ตำนานผีล้านนาตอน "ผีตากผ้าอ้อม"


เริ่มเข้าหน้าหนาวผีพากันตากผ้าอ้อม

ถึงหน้าเดือนสิบสองเหนือหรือเดือนสิบใต้  เหล่าบรรดาสายน้ำทั้งหลายต่างพากันไหลหลากท่วมบ้านช่องห้องหอ บ้างก็เสียหายมากน้อยตามระดับน้ำที่ไหลรุนแรงหรือท่วมเป็นเวลานาน

ขณะที่กระแสน้ำไหลหลากมักพาเอาดินโคลนปะปนมาด้วยต่อเวลาเมื่อน้ำแห้งลง ทำให้มีดินโคลนพอกสิ่งที่มันท่วมจนหนาเตอะมีผลดีต่อชาวไร่นาเพราะดินพวกนี้มีคุณค่าอุดมด้วยอาหารของพืช  ปลูกพืชผลจะดกดีงาม

ต่อเมื่อกาลเวลาผันผ่าน กระแสน้ำลดระดับในเวลาเดือนเกี๋ยงหรือเดือนเจี๋ยงตรงกับเดือนทางภาคกลางคือเดือนสิบเอ็ด    ขณะที่น้ำลดกระแสพร้อมกับสายมลมหนาวเริ่มรำเพยพัดจอยกิ่งไม้ใบหญ้า บรรดาจี้กุ่งหรือจิ้งโกร่ง  จิ้งหีดหรือจิ้งหรีดต่างพากันร้องเซ้งแซ่ ระงมไพรยามค่ำคืน เป็นสิ่งบอกเหตุว่าหน้าน้ำนองจะลาจากไปแล้วละเน้อ...

แม้เสียงจ้ิงหรีดกรีดร้องส่งสัญญาณบอกว่าน้ำจะลดแล้วแต่บรรดาผู้คนยังไม่ไว้วางใจว่าน้ำจะลดลาไปจริง  เพราะมีบางปีน้ำลดกระแสไปแล้วแต่จู่ๆเมื่อฝนตกหนักน้ำกลับมาไหลนองท่วมไร่นา บ้านเรือนกันอีกเป็นครั้งที่สองที่สามก็มี ต้องรอให้บรรดาผีทั้งหลายพากันมาตากผ้าอ้อมนั่นแหละจะไว้วางใจแน่นอนว่าน้ำจะลดจริงแน่นอนในปีนั้น

หมอกเหมยลอยละอองอั่วอุ้มผิวท้ิองน้ำในยามเช้า หากเราเดินไปตามไร่นาเรือกสวนตามฝั่งน้ำ  หรือเกาะกลางแม่น้ำจะเห็นละอองน้ำสีขาวเกาะผืนใยเล็กๆปิดปากรูของแมลงตามพื้นดินบ้าง  บางผืนกางอยู่บนยอดหญ้าบ้าง  บางผืนใหญ่ราวคืบกว่าๆ บางผืนเล็กเพียงนิ้วเดียว  ผืนใยที่มีละอองน้ำเกาะเป็นแผ่นสีขาวนี้เองชาวบ้านเรียกกันว่า  "ผีตากผ้าอ้อม"

ต่อเมื่อถึงยามสายแสงอาทิตย์สาดส่องให้ละอองน้ำแห้งเหือดหายไปเหลือเพียงใยแมงมุมที่ทำรังอยู่ตามพื้นดินรอให้มีละอองหมอกเหมยยามกลางคืนกลับมาเกาะตามเส้นใยอีกครั้งก็จะมีผืนผ้าอ้อมของบรรดาผีเอามาออกตากให้เห็นอีกครั้ง

 จนกาลเวลาล่วงผ่านเข้าหน้าร้อนบรรดาผีก็จะเก็บผ้าอ้อมไว้ไม่ยอมนำผ้าอ้อมออกมาตากจนกว่าจะถึงยามหนาวปีหน้าเมื่อกระแสน้ำลดระดับอย่างแท้จริงผีทั้งหลายก็จะพากันนำไผ้อ้อมกลับมาตากอีกครั้ง

ผู้คนล้านนาจะใช้ปรากฏการณ์ผีตากผ้าอ้อมเป็นสััญญาณบอกว่าหากมีผีเอาผ้าอ้อมมาตากเมื่อใด  เมื่อนั้นแหละกระแสน้ำละระดับอย่างแท้จริง  พวกเขาจึงพากันเริ่มลงมือทำสวนปลูกพืชตามริมฝั่งน้ำ  ตามเกาะกลางน้ำโดยไม่มีสายน้ำกลับหลากล้นมาท่วมทำให้ทรัพย์สิน พืชผลของพวกเขาเสียหาย

เออผีตากผ้าอ้อมนี่ก็มีประโยชน์ต่อผู้คนเน้อหมู่เฮา...

หมายเลขบันทึก: 465278เขียนเมื่อ 18 ตุลาคม 2011 21:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 01:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

คิด “มุมเครียด” มานานบ้านน้ำท่วม

จุกจนอ่วมอรทัยน่าใจหาย

คิด “มุมดี” มีบ้างทางสบาย

หากไม่ตายคงซึ้งหนึ่งบทเรียน

 

ไหว้สาครับคุณโสภณ..

บางบทเรียนต้องฟันฝ่าอุปสรรค

บางบทรักต้องหักหาญประจัญฝ่า

บางบทชีพต้องกล้าแกร่งแข่งเวลา

บางบทล้าต้องฮึดสู้เพื่ออยู่นาน..เอาใจช่วยทุกๆคนครับ..

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน......พรหมมา

 

 

 

....เราคง..ต้องตามดูผีตากผ้าอ้อม..ตามมุมตึก.สูงเสียดฟ้า..แทน..ยอดหญ้า..นะ..เจ้าคะ..ผีสมัยใหม่..อ้ะ..ต้นหญ้ามันหายไปไหนโหม้ด...(ยายธีแอบคิด..อิอิ..)

สวัสดีครับยายธี...

แอบคิดละก้อแจ๋วจริงๆ....ต้องช่วยกันรักษาต้นไม้ พืชต่างๆเพื่อให้สิ่งแวดล้อมคงอยู่ครับ...

ขอบคุณที่เข้ามาแอ่วและอ่านเพิ่มเติมข้อคิด....

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน..พรหมมา

โธ่! หลงผิดมาตั้งนาน..

คิดว่าผีตากผ้าอ้อมคือแสงแดดอ่อนๆ

ยามเย็นโพล้เพล้..

ที่แท้..คือละอองน้ำสีขาวเกาะผืนใยแมงมุมนี่เอง

แฮ่ะแฮ่ะ..

ขอบคุณลุงหนานค่ะ..

สวัสดีครับคุณต้นส้มแสนรัก......

ยินดีเน้อที่เข้ามาแว่แอ่วและก็อ่านครับ.....

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท