......ผู้มีปัญญาย่อมเห็นประโยชน์แม้สิ่งเล็กน้อย
เรียนครูปอครับ
น้ำภาพมาแบ่งปันกันหน่อยครับ
ว่ามีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง
บางทีอาจเป็นประสบการณ์เพียงครั้งเดียวในชีวิต
ขออธิษฐานให้น้ำลงเร็วนะครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์
มาเป็นกำลังใจให้น้องทราย สู้ภัยจากน้องน้ำค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์
เข้ามาเยี่ยมชมประกวดภาพถ่ายถุงทราย
ได้ชมภาพถ่ายถุงทรายกันน้ำแล้วก็รู้สึกว่าสวยดี
แต่ถ้ามองอีกทีไม่น่าจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราเลย
แต่ในเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุคนผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดีค่ะ
แต่ผมอยากจะแจกแจงให้ "ความละอาย" แห่งความเป็นคนผุดขึ้นในสำนึกจากสิ่งที่รัฐบาลควรทำ แต่กลับไม่ทำ ดังนี้
๑.กับข้าวของที่ประชาชนทั้งในและนอกประเทศนำมามอบให้รัฐบาลแจกกองไว้ในโกดังเป็นภูเขาเลากา ทำไมไม่จัดนำไปแจกจ่าย กลับต้องใช้งบ ๘๐ ล้านบาท ซื้อของใส่ถุงยังชีพไปแจกจ่าย?
๒.ถ้าอ้างว่าของบริจาคนั้นแจกจ่ายหมดแล้ว แต่ไม่เพียงพอกับผู้เดือดร้อน ถามว่าแค่ ๑ แสนถุง เพียงพอและทั่วถึงกับผู้ที่ยังไม่ได้รับแจกจ่ายแล้วหรือ?
๓.เงิน ๘๐ ล้านบาทนั้น เงินจากผู้บริจาค หรือเงินงบประมาณ สมควรต้องบอกให้ประชาชนรู้ เพราะรัฐบาลใส่ถุงที่พิมพ์ "ตราสำนักนายกรัฐมนตรี" เป็นผู้แจกจ่าย หวังให้ผู้ได้รับเข้าใจว่า เป็นสิ่งของของรัฐบาลเองจัดหาให้ประชาชน
ถ้ามาจากเงินบริจาคชาวบ้าน แล้วรัฐบาลนำไปแจกให้คนเข้าใจว่าเป็นของรัฐบาลจัดซื้อเองได้อย่างไร และทำบัญชีเงินส่วนนี้ไว้แบบไหน นำเงินราษฎร์ไปซื้อ แล้วไปเบิกเงินหลวงอีกต่อหรือเปล่า ควรนำมาแสดงให้ชัดเจน?
๔.ของบริจาค แต่คนรัฐบาลไปลบชื่อผู้บริจาค แล้วพิมพ์ชื่อตัวกันเอง ชื่อทักษิณก็มี แวดวงกันเองเอาไปแจกหวังเอาชื่อ-เอาเสียง โดยไม่ยอมกระจายให้แต่ละพื้นที่นำไปแจกลูกบ้านของเขา แต่แล้วก็แจกไม่ทั่ว แจกกันเป็นพิธีเอาหน้า ของยังเหลือ ยังกั๊กไว้กองพะเนิน
แล้วเหตุผลใดต้องใช้เงินไปจัดซื้อมาแจกอีก?