บุนนาค
ดร. วรนันท์ มุฮัมมัด รอมฎอน บุนนาค

ชีวิตทุกชีวิตในสากลจักรวาลกับอัลอิสลาม


ในบรรดาสรรพสิ่งทั้งมวล พระผู้เป็นเจ้าพระองค์อัลลฮ(ซ.บ) เป็นผู้ทรงบังเกิด พระองค์จึงเป็นเอกะ ในสากลจักรวาล ซึ่งพระองค์ได้ตรัสไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน อันจำเริญ 30:41 ว่า ความหายนะได้เกิดขึ้นแล้วทั้งทางบกและทางน้ำ เนื่องจากสิ่งที่มือของมนุษย์ได้ขวนขวายไว้เพื่อที่พระองค์จะให้พวกเขาลิ้มรสบางส่วนที่พวกเขาประกอบขึ้น โดยที่หวังจะให้พวกเขากลับเนื้อกลับตัว

ในวิถีอิสลาม เราต่างมีความศรัทธามั่นว่า มนุษย์ไม่ได้มาจากลิง วานร หรือสัตว์กลายพันธ์ชนิดใดทั้งสิ้น อิสลามถือว่าชีวิตมิใช่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาเอง แต่เป็นสิ่งที่อัลลอฮ(ซ.บ)พระผู้เป็นเจ้า ทรงประทานให้แก่มนุษย์ ดังนั้นมนุษย์ในตัวตนของมันเอง จึงมิได้เป็นเจ้าของชีวิตที่แท้จริง หากแต่พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่เป็นเจ้าของ มนุษย์จะทำลาย ทำร้ายชีวิตของตนเอง หรือชีวิตของคนอื่นไม่ได้( กรณีกัดดาฟี เป็นความเลวร้ายของมนุษย์ที่โฉดชั่วในคราบของมุสลิมเลว ทั้งๆที่เขาวางอาวุธมอบตัวแล้ว พวกบ้าคลั่งยังทำร้ายชีวิตเขา และที่สำหรับลากศพเขาประจาน ด้วยความอุจาด รวมถึงเหนี่ยวรั้งศพเขาไม่ดำเนินการฝัง ที่ผมยกเรื่องราวภายในวงเล็บนี่ล้วนแต่เป็นหลักการที่สำคัญยิ่งในอิสลามที่มุสลิมจะกระทำกับมุสลิม ทั้งการจับเป็นเชลย การดำเนินการกับเขาด้วยกระบวนการกฎหมายที่ยุติธรรม แม้ว่าประเทศของคุณจะยังไม่ใช้กฎหมายอิสลามก็ตาม ขอพระองค์อัลลอฮ(ซ.บ) ลงโทษคนเหล่านี้ให้สาสมกับการฝ่าฝืนบัญชาของพระองค์ ที่สำคัญเขากระทำกับมุสลิมที่ยอมจำนนแล้ว) ยกเว้นกรณีที่อัลลอฮ(ซ.บ)พระผู้เป็นเจ้าทรงอนุมัติ เช่นการประหารชีวิต ฆาตกรตามคำพิพากษาของศาล อิสลามสอนว่า มนุษย์ถูกส่งมา มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ เป็นการชั่วคราวและมีชีวิตที่แตกต่างกันทั้งในด้านความรู้ ความสามารถ ฐานะ โอกาส ทั้งนี้เพื่อมนุษย์จะได้มีความสัมพันธ์กัน แต่สิ่งที่มนุษย์จะได้รับเหมือนกัน คือการทดสอบจากอัลออฮ(ซ.บ)ตลอดชีวิตว่าเขาจะนึกถึงและศรัทธาปฏิบัติตามคำสั่งใช้สั่งห้ามของพระองค์หรือไม่ หรือจะเป็นผู้ต่อต้าน ฝ่าฝืน  การทดสอบนี้จะมีตั้งแต่ความกลัว ความอดอยากหิวโหย การสูญเสียทรัพย์สิน ชีวิต พืชผล ในสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เช่นนี้ก็เข้าข่ายการทดสอบเป็นพิบัติภัย(บารอฮ)ซึ่งการลงบารอฮของพระผู้เป็นเจ้ามากับไฟไปกับน้ำ และในบางคนถูกทดสอบด้วยความมั่งคั่ง รำรวย อำนาจ วาสนาบารมี จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต และทุกชีวิตก็จะถูกอัลลอฮ(ซ.บ)เรียกกลับไปฟังผลการทดสอบในวันแห่งการพิพากษาตัดสิน    ดังนั้นยามใดก็ตามที่มุสลิมประสบกับภัยพิบัติ ความหายนะ ความทุกข์ยากลำบาก และการสูญเสีย เขาจะต้อง อดทนอย่างถึงที่สุด  และตระหนักว่า นี่เป็นการทดสอบ จากอัลลอฮ พร้อมกับกล่าวว่า

                                   อินนา ลิลลาฮิ วะอินนา อิลัยฮิ รอญิอูน  แปลว่า  แท้จริงเราเป็นของอัลลอฮ และยังพระองค์ที่เราต้องกลับคืน   มุสลิมจะไม่ตีโพยตีพาย หรือเอะอะโวยวาย โทษนั่นโทษนี่ เพราะการทำเช่นนี้ มิได้ทำให้ดีขึ้น และตัวเขาเองก็จะไม่ได้พบกับความสงบ ขณะเดียวกันเขาก็จะต้องไม่สิ้นหวัง ในความเมตตาของอัลลอฮ(ซ.บ) เขาจะต้องดำรงนมาซ(ไม่ขาด)และวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระองค์ต่อไป เช่นเดียวกันในยามที่เขาได้รับสิ่งที่ดีงาม มุสลิมผู้ศรัทธทจะไม่ทนงตน เย่อหยิ่ง และว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความสามารถของเขา แต่เพียงผู้เดียว แต่เขาจะต้องตอกย้ำกับหัวใจของตัวเองเสมอว่าพิบั๖ภัยความสำเร็จ ความดีงาม ที่เขาได้รับนั้นเป็นเพราะความโปรดปราณที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่เขา "บรรดาการสรรเสริญเป็นสิทธิแด่พระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)" 

หมายเลขบันทึก: 465709เขียนเมื่อ 23 ตุลาคม 2011 10:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2012 15:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท