ชีวิตที่พอเพียง : 1420f. ทวิวิวาทะในสถานการณ์น้ำท่วม


ข่าวร้ายที่สี่ คือประชาชนรื้อคันกั้นน้ำหรือประท้วงการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำมากขึ้น เช่นในข่าวนี้ และใน นสพ. คมชัดลึกฉบับพิมพ์ หน้าหนึ่งลงรูปคนยื้อแย่งกันรับของแจก ทำให้นึกเปรียบเทียบกับตอนญี่ปุ่น โดนสึนามิ

ชีวิตที่พอเพียง  : 1420f. ทวิวิวาทะในสถานการณ์น้ำท่วม

ผมไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ที่เป็นกระดาษมาประมาณ ๒ สัปดาห์    อ่านแต่จากเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ ๕  - ๖ ฉบับ   วันนี้วันที่ ๓๑ ต.ค.​๕๔ ได้อ่าน นสพ. ที่ “เลขา” บอกรับ    จึงรู้สึกว่าไม่เหมือนข่าวจากเว็บไซต์    คือใส่อารมณ์ยิ่งกว่าข่าวในเว็บไซต์    และเมื่อสังเกต นสพ. ต่างฉบับ ก็สังเกตเห็นชัดว่ามีทั้งค่ายที่โปรรัฐบาลนี้ กับค่ายที่คอยจับผิด

วิวาทะที่ผมอยู่ในสถานการณ์น้ำท่วมของผมจึงมีทั้งวิวาทะทางการเมือง กับวิวาทะซ้ายขวาในหนังสือ The Spirit Level สู้กับหนังสือ The Spirit Level Delusion   เป็นข้อเรียนรู้ในบรรยากาศวิกฤติของผม

ตื่นเช้าขึ้นมาก็ได้ข่าวร้าย ๒ ข่าวเรื่องน้ำท่วม   ข่าวแรกคือน้ำเข้า ม. เกษตรบางเขนส่วนติดถนน พหลโยธินแล้ว    และข่าวที่ ๒ คือ วันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะยิ่งสูงขึ้น เป็น ๒.๖๕ เมตร (แต่บางข่าวว่า ๒.๕๓ เมตร   แต่ในที่สุดไทยรัฐลงข่าวกรมอุทกศาสตร์ยืนยันว่า ๒.๔๘)

               ตอนสายตรวจสอบข่าวจากเว็บไซต์ของ นสพ. ละเอียดขึ้นก็พบว่าวันนี้น้ำเข้าบริเวณใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตกรุงเทพชั้นในมากขึ้น  เช่นสี่แยกบางขุนพรหม   ถนนราชดำเนินในและราชดำเนินกลาง ดังข่าวนี้    ฝั่งธนก็ท่วมสี่แยกอรุณอมรินทร์    และพบ รายงานของนักข่าวอาวุโสที่ผมชื่นชอบในบางกอกโพสต์ เรื่องน้ำท่วมแจ้งวัฒนะเมื่อวานข่าวนี้    ตรงกับที่ผมไป ขับรถลุยน้ำมาดังเล่าไปแล้วเมื่อวานบ่าย   แสดงว่าเมื่อวานตรงนั้นน้ำท่วมตั้งแต่เช้า และจนบ่ายน้ำก็ยังท่วม   แต่ไม่มีข้อมูลว่าน้ำท่วมมากขึ้นหรือลดลง    ผมใช้วิธีเดา ว่าหากไม่มีการรายงานข่าวแสดงว่าลดลงหรืออย่างน้อย ก็ไม่เพิ่มขึ้น

เวลา ๘.๔๕​น. ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากเกร็ด ต่ำกว่า ๓.๑ เมตร    ถือว่าเป็นข่าวดี   และวันนี้เข้าไปดู ๓ - ๔ ครั้งก็อยู่แถวๆ นี้   

ข่าวร้ายข่าวที่สามคือ ทาง กทม. เตือนว่า น้ำอาจค่อยๆ คืบคลานเข้ามาท่วมกรุงเทพชั้นใน    เพราะมีคน คาดการณ์ว่า น่าจะมาถึงห้าแยกลาดพร้าว    เห็นได้ชัดว่าเวลานี้ ฟากรัฐบาลเน้นบอกความหวังแก่ประชาชนที่อยู่ กรุงเทพชั้นใน   ส่วน กทม. เน้นให้ข่าวเชิงเตือนให้ระวังตัว    คนที่รับข่าวแล้วงงว่าจะเชื่อใครดี ก็แย่หน่อย   แต่ผมชอบรับข่าวแล้วหาข้อมูลเพิ่ม และใช้วิจารณญาณของตนเอง การได้ข่าวคนละแบบกลับเป็นข้อดี

