ชีวิตที่พอเพียง : 1420b. ขับรถไปทำงานวันหยุดในท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วม
ชีวิตที่พอเพียง : 1420b. ขับรถไปทำงานวันหยุดในท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วม
วันที่ ๒๗ ต.ค. ๕๔ ผมตื่นเวลา ๔.๓๐ น. ดู ThaiFlood Reporter บอกว่าน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงสะพานพระราม ๔ ไหลเร็ว แต่สถานการณ์ที่ปากเกร็ดโดยรอบบ้านผมปกติ ดูมาตรวัดระดับน้ำที่ปากเกร็ด ไม่ถึง ๓.๑ เมตร เข้าเว็บ นสพ. ต่างๆ ข่าวซ้ำๆ เดิม
ผมเติมน้ำกรองลงขวดเก็บไว้ดื่มและสังเกตว่าใสสะอาดตามปกติ ไม่มีสีเหลืองอย่างน้ำประปาใน กรุงเทพ ที่น้องชายบอกเมื่อคืน
ผมขับรถออกจากบ้านไปทางถนนเลี่ยงเมือง สู่แจ้งวัฒนะไปขึ้นทางด่วน ไปลงที่ด่านสีลม สู่โรงแรมโอเรียนเต็ล ใช้เวลา ๓๐ นาที เพราะถนนโล่งมาก แต่ไม่โล่งเท่าวันที่ ๒๒ ต.ค. ตอนผมไปส่งสาวน้อย ที่คอนโด ตลอดทางไม่เห็นร่องรอยน้ำท่วมเลย รวมทั้งที่ถนนเจริญกรุงและในซอยเจริญกรุง ๔๐ แต่ที่โรงแรม โอเรียนเต็ลตรงลานริมแม่น้ำเจ้าหน้ากำลังเช็ดน้ำกันอยู่ เพราะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงกว่าพื้นเล็กน้อย แม้คันคอนกรีตกั้นน้ำจะยังสูงกว่าระดับน้ำมาก เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำมุดมาทางใต้ดินผ่านทางท่อน้ำเสีย ทำให้ผมงงเหมือนกันว่าโอเรียนเต็ลปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำเจ้าพระยาหรือ
แสดงว่าเมื่อคืนนี้และเช้าวันนี้น้ำสูงกว่าเมื่อวาน แต่ที่ปากเกร็ดระดับน้ำเมื่อเช้าต่ำกว่าเมื่อวาน ผมพยายามหาข่าวที่มีข้อมูลยืนยัน หลีกเลี่ยงการเชื่อข่าวของสื่อมวลชน ด้วยตระหนักว่าสื่อมวลชนนิยม รายงานข่าวด้านเดียวคือข่าวร้าย ทั้งๆ ที่ในสถานการณ์แบบนี้ ทั้งข่าวร้ายและข่าวดีเป็นที่น่าสนใจพอๆ กัน แต่สื่อมวลชนเสพติดข่าวร้ายจนเป็นนิสัยหรือประเพณีเสียแล้ว ยังโชคดีที่สมัยนี้เรามีข่าวทาง social media ซึ่งที่ผมนิยมมากคือ ThaiFlood Reporter ซึ่งผมทำตัวเป็นทั้งผู้รายงานและผู้เสพ
บ่ายสองโมงผมขับรถกลับบ้านปากเกร็ด ไม่พบน้ำที่ใดอย่างเคย อ่านเว็บ นสพ. พบรายงานของ บริษัททีมฉบับที่ ๔ ที่นี่ บ้านผมอยู่พื้นที่เสี่ยงมาก ตอน ๑๕.๔๕ น. ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากเกร็ด สูงประมาณ ๓.๑ เมตร ดูจาก ThaiFlood Reporter ไม่เห็นว่าสถานการณ์เปลี่ยนแปลง
ที่ที่ประชุมรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล กรรมการคนไทยแลกเปลี่ยนลิ้งค์ตรวจสอบน้ำท่วมกัน มีเว็บตรวจสอบความสูงของบริเวณที่อยู่ว่าอยู่เหนือระดับน้ำทะเลกี่เมตรที่นี่ ผมตรวจแล้ว บ้านผมสูงกว่า ๕๐ เมตร แต่เรื่องน้ำท่วมคราวนี้มันไม่ได้เอ่อมาจากทะเล แต่เป็นน้ำที่บ่าลงมาเพื่อไปทะเล ดังนั้นผมต้องเชื่อ บริษัททีมไว้ก่อน ซึ่งมีให้ตรวจสอบที่นี่เปรียบเทียบกับสำนัก ดร. เสรี
งานประชุมคณะกรรมการรางวัลฯ ดำเนินไปดีมาก เสร็จเร็วกว่าที่คิด พรุ่งนี้จะมีงานอีกครึ่งวัน เพื่อปรึกษางานปีหน้า
ตอนนี้ “เลขา” ไปนอนเป็นเพื่อนป้าอี๊ดที่คอนโด ส่วนพี่สาวของเขาไปสิงคโปร์วันนี้ ไปช่วยเลี้ยงหลานอีกคน “เลขา” เขาตรวจสอบสถานการร์น้ำท่วมจากแหล่งอื่นๆ ที่ไม่ตรงกับของผม แล้วเราแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นกัน ได้ข้อยุติว่าผมอยู่บ้านและประเมินสถานการณ์ไปเรื่อยๆ
สรุปว่าวันนี้บ้านผมน้ำยังไม่ท่วม แต่สาวน้อยวิงวอนมาทางอินเทอร์เน็ตให้ผมอพยพไปอยู่ที่คอนโด เธอกลัวเป็นหม้าย
วิจารณ์พานิช
๒๗ ต.ค.๕๔
ความเห็น (3)
ขอส่งความเห็นใจไปยังสาวน้อยของคุณหมอด้วยค่ะ ..
ชอบอารมณ์ขันค่ะ...^__^
...
ชอบมากค่ะ อาจารย์ อาจารย์เขียนได้ตรงใจจริงๆ
"แต่สื่อมวลชนเสพติดข่าวร้ายจนเป็นนิสัยหรือประเพณีเสียแล้ว ยังโชคดีที่สมัยนี้เรามีข่าวทาง social media ซึ่งที่ผมนิยมมากคือ ThaiFlood Reporter ซึ่งผมทำตัวเป็นทั้งผู้รายงานและผู้เสพ"
ตอนนี้ช่วงเช้า ข่าวช่องเจ็ดสี เขาเริ่มมี "เรื่องดีๆรับวันใหม่"ทุกวัน ตอนแรกเห็นก็อุตส่าห์ดีใจ สังเกตได้ว่าเขาพยายามหาเรื่องราวดีๆ เรื่องคนทำดีมาบอกเล่าให้เราฟัง แต่พอทำนานๆมาก็เริ่มๆจะกลับไปสู่นิสัยหรือประเพณีเดิมๆของสื่อมวลชนซะอีกแล้ว แต่ก็ยังดีที่ยังคงมีเรื่องดีๆมากกว่าเรื่องร้ายๆ(ที่บอกแล้วไม่เห็นสร้างสรรค์อะไร) อย่างที่สื่อมวลชนส่วนใหญ่พยายามหามาบอกเรานะคะ