ตะลึงทุก 6 วินาทีมีผู้เสียชีวิตจากโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต 1 คน รวมทั่วโลกปีละ 6 ล้านคน


โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก  กรมควบคุมโรค เผยว่า โรคหลอดเลือดสมอง หรือ อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบบ่อย องค์การอัมพาตโลก ( World Stroke Organization : WSO )  รายงานว่าทั่วโลกโรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการตายอันดับ 5  ของประชากรอายุ  15 – 50  ปี และสาเหตุการตายอันดับ 2 ของผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี  ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณ 6 ล้านคน  หรือในทุก 6 วินาที จะมีคนเสียชีวิตอย่างน้อย  1 คน 

      ในประเทศไทย จากสถิติกระทรวงสาธารณสุข  พบว่าโรคหลอดเลือดสมองมีแนวโน้มการตายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2552  พบว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวน  176,382 คน หรือคิดเป็น 3 คนทุก 2 ชั่วโมง อัตราป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง 277.67 ต่อประชากร  1 แสนคน โดยพบว่าภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร มีอัตราป่วยด้วยโรคนี้มากกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ  ผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองมักมีความพิการหลงเหลืออยู่ ไม่มากก็น้อย และต้องใช้ชีวิตอย่างพิการตลอดช่วงชีวิตที่เหลือ  มิใช่ส่งผลกระทบต่อตัวผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติอีกด้วย   ดั้งนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคเรื้อรังที่มีผลกระทบต่อสังคม และเศรษฐกิจ ทั้งต่อผู้ป่วยเอง ครอบครัวและประเทศชาติโดยรวม  ประชาชนจึงควรดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคหลอดเลือดสมอง  โดยการเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงของตนเองเมื่อเกิดอาการเตือนของการเกิดโรคอย่างต่อเนื่อง  จะสามารถลดอัตราการตาย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษา ลดภาวะแทรกซ้อนของการเกิดโรค รวมทั้งลดความพิการของผู้ป่วย และภาระทางสังคมได้          ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองมี 8 ปัจจัย คือ  ภาวะความดันโลหิตสูง  โรคเบาหวาน  ระดับคอลเลสเตอรอลในเลือดสูง  ประวัติญาติสายตรงเคยเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง  ขาดการออกกำลังกาย  ภาวะน้ำหนักเกิน  สูบบุหรี่  ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ  ส่วนอาการเตือนที่สำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง คือ สมองขาดเลือดชั่วคราว โดยอาจพบเพียงหนึ่งอาการหรือมากกว่า ดังนี้

1) การอ่อนแรงของหน้า เวลายิ้มพบว่ามุมปากข้างหนึ่งตก แขนหรือขาซีกเดียวยกไม่ขึ้น  

2) มีปัญหาด้านการพูดแม้ประโยคง่าย ๆ พูดแล้วคนฟังไม่รู้เรื่อง สับสน พูดลำบาก

3) การมองเห็นลดลง 1 หรือทั้ง 2 ข้าง  

4) มีปัญหาด้านการเดิน มึนงง สูญเสียการสมดุลการเดิน  

ถ้าผู้ใดมีอาการเหล่านี้ ให้รีบไปโรงพยาบาลโดยด่วนภายใน  3 ชั่วโมง จะได้ช่วยรักษาชีวิตและสามารถฟื้นฟูร่างกายกลับมาได้เป็นปกติหรือใกล้เคียงปกติมากที่สุด

            เภสัชกรเชิดเกียรติ  กล่าวต่อว่า การลดความเสี่ยงโรคนี้ไม่ใช่แค่ความตระหนักในการป้องกันตนเองเท่านั้น  แต่ประชาชนควรมีความรู้ที่จำเป็นในการดูแล ป้องกันตนเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม โดยแนะนำแนวทางในการปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองอย่างง่าย 6 ข้อดังนี้

1) รับรู้ความเสี่ยงของตนเอง เช่น ความดันโลหิตสูง  เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น

2) มีกิจกรรมทางกายที่เคลื่อนไหวอย่างกระฉับกระเฉง และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

3) ควบคุมตนเองไม่ปล่อยให้อ้วน โดยการเลือกบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ

4) ลดหรือเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

5) หลีกเลี่ยงการทดลองสูบบุหรี่ กรณีสูบอยู่แล้วให้หาทางในการเลิกสูบบุหรี และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง

6) เรียนรู้ สัญญาณเตือนของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและแนวทางการป้องกัน แก้ไข

       โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ โดยการควบคุมและเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงทั้ง 8  สังเกตอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง และได้รับการรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็วอย่างเหมาะสม ได้รับการตรวจวินิจฉัยการักษา และการฟื้นฟูสมรรถภาพที่ถูกต้อง จะช่วยลดอัตราการตายและความพิการลงได้  และ 1 คนที่เสียชีวิตใน 6 วินาทีจากโรคหลอดเลือดสมองนั้นก็จะไม่ใช่คุณ


 ข้อความหลัก " รู้เร็ว รู้ทัน ป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาต  ”

กรมควบคุมโรค  ห่วงใย  อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี

ที่มา http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd/news/tv/2554_10_29_Stroke.html

หมายเลขบันทึก: 466684เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2011 05:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 12:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ทึ่งมากๆ กับการที่มีปัญหา ก่อให้เกิดปัญญา ที่คาดไม่ถึง เหตุการณ์ทำให้เกิดการเรียนรู้ สุดยอดจริ๊งจริง ขอชื่นชม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท