สาวเทพฯ รับกลิ่นอายแห่งเมืองกรุง….สมองกลับฯ


ปัจจุบันใช้แหล่งพำนักอยู่ในเขตชั้นในบรรยากาศดี- ความเป็นธรรมชาติยังคงอยู่อีกมากโข การคมนาคมสะดวก ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า รถเมล์หลายสายวิ่งบริการเลือกได้ตามใจชอบ แต่ไม่ใช่เขตอนุสาวรีย์ฯ นะ เดี๋ยวจะถูกเหมารวมว่า “ บ้านนอก ”

ดั้นด้นฝ่าสายน้ำหลากมุ่งสู่เมืองกรุงอย่างอดทน  เพราะต้องทนนั่ง-นอนอยู่บนรถปรับอากาศนานกว่าเดิมเกือบเท่าตัว  และฟังคำพร่ำบ่นจากบัสโฮสเตส ตลอดระยะเวลาของการเดินทาง  เกือบทุกครึ่งชั่วโมงของเวลารวม ๘ ชั่วโมงเต็ม กับใจความเดิมคล้ายกับท่องบทไดอะล็อกจนจำได้ขึ้นใจ

“  โอ๊ย....ไม่ไหวหรอก  วิ่งอ้อมไปตั้ง 100 กว่ากิโล  มันคุ้มที่ไหนกัน  ถ้าใช้น้ำมันก็ขาดทุนไปแล้ว  นี่ดีนะว่าใช้แก๊ส  นายก็ไปเชื่อคำพูดเขาได้ ว่ามาได้  สั่งให้รถออกวิ่ง... แล้วเป็นไง มันมาได้ก็จริง แต่ใช้เวลานานมาก กว่าจะถึงกรุงเทพฯ เสียเวลาตั้งนาน  ถนนบางช่วงน้ำเอ่อด้วย แล้วจะกลับอย่างไรล่ะเนี่ย  ”( วนไป-มา แบบนี้) 


                                                           


      
                                                  หลายคนหยอกล้อว่า ได้กำไร เพราะค่ารถไม่ต่างกว่าเดิม

                                                                           


                                                                        pie animation

    
                                                                

ปัจจุบันใช้แหล่งพำนักอยู่ในเขตชั้นในบรรยากาศดี- ความเป็นธรรมชาติยังคงอยู่อีกมากโข  การคมนาคมสะดวก ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า   รถเมล์หลายสายวิ่งบริการเลือกได้ตามใจชอบ แต่ไม่ใช่เขตอนุสาวรีย์ฯ นะ  เดี๋ยวจะถูกเหมารวมว่า “ บ้านนอก ” หลายเสียงชอบค่อนขอดว่า  พวกต่างจังหวัด(บ้านนอก)หากไปไหนไม่ถูกก็ไปตั้งต้นที่อนุสาวรีย์ (ปัทโธ่ ….แค่มาจากหัวเมืองที่ห่างไกลเมืองหลวงแค่นั้นเอง)
         
        " ไปไหนมาครับ "  เป็นคำถามที่คนขับแท็กซี่ชอบถามบ่อยๆ

        " มาจากกำแพงเพชร "

        " ไปทำอะไรที่นั่นล่ะครับ "

        "  ก็บ้านอยู่ที่นั่น "

        " ไม่ใช่คนกรุงเทพฯเหรอครับ "

        " ไม่ใช่หรอก  แต่ก็มาบ่อยมาก "   ต้องรีบขยายความเพิ่ม  เดี๋ยวจะขับพาอ้อมไป-อ้อมมาเสียก่อน

 

                        
                                                                 busy street.gif (59357 bytes)

 

       " คุณๆรถคันนี้ปลายทางวิ่งถึงที่ไหน "  หนุ่มใหญ่นั่งเคียงคู่บนรถเมลล์ถามอย่างต้องการคำตอบ
      " ไม่ได้มองป้ายเสียด้วย รู้แต่ว่าผ่านอนุสาวรีย์ เดี๋ยวถามให้แล้วกัน "  สะกิดถามผู้โดยสารคนอื่นที่ดูจะรู้ภาษามากกว่าใคร
      " อ๋อ   ไปสิ้นสุดที่เยาวราชค่ะ  ตกลงคุณจะไปไหนนะ....  อ้อ... ร.พ. ราชวิถีก็ลงที่อนุสาวรีย์  ประตูทางเข้าอยู่ใกล้ๆกับป้ายพอดี  เดี๋ยวลงพร้อมกันก็ได้  เผอิญจะต่อรถไฟฟ้าที่นั่น "

      " ………..อ้าวคุณไม่ได้ทำงานที่นี่เหรอ "
 
              แม้แต่ต่างประเทศเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา  พนักงานขายของยังหลงเข้าใจผิดบ่อยๆ คิดว่าอาศัยอยู่ที่นั่น  แสดงว่าปรับตนเองได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    


                                                               


การเข้ากรุงครั้งนี้  จุดประสงค์หลักคือการเสริมอาหารให้สมอง  ส่วนจุดประสงค์รองฯน่าจะเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์   อาชีพอย่างผู้เขียนต้องหมั่นศึกษาหาความรู้และติดตามการเปลี่ยนแปลงของสังคม โดยเฉพาะสังคมเมืองกรุง ต้อง Update ข้อมูลอย่างฉับพลัน 
    


                                                                         

                                                                       

วิถีชีวิตของสังคมเมืองหลวง แตกต่างกันไปตามสถานภาพของผู้คน ผู้เขียนขอแบ่งออกเป็น  3 ระดับ ตามเกณฑ์ที่กำหนดเองโดยอิงข้อมูลพื้นฐานจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ปรับเข้าสู่นิยามแห่งตนดังนี้

    ***  ระดับชนชั้นรายได้สูง  ***

    ***  ระดับชนชั้นรายได้ปานกลาง ***

    ***  ระดับชนชั้นรายได้เรี่ยๆพื้น ***

        ระดับชนชั้นรายได้สูง  หมายถึงผู้มีทรัพย์สิน-รายได้ต่อเดือนมากมายเกินความจำเป็น   มักจะใช้ของแบรนด์เนม แต่งองค์ทรงเครื่องที่แสดงว่ามีฐานะ ให้ดูหรู-ไฮ  คอมักจะตั้งตรง หน้าเชิด  สายตาจะมองอยู่ในระดับศีรษะ  ผิวจะขาวผ่อง เปล่งรัศมีเรืองๆ (จากสารบางอย่าง)

      ระดับชนชั้นรายได้ปานกลาง  หมายถึงผู้มีรายได้เพียงพอที่จะดำรงตนอยู่ได้อย่างไม่ลำบากในภาวะเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน  สามารถผ่อนบ้าน- ผ่อนรถได้ และอาจมีเหลือพอที่จะสนองความสุขส่วนตนได้แต่ไม่ใช่ทุกกรณี    ส่วนมากจะเป็นมนุษย์เงินเดือน 
    
     ระดับชนชั้นรายได้เรี่ยๆพื้น ส่วนมากจะเป็นระดับแรงงานของ โรงงานต่างๆ หรือรับจ้างทั่วไป  มีรายได้เพียงพอแค่ค่าครองชีพ หากไม่รู้จักประหยัดหรือเก็บออมจริงๆ จะไม่เหลือพอที่ผ่อนส่งบ้านหรือยานพาหนะ  และต้องเลือกเอาว่าจะผ่อนบ้านก่อนหรือรถยนต์ก่อน จะไม่สามารถผ่อนทั้ง 2 อย่างในเวลาเดียวกันได้  อาจเจียดเงินหาความสุขใส่ตัวได้บ้างเล็กน้อย   

 



                                                ใกล้กันแค่เอื้อม....แต่ต่างกันราวนรก-สวรรค์

             
กิจกรรมเสริมอาหารให้สมองครั้งนี้ คือเข้ารับการอบรมภาษาญี่ปุ่น ณ ศูนย์ภาษาญี่ปุ่น กรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้า-จรดเย็น  เป็นเวลา 5   วัน และต่อด้วยการสัมมนาภาษาญี่ปุ่นจัดโดย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น  อีก 2 วัน 
 

 

                           ผู้เข้าร่วมอบรมภาษาญี่ปุ่น...สาวนั่งขวามือสุดด้านหน้าถูกน้ำท่วมบ้านจึงมาอบรมได้เพียงวันเดียว


หลังเสร็จสิ้นภารกิจการอบรมแต่ละวันก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านการพัฒนา-การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของสังคมเมืองกรุง ตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งติดตามข่าวสารเรื่องน้ำท่วม เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทยหลายแสนคน เสียหายหลายแสนล้านบาทเลยทีเดียว

       

                                                                           



ชีวิตในเมืองกรุงครั้งนี้ปรับตนเองเป็น สาวเทพฯ ชนชั้นลูกผสม   บางวันไปเดินเล่น-ทำธุระในสถานที่หรูๆ จ่ายค่าน้ำผลไม้ แก้วละ 150 บาท ค่ากาแฟแก้วละ 180 บาท ทนทานอาหารยกระดับจานละ 500 บาทรสชาติเลี่ยน-จืดๆ อย่างน่าเบื่อ(เบื่อรสชาติแบบนี้จริงๆ) เดินหาข้าวแกงทานสักจานหนึ่งยังไม่ได้เลย   บางวันก็เดินลุยรับกลิ่นอายแห่งเมืองกรุง  ทั้งกลิ่นน้ำครำที่แสนจะคุ้น- กลิ่นควันพ่นมาจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่ติดกันเป็นแพ สั่งขนมจีนข้างทางมาคลายหิว-เดินแทะข้าวโพดต้มเล่นไปเรื่อยๆ  ... แต่เอ๊ะ…..หันไปเห็นอาคารสูงใหญ่แห่งหนึ่ง มองเห็นป้ายลูกโป่งติดไว้ด้านหน้า  สมองสั่งการให้อ่านข้อความนั้น
  
          NO -  WO -  PEN 
 
               ชื่ออะไร  แบบนี้นะ...ช่างแปลกจริง    ถิ่นแถบนี้ ชาวต่างชาติ เยอะมาก  ทั้งฝรั่ง  แขก  ญี่ปุ่น


   
       

ปัทโธ่…….ระยะนี้อบรมภาษาญี่ปุ่น….. จึงใช้สไตล์การอ่านแบบญี่ปุ่นโดยอัตโนมัติ   ถ้าเป็นอักษรที่เขียนด้วยภาษาโรมันจิ(ใช้ตัวภาษาอังกฤษเขียน) จะอ่านออกเสียงแบบทีละสองตัว เป็น 1คำ
 


จริงๆแล้วมันคือคำว่า Now Open ต่างหากเล่า   “ เฮ้ออ ….สาวเทพฯ รับกลิ่นอายแห่งเมืองกรุง….สมองกลับฯ ซะแล้ว ”  


                                                     *** ขอขอบคุณผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านนะคะ ***

หมายเลขบันทึก: 465392เขียนเมื่อ 20 ตุลาคม 2011 00:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 04:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

เล่าเรื่องได้สนุกดีคะ

รายได้สามระดับ นี่แบ่งตามองศาการตั้งคอหรือเปล่าหนอ

ระดับสูง คอตั้ง 90 องศา ระดับกลาง 45 องศา ส่วนระดับเรี่ยๆ พื้น ดูพื้น..น่าคิดจริง

นึกถึงเพลงเก่า ที่เล่าเรื่องราวแบบนี้ มีอยู่หลายเพลงเชียวครับ

http://www.youtube.com/watch?v=4dGOg4F709A

Ico48 คุณ ป.คะ

                

  *** ขอบคุณนะคะ....สำหรับกำลังใจและการต่อเติมข้อมูลให้มีสีสันเพิ่มมากขึ้น  เป็นการสื่อให้รับรู้ว่า " คุณ ป.ช่างมีอารมณ์ขันมากมายภายใต้ความคิดอันแหลมคม ค่ะ  ***

 

                                                                          

Ico48 อาจารย์โสภณคะ

    *** ขนาดเพลงที่แนะนำให้ฟัง  ยังเป็นเพลงเตือนสติ-สอนใจ   เรียกว่าไม่ได้ละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่สักนาทีเดียวเลยเชียว ...  ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจดีๆ ที่มีให้เสมอมา ***


                                                                    

สนุกสนานจริงๆเลยนะครับอาจารย์ของผม

Ico48คุณไพโรจน์ครับ

    *** ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความตึงเครียดของสถานการณ์เมืองกรุง ณ ยาม นี้  ต้องนำอารมณ์ขันมาดับความรู้สึกหวั่นระทึก....ไม่งั้นจะรับไม่ไหวนะครับ ..... " ท่วมถึงไหนแล้ว  ด่านระพีพัฒน์แตกแล้ว  มีรอยรั่ว น้ำแทรกเข้าคลองประปา  ประกาศเขตเสี่ยงอีก ๓ แห่ง  โอ๊ย....." ขอบคุณนะครับ  ***


                                                               

ได้ฟีงเพลงก็มีความสุขแล้ว หนุ่มบอกว่าอยู่กับคุณแล้ว โคตรมีความสุขเลย อย่างนี้เรียกว่าความรักเปล่า อยากมีไทม์เมชีน อ่ะ

ยายไม่ไได้เข้ากรุงเทพหรอกแต่เท่าที่อ่านก็เห็นภาพชัดเจน เขียนได้แสบๆคันๆ เห็นใจและสงสารคนน้ำท่วมมากๆ

มีญาติมิตรพาไปทำบุญเมืองเหนือ แวะตั้งแต่ว,ป่าอาจารย์ตึีอไปเรื่อยๆ จนถึงว,เด่นสะหลีแล้วไปพักค้างคืนที่วัดถ้ำผาปล่องที่เชียงดาว ไปถึงเย็น ขึ้นบันไดไปอีก ๕๐๐กว่านิดๆขั้น ก็เข้าที่พักอยูบนเชิงเขา แต่น้องแอนนาบอกว่ามัมลืมกล้องไว้ที่รถ ได้แต่บอกว่า มันเดินย้อนเป็นเพื่อนแค่หมดแรงแล้วลงไปเองนะ พอดีมีลุกวัดขึ้นลง ก้ฝากเขาดุแลให้ ตอนค่ำขึ้นไปทำวัตรเย็นบนเจดีย์

ที่เป็นที่พักลป สิม อากาศดีมาก ท้องฟ้าสีสวยกระจ่างใส เห็นดวงดาววิบวับ สวยงามสงบเงียบเหมือนอยู่อีกมิติหนึ่ง เมื่อทำวัตรเสร็จ พระสอนวิปัสสนากรรมฐาน ท่าเทศน์แอกเซ้น ล้านนา ท่านบอกว่าให้ดูที่กายและจิตของตัวเอง รู้แล้ววางมองให้เห็นความแตกดับ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่ให้ใจสอดส่ายออกนอกตัวให้ดูแต่ใจตัวก็พอ ทุกคนต่างนั่งสงบเหมือนเราอยู่ในถ้ำคนเดียว หลังจากนั้นได้คุยกันบ้างทราบว่าส่วนใหญ่เป็นผศ, รศ, มหาวิทยาลัยหลายๆที่ เขาเตรียมเบียงที่จะใช้ติดตัวกันแล้ว