ข่าวร้ายที่สี่ คือประชาชนรื้อคันกั้นน้ำหรือประท้วงการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำมากขึ้น เช่นในข่าวนี้    และใน นสพ. คมชัดลึกฉบับพิมพ์ หน้าหนึ่งลงรูปคนยื้อแย่งกันรับของแจก    ทำให้นึกเปรียบเทียบกับตอนญี่ปุ่น โดนสึนามิ     

ระหว่าง ๑๑  - ๑๒ น. ผมขับรถออกไปดูเหตุการณ์ที่วัดบางพัง และที่ตลาดปากเกร็ด   พบว่าที่วัดบางพัง ระดับน้ำต่ำกว่าตอนผมมาดูเมื่อ ๒ วันก่อน    ที่ตลาดปากเกร็ดผมไปดูเป็นครั้งที่สอง    คราวนี้น้ำสูงกว่า    แต่ก็พอ จะช่วยให้เบาใจว่าสถานการณ์คงจะไม่เลวร้ายกว่านี้   ซึ่งหมายความว่าเป็นหลักฐานชัดเจนว่าน้ำคงจะไม่ท่วมบ้าน ผม

ข่าวว่าวันนี้ระดับน้ำสูงสุด ๒.๔๔   เมื่อวาน ๒.๕๓ เมตร ที่นี่ ส่งสัญญาณว่าระดับน้ำขึ้นสูงสุดไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน    ต่อไปนี้น่าจะลดลงเรื่อยๆ

ผมสรุปกับตนเองว่า วันนี้ผมอยู่กับ สามวิวาทะ   ไม่ใช่สองอย่างที่บันทึกในตอนต้น   วิวาทะที่สามคือ วิวาทะระหว่างความจริงกับข่าวที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชน   เพราะดูแล้วข่าวในสื่อมวลชนหลายข่าวเป็นข่าวที่มีคน ต้องการเป็นข่าว หรือมีคนต้องการให้สังคมเข้าใจไปในทางใดทางหนึ่ง หรือข่าวที่สื่อออกไปแบบไร้ความรับ ผิดชอบ

ผมจึงต้องกรองข่าวน้ำท่วมแบบเดียวกับกรองน้ำประปา    เพื่อเอาปฏิกูลออกไปเช่นเดียวกัน   เอาไว้แต่ส่วนที่เป็นประโยชน์

ผมอยู่ใน e-mail loop ของ คศน.   เห็นมีข้อเขียนเรื่องวิธีช่วยตัวเองเรื่องน้ำดื่มและน้ำใช้ในภาวะน้ำท่วม โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ของ ศ. นพ. วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ จึงนำมาเผยแพร่ต่อที่นี่

ในเรื่องวิวาทะระหว่างขวากับซ้ายนั้น วันนี้ผมอ่านเฉพาะหนังสือฝ่ายค้าน คือ Spirit Level Delusion   อ่านเพื่อทำความเข้าใจวิธีคิด วิธีโต้แย้งจับผิดด้านความแม่นยำ    และต่อไปนี้คือ short note ของผม

 

เป็นการต่อสู้กันระหว่างความคิดฝ่ายซ้าย กับความคิดฝ่ายขวา   พยายามหาข้อมูลหลักฐานจากสภาพจริงมายืนยัน  

 

ฝ่ายซ้ายดูจะหาทางพิสูจน์ว่าความไม่เป็นธรรม ที่ความแตกต่างของรายได้ เป็นที่มาของความเสื่อมทั้งปวง   เมื่อรายได้ประชาชาติสูงถึงจุดหนึ่ง การเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องสำคัญ  เรื่องสำคัญกว่าคือการกระจายรายได้

 

ฝ่ายขวาพยายามบอกว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจสำคัญอย่างแน่นอน   การกระทำใดๆ ที่บั่นทอนการเติบโตทาง เศรษฐกิจ ไม่ถูกต้อง  

 

ฝ่ายซ้าย เขียนหนังสือใช้ข้อมูล เอามาวิเคราะห์เพื่อยืนยันข้อสรุปของตน   ฝ่ายขวาหาข้อมูลมาบอกว่าข้อมูลของ ฝ่ายซ้ายไม่แม่นยำ หรือเลือกมาเฉพาะส่วนที่จะช่วยยืนยันทฤษฎีของตนเท่านั้น   และชี้ว่ามีหลายพฤติกรรมที่ แสดงว่าผู้เขียนมีข้อสรุปเกือบ ๒๐ ปี ก่อนเขียนหนังสือเล่มนี้   

 

นี่คือข้อเรียนรู้ที่นักวิชาการ นักวิจัยทั้งหลายจะต้องเอาใจใส่   และเป็นอุทาหรณ์ที่ดีว่า นักวิชาการต้องเข้าใจ และแยกแยะระหว่างการเป็นนักวิชาการ (academics) กับนักต่อสู้เพื่อสังคม (activist/advocates)   นักวิชาการ ต้องระมัดระวังอคติเป็นชีวิตจิตใจ    ในขณะที่นักต่อสู้เพื่อสังคมต้องมีความเชื่อและอุดมการณ์เป็นหลัก

 

หนังสือ The Spirit Level Delusion  

บอกว่าหนังสือ The Spirit Level เขียนด้วยอคติ ต้องการสร้างหลักฐานมาสนับสนุนความเชื่อของตน ว่าความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ก่อผลเสียด้วยประการทั้งปวง

 

ข้อเรียนรู้มากในวันนี้คือในหัวข้อเกี่ยวกับโรคด้านจิตใจ (mental disorders)   ข้อเขียนโต้แย้งของ Christopher Snowdon ที่ชี้ให้เห็นว่าความพยายามหาข้อมูลมาอ้างว่าในสังคมที่ความเท่าเทียมต่ำ คนเป็นโรคทางจิตใจมาก   นั้นเป็นการหยิบเอามาเพียงส่วนเดียวของเรื่องที่ซับซ้อนยิ่ง

 

ในช่วง ๔๐ ปีที่ผ่านมา นิยามของโรคจิตประสาทเปลี่ยนไปอย่างมากมาย   มีการทำให้นิยามเปิดกว้างจนคนเครียด (stress) นิดหน่อยก็อาจถูกตราว่าเป็นโรคซึมเศร้า (depression)   และอาการซึมเศร้าโดยทั่วๆ ไป (major depression) ก็อาจสับสนกับโรคจิตชนิดซึมเศร้าสลับคลั่ง (manic-depressive)   มีคนสงสัยว่าแนวโน้มนี้มีบริษัทยาสนับสนุน อยู่ลับๆ เพื่อประโยชน์ด้านธุรกิจของตน   และนำไปสู่การใช้ยาด้านจิตเวชมากเกินไป    ผมเคยเขียนบันทึกเรื่องนี้ ไว้ที่นี่

 

กระแสเปิดกว้างของความรู้ ทำให้มีความพยายามช่วยให้คนทั่วไปวินิจฉัยโรคเองได้   เมื่อมาถึงอาการทางจิตใจ ก็มีคนออกแบบหรือสร้างเครื่องมือวัดในทำนองชุดคำถาม เพื่อบอกระดับสุขภาวะทางจิตใจ   และเมื่อถึงระดับ หนึ่งก็ให้สงสัยว่าเป็นโรค   การทำให้สิ่งที่ซับซ้อนมากเปลี่ยนเป็นข้อๆ แยกกัน เป็นการกระทำที่ขัดกับธรรมชาติ ของสิ่งที่ซับซ้อนอย่างจิตใจคน   แต่ก็มีประโยชน์ช่วยให้สามารถทำการศึกษาด้านระบาดวิทยาของโรค ทางจิตเวชได้  

มั่นใจร้อยละ ๙๙.๕ แล้วว่าบ้านผมน้ำจะไม่ท่วม

วิจารณ์ พานิช

๓๑ ต.ค.​๕๔

 

หมายเลขบันทึก: 466749เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2011 19:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 00:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เมื่อเช้านี้คุณเปาโทร.มาด้วยความเป็นห่วง ได้ปลอบคุณเปาว่า น้ำยังไม่มาถึงบ้าน พรุ่งนี้เช้ามีนัดประชุมเรื่องหนังสือเศรษฐกิจพอเพียงของนักเรียนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งใจจะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปค่ะ ..คุณเปาก็ยังไม่คลายกังวล..เลยล้อคุณเปาว่า คงไม่ถึงที่ยากเพราะออกไปทำภารกิจในหน้าที่นี้ค่ะ

  • ปัญญา จากน้ำท่วม
    มีส่วนร่วม รับรู้ พร้อมครุ่นคิด
    สร้างบทความ โดยเสรี พงศ์พิศ
    เชิญญาติมิตร ติดตาม อ่านโดยพลัน.

[Click] http://www.phongphit.com/content/view/578/1/

ดีใจที่ได้ทราบแน่ว่าบ้านอาจารย์น้ำไม่ท่วมครับ ติดตามลุ้นอยู่เป็นระยะๆ

หวังอยู่ว่าคนดีแผ่นดินสูง ขอให้น้ำท่วมไม่ถึงครับอาจารย์

ครอบครัวผมมาท่่องเที่ยวอยู่หัวหินแทน ป้องกันตัวจากการตกอยู่ในสภาพการเป็นผู้ประสบภัย

ใช้โอกาสนี้แวะไปช่วยบรรจุของแจกผู้ประสบภัยที่เพชรบุรีแทนครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท