ณ.ปัจจุบันการทำงานด้านส่งเสริมการเกษตรอยู่ในสภาวะที่เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันทั้งระบบการผลิตด้านการเกษตรของพี่น้องเกษตรกรก็เกิดผลกระทบที่มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติหรือภัยธรรมชาติ ไม่ว่ากรณีเกิดน้ำท่วมพืชผลทางการเกษตรที่เกษตรกรปลูกได้รับความเสียหายจำนวนไม่น้อย และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยเฉพาะพื้นที่นาลุ่มในเขตหลายๆพื้นที่
จังหวัดกำแพงเพชร ก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมพืชผลทางการเกษตร เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนที่ตกหนัก และน้ำไหลหลากจากทางเหนือลงสู่ภาคกลางของแม่น้ำปิง ห้วงระหว่างวันที่ ๑๒-๑๗ กันยายน ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา พื้นที่นาลุ่ม ส่วนใหญ่ก็จะถูกน้ำท่วมในเขตหลายอำเภอได้แก่ อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอคลองขลุง และอำเภอเมืองกำแพงเพชร เป็นต้น
ภารกิจหนึ่งของนักส่งเสริมการเกษตรที่ปฏิบัติงานอยู่ในภาคสนามจะต้องประสานงานหน่วยภาคี อปท. ผู้นำชุมชนและผู้นำกลุ่มอาชีพ ได้เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะการรับแจ้งพื้นที่ทำการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย จากน้ำท่วมในครั้งนี้ การออกไปสำรวจข้อเท็จจริงร่วมกับคณะทำงาน เพื่อที่จะช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากภัยภิบัติในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนต่อไป
อีกภารกิจหนึ่งที่สำคัญของนักส่งเสริมการเกษตรจะต้องตระหนักอยู่ตลอดเวลาก็คือการปรับแนวคิดที่ขับเคลื่อนปรัชญาทางการส่งเสริมการเกษตร ที่ว่า วิธีการให้พี่น้องเกษตรกรสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดที่ว่า การแนะนำให้เกษตรกรรู้จักวิธีตกปลา ดีกว่า การนำเอาปลาไปให้
การออกไปเยี่ยมเยียนเกษตรกรถึงบ้านเรือน และไร่นา ยังเป็นบทบาทที่สำคัญบทบาทหนึ่งของนักส่งเสริมการเกษตรรุ่นใหม่ที่ควรจะเรียนรู้จากนักส่งเสริมการเกษตรรุ่นเก่าๆ
การที่จะเป็นนักส่งเสริมมืออาชีพได้นั้นก็จะต้องมีประสบการณ์การทำงานกับชุมชน การสร้างและพัฒนาเครื่องมือของการเรียนรู้กับชุมชน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ การทำงานแบบมีส่วนร่วม การฝึกทักษะในการเป็นวิทยากรกระบวนการ หรือที่เรียกว่าทักษะการเป็นคุณอำนวยนั่นเอง
รวมทั้งการปรับแนวคิดในการทำงานอย่างมืออาชีพนั่นเองครับ
เมื่อเร็วๆนี้ผมและทีมงาน ได้ออกไปเยี่ยมเยียนเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยรายย่อยที่เข้าร่วมกิจกรรมการจัดทำแปลงขยายพันธุ์อ้อยพันธุ์ดีแก่ชุมชน ประจำปี ๒๕๕๔ ที่ตำบลมหาชัย อำเภอไทรงาม และตำบลบึงสามัคคี อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการผลิตอ้อยของเกษตรกรรายย่อย ซึ่งมีการจัดเก็บข้อมูลด้านเทคโนโลยีการผลิตอ้อย การสำรวจต้นทุนการผลิตอ้อย ควบคู่กันไปด้วย
การลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ครั้งนี้ ทีมงานเราได้ประสานเกษตรกรอำเภอ นักส่งเสริมการเกษตรที่รับผิดชอบพื้นที่ และเกษตรกรผู้เข้าร่วมกิจกรรม บางครั้งความตั้งใจที่ต้องการถ่ายทอดวิธีการทำงานส่งเสริมการเกษตรแก่นักส่งเสริมการเกษตรรุ่นใหม่ ที่ยังมีประสบการณ์การลงพื้นที่และชุมชนน้อย
ในขณะเดียวกัน การค้นหาปัญหาในการทำงาน ของนักส่งเสริม เพื่อพัฒนาไปสู่การค้นหาโจทย์ในการวิจัยในงานส่งเสริมการเกษตร หรือที่เรียกว่า R๒R นั่นเอง จำเป็นอย่างยิ่งต้องให้ความสำคัญกับการลงไปเรียนรู้ร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่องต่อไป
หากนักส่งเสริมไม่ลงพื้นที่ ไม่ลงไปทำงานกับชุมชน แล้วคนที่เขาอยู่ในชุมชน จะบอกให้เราทราบได้อย่างไร แล้วการขับเคลื่อนปรัชญาทางการส่งเสริมการเกษตรจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
เขียวมรกต
๑๗ กย.๕๔
ไม่มีความเห็น