ตอนเช้าก็ตื่นตี๓ ครึ่ง ขึ้นมาทำวัตรเช้ากัน คนทางเหนือปีนขึ้นเขาเก่งและไม่เหนื่อยเลย ยายต้องนึกในใจว่า ซ้ายย่างหนอขวาย่างหนอก็ถึงเหมือนกัน ช้าหน่อย ขึันไปถึงแล้วบรรยากาศดีมากๆ กลิ่นอายของความสุขสงบ อากาศสด เมื่อได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ทำให้นึกถึงชีวิตคนเราก็เหมือนพระอาทิตย์ มีขึ้น มีตก เมื่อเราขยันหายใจไปเรื่อยๆ วันรุ่งขึ้นพระอาทิตย์ก็จะขึ้นมาใหม่อีก ไม่เหมิอนเรื่องของความรักสมัยนี้ รักโดยไม่รู้ชื่อ ความรักไม่มีเหตุผลจริงๆ แต่ก็เข้าใจได้

เรื่องน้ำท่วมทำลายความสุขของคนไปชั่วระยะหนึ่ง จากความสุขความปกติที่เราเคยมี เป็นประสบการณ์ที่บางคนไม่เคยมี รองเท้าคู่หมื่นกว่าของเขาก็อาจจะเป็นคู่ถูกสุดก็ได้ แต่เมื่อผ่านไปแล้วที่้เราควรระวัง คือเหตุที่จะเกิดหลังน้ำลด ชีวิตธรรมดาๆของเราก็ต้องเปลี่ยนไป คนตกงาน คนไม่มีจะกินจะใช้ ข้าวของจะแพงขึ้น เราอยู่บ้านนอกมีกินมีใช้พอเพียงแต่คนถูกน้ำท่วมก็คงต้องเผชิญอีกต่อไป

Ico48พี่ติ๋วคะ

         ***  ยินดีด้วยนะคะ  ที่มีโอกาสได้ปฏิบัติธรรมอันเป็นความสุขที่ยั่งยืน  แถมยังได้ทำกุศลทานด้วยการดูแลหนูแอนนา  บุญกุศลคงเอื้อหนุนให้ครอบครัวพี่ติ๋วมีความสุขมากยิ่งขึ้นและสมปรารถนาทุกประการนะคะ   น้องคงยังต้องรับใช้ชาติไปอีกหลายวาระฯ ตามบทบาทและหน้าที่   ยามสติมั่น....คงลด-ละ-เลิกอภัยทาน หลับตาเสียข้างหนึ่งก็ยังไหว  แต่ยามเห็นภาพความเดือดร้อน -ทุกข์ยากของพี่-น้องร่วมชาติก็อดไม่ได้ที่ใจจะว้าวุ่น รู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์พวกที่เอาเปรียบสังคม  ทำให้ประเทศชาติเสียหายหลายแสนล้านบาท ยังคงเป็นปุถุชนธรรมดาที่ยังคงความโลภ-โกรธ-หลง  ไว้อยู่เต็มหัวใจ  เฮ้ออออ! .... " ขอบคุณนะคะพี่ติ๋ว " ***

 

                                                                     

  • อ่านเพลินเลยค่ะสาวกรุง..แต่อาการสมองกลับเนี่ย ใกล้เคียงกันแล้วนะคะ..
  • ไม่สงสัยเลยว่าตัวเองอยู่ระดับใด ฮาๆๆๆๆ

  Ico48 K. Tim Kah,


                           ***  แหม.....ขนาดปรับเปลี่ยนตนเองไปเรื่อยๆ นะเนี่ย  ยังเผลอไผลแสดงตนให้คนเขาคาดเดาได้ถูกอยู่เรื่อยเชียว.... อิอิอิ...  ขอบคุณนะคะ อ.ติ๋ม !  แต่ที่แน่ๆ งงกับการปรับปรุงระบบของ G2K อ้ะ....หาออฟชั่นไม่ค่อยเจอเลย   จะใส่สี-ตีไข่ อย่างไงถูกละเนี่ยยยย  ***

 


                                                                           

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท