แรงบันดาลใจจาก President ตัวน้อย


นักศึกษาแพทย์ แรงบันดาลใจ

" สร้างแพทย์ที่มีความพร้อมทั้งด้านจิตใจและทักษะ

ในการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน"

 วิสัยทัศน์ของสมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (IFMSA-Thailand)

เมื่อประมาณ 7 เดือนที่แล้ว เด็กตัวน้อยๆคนนี้ได้เข้ารับตำแหน่ง president ด้วยใจที่แข็งแกร่งพร้อมกับความฝันที่ยิ่งใหญ่ ที่จะนำพา IFMSA-Thailand ให้เข้มแข็ง มีมาตรฐาน และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนแพทย์ได้ เราเริ่มต้นปีกันอย่างกระตือรือร้นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ  

แต่ทว่าเมื่อทำงานไปเรื่อยๆ  งานที่ใหญ่โตเกินความรับผิดชอบของนักเรียน  ปัญหาการสื่อสาร การเรียนที่หนักหน่วง ก็ได้ทำให้พวกเราเหนื่อยล้า  โดยเฉพาะตัวนิชชี่เองซึ่งเป็นประธาน  กลับอ่อนแรง แรงบันดาลใจลดถอยลงไปมาก  แม้จะมีความสำเร็จเกิดขึ้นไม่น้อยก็ตาม  

วันที่รู้สึกไม่สามารถสู้ต่อไปไหวเคยปรึกษารุ่นพี่  เพื่อขอลาออกจากตำแหน่งที่ทำอยู่  แต่ก็ได้รับการทัดทาน และกระตุ้นให้คิดหลายๆอย่าง  เมื่อกัดฟันทนยืนต่อไป  ก็สามารถดำเนินงานไปได้เรื่อยๆ  

แต่พลังการทำงานของทั้งสมาพันธ์ก็ตกลงเรื่อยๆ  ตกลงเสียจนวันนี้รู้สึกได้ว่า  ประโยชน์ที่ได้ไม่คุ้มกับเวลาที่เสีย จึงต้องคิดกันหนักว่าจะทำอย่างไรต่อไป  เมื่อคิดได้ดังนี้  ก็รู้ว่าบางสิ่งบางอย่างคงขาดหายไป  เมื่อคิดทบทวนมาทั้งวัน ประกอบกับคุยกับคุณแม่  จึงรู้ว่า  

สิ่งที่ขาดหายไปคือ ความฝันของนิชชี่นี่เอง  จากวันแรกที่นัยน์ตาใสเป็นประกาย  วันนี้นัยน์ขุ่นหนา ประกายแห่งความหวังและความฝันหายไป  เหลือแต่เพียงความหวังว่ารุ่นต่อไปจะช่วยสานต่องานอันหนักอึ้งนี้ได้ 

แต่!!!!!!!!!!!!

ได้ยังไงล่ะ  เรายังเหลือเวลาทำงานอีกตั้ง 6 เดือนนะ!!!!!!!!!

และเรายังคงเหลือสิ่งที่สำคัญที่สุด  คือการประชุมระดับชาติ

ที่ซึ่งเราจะต้องส่งความฝันให้กับนักเรียนแพทย์ทั่วประเทศไทยให้เกิดจิตสำนึกร่วมกันในปัญหาต่างๆภายในประเทศไทยรวมถึงปัญหาต่างๆทั่วโลกอีกด้วย

ถ้าวันนี้เราหมดความฝันแล้ว  เราจะมีอะไรส่งต่อให้กับผู้อื่นล่ะ

ทบทวนเวลาที่ผ่านมา  เมื่อเราหมดความฝัน วิสัยทัศน์ที่เราร่วมคิดกันมาในต้นปี  ก็ไม่มีความหมายอะไรทางจิตใจอีกต่อไป เป็นเพียงสิ่งตั้งไว้ให้ดูสวยๆงามๆเท่านั้น

" สร้างแพทย์ที่มีความพร้อมทั้งด้านจิตใจและทักษะในการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน"

ข้อความนี้แสดงให้เห็นในแววตาและความคิดรวมถึงความสามารถของน้องๆหลายคนที่ทำงานร่วมกันมา  เป็นกำลังใจสำคัญที่สุดที่ทำให้ยืนหยัดอยู่ได้

น้องคนที่จากเงียบๆ ไม่ทำตัวมีสิทธิ์มีเสียงอะไรมาก่อนเลย  วันนี้เขาสามารถยืนขึ้นพูดสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนจำนวนมากได้  สามารถนำพาเพื่อนๆทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้

น้องคนที่จากที่เก่งมากอยู่แล้ว  มีจิตใจที่ดีงาม  ก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องทางสาธารณสุขมากขึ้น ได้พบช่องทางที่จะขยายความสนใจนี้ให้เป็นรูปเป็นร่่างขึ้นได้  มีความฝันที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานี้

น้องคนที่เรียบร้อย พูดน้อย  แต่เมื่อได้ทำโปรเจ็คระดับชาติและเข้าร่วมการประชุมระดับโลกก็สามารถกลับมาจัดอบรมสร้างแรงบันดาลใจให้น้องภายในประเทศต่อได้เป็นอย่างดี  ซึ่งเป็นสิ่งที่นิชชี่อึ้งมากว่าน้องเขาสุดยอดจริงๆ

น้องคนหนึ่งที่เกิดแรงบันดาลใจมากๆที่ไม่ใช่เพียงกิจกรรมที่ตอบแทนสังคม  แต่น้องเขารับเอาเข้าไปในชีวิต  และเป็นเรื่องที่น้องต้องการต่อสู้รณรงค์เพื่อให้ได้มาอย่างจริงจัง

น้องที่ยังไม่เก่งก็เก่งขึ้น  น้องที่เก่งแล้วก็ยิ่งเก่งขึ้นไปอีก

ที่สำคัญที่สุดคือทุกคนแรงบันดาลใจเต็มmax ในงานที่ตัวเองทำอยู่

หากนิชชี่ซึ่งเป็นประธาน  ไม่สามารถ build upกลับคืนมาได้  ก็จะยังคงส่งผลให้ระดับพลังงานของทั้งสมาพันธ์โดยรวมไม่สามารถถูกดึงขึ้นมาได้

จำวันแรกได้มั๊ย  วันที่แรงบันดาลใจของคณะกรรมการนั้น ไม่น้อย เพียงแต่ไม่ใหญ่  วันนั้นเราได้พยายามดึงมันขึ้นมา  สร้างมันให้ใหญ่ บอกให้เขารู้ว่าเขาทำได้  ส่งลมใต้ปีกเต็มไป stream  ผลที่ออกมานั้นสุดยอด

แต่เมื่อเราพบกับปัญหาลมใต้ปีกที่ส่งออกไปนั้นหมด

น้องๆก็ยังทรงตัวกันได้เป็นอย่างดี

เพียงแต่ไม่สามารถบินสูงขึ้นไปถึงดวงดาวอย่างที่เราตั้งความฝันกันไว้ตอนแรกได้

แต่อย่างไรก็ตามจนถึงวันนี้  ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นงดงาม

งดงามมากจริงๆ

มีความจำนวนมาได้แรงบันดาลใจไปจากน้องๆกลุ่มนี้

ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะรักษามันไว้ได้นานแค่ไหน

แต่พวกเขารู้ว่า  หากจะตามหามันกลับมาจะต้องทำอย่างไร

สิ่งที่สำคัญที่สุด  คือเราได้สร้างผู้นำขึ้นมา ผู้นำที่ในอนาคตเขาจะสามารถไปนำให้เกิดสิ่งดีๆขึ้น สิ่งที่เขาสนใจที่สุด และสร้างมันให้ยิ่งใหญ่ในแบบของเขา และพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน

ต้องบอกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้  ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากรองประธานฝ่ายในมากความสามารถและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจอย่างน้องน้ำหวาน  รวมถึงกรรมการทุกๆคนที่สนับสนุนในการจัดงานในแต่ละครั้ง

เขียนมาถึงขั้นนี้แล้วนิชชี่จะยังมัวท้อแท้หมดแรงมันดาลใจหมดความฝันอยู่ได้อีกเหรอ  จริงๆเหรอ  เราทำมาได้ไกลขนาดนี้แล้ว  ยังจะเสียใจทุกข์ใจอะไรอยู่อีก

คุณแม่บอกว่าถ้าหนูท้อ หนูเหนื่อย  หนูต้องนึกว่าหนูทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไร นิชชี่ตอบว่าอยากทำ if ให้ดีๆ คุณแม่ถามว่าหนูอยากจะมีอนาคตที่ไกลๆของตัวหนูเองอย่างไร ณ วินาทีที่นิชชี่ฟัง  นิชชี่นึกไม่ออกจริงๆ  คุณแม่ถามว่า  ที่เคยบอกคุณแม่  ว่าอยากจะทำงานเพื่อสังคม  หรืออยากไปทำงานชนบท หรืออยากไปทำงานองค์กรที่พัฒนาสิ่งต่างๆ  ไม่อยากทำแล้วเหรอ

ณ เวลานั้น นิชชี่ตอบคุณแม่ว่า  ไม่อ่ะ  ไม่อยากแล้ว  ไม่รู้สึกว่าจะทำได้เลย

คุณแม่ถามว่าถ้าอย่างนั้น  อยากจะโตขึ้นมีครอบครัวที่ดี  มีเงินใช้สอย มีเงินช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย ดีมั๊ย  นิชชี่ตอบว่า ก็อยากนะ  แต่ไม่เห็นจะรู้สึกว่าเป็นอนาคตที่จะน่าอดทนไปสู่เลย  สงสัยชีวิตคงจะสบายเกินไป  ทั้งที่ไม่ได้รวย  แต่ก็ไม่ได้มีความคิดที่จะต้องหาเงิน ทำให้ชีวิต ครอบครัวสบายมากขึ้นเลย

คุณแม่ถามว่าถ้าอย่างนั้นระหว่างชาวนากับหมออยากเป็นอะไรมากกว่ากัน  นิชชี่ก็ตอบว่า  เป็นชาวนาก็ดีนะ  แต่อยากเป็นชาวนาที่ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินมากนักอยู่ได้สบายๆ

คุณแม่ถามว่าอ่ะ  ถ้าอย่างนั้นระหว่างขอทานกับหมออยากเป็นอะไรมากกว่ากัน  นิชชี่ก็ตอบว่า ก็คงต้องหมออยู่แล้ว

คุณแม่ก็พยายามพูดอะไรบางอย่างออกมา  นิชชี่ก็เหมือนจะลอยไปที่อื่น หูทวนลม

สุดท้ายก่อนวางสาย  คุณแม่บอกว่าให้ไปดูชีวิตของคนอื่นบ้าง  คนที่เขาลำบากกว่าเราตั้งเยอะ  ยังคงต่อสู้ ดิ้นรน  อย่าหมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเอง

หลังวางสายนิชชี่ก็นอนหมดแรง  จนตื่นขึ้นมาเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง

คิดได้ว่าทำความฝันหายไป  อยากจะมาค้นหาใหม่

อยากจะเขียนบล็อกเพื่อค้นหาความฝันนั้นกลับมา

ประกาศมันออกมา  เพื่อให้มีสักขีพยาน  รวมถึงได้ร่วมแบ่งปันความฝันกับเพื่อนพี่น้องทั้งในและนอก IFMSA

ไม่ผิดหวังเลย

ตอนนี้คิดว่าค้นหาความฝันเจอแล้ว สิ่งที่คุณแม่ถามว่ามันคืออะไร สิ่งที่อยากจะทำให้หนูอยากยืนหยัดต่อสู้ต่อไปทั้งเรื่องการทำงานและเรื่องเรียน

สิ่งๆนั้นคือการสร้างและส่งเสริมคนให้สามารถไปถึงศักยภาพสูงสุดของเขาได้  ให้เขาได้ทำความฝันของเขาให้เป็นจริงได้

มันช่างงดงามจริงๆ

มันทำให้จิตใจของนิชชี่พองโต

มันทำให้นิชชี่รู้ว่านิชชี่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างแพทย์ที่มีจิตใจดี  มีความสามารถขึ้นมาอีกหนึ่งคน  ทีละหนึ่งคน  ก็สุดยอดแล้ว

คนไข้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้นิชชี่เสมอ  ในการสู้ทนทำงานบนวอร์ด  แต่ด้วยความรู้สึกเดียวกันนี้  ก็ทำให้นิชชี่หมดแรงบันดาลใจเหลือเกิน ที่พบว่าความรู้ความสามารถที่นิชชี่จะช่วยเหลือคนไข้ได้นั้นมันช่างน้อยนิด  จนจะสร้างความเสียหายมากกว่าช่วยเหลือได้  

แต่นิชชี่ไม่สามารถยอมแพ้  ถ้านิชชี่จะยังอยากจบแพทยศาสตร์  นิชชี่ยอมรับในการที่นิชชี่เคยละเลยการเรียน  ไปทำงานทุ่มเทในกิจกรรมมากกว่า  จนตอนนี้นิชชี่ความรู้ล้าหลังเพื่อนรุ่นเดียวกันมากนัก  เคยคิดย้อนไปว่า  ถ้ากลับไปได้ในชั้นพรีคลีนิคจะไปตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้รึเปล่า  คำตอบที่ได้กลับน่าประหลาดใจ  เพราะสงสัยจริงๆว่าจะตั้งใจมากกว่านั้นได้รึเปล่า  เพราะเราไม่เคยคิดว่าจะไม่ตั้งใจ หรือละเลยเลย  เพียงแต่  ใช้ใจทุ่มเทไปกับกิจกรรมมากจนเหลือช่องว่างให้กับการเรียนน้อยเหลือเกิน  เมื่อย้อนกลับไปได้ก็เป็นไปได้ว่าการตัดสินใจจะไม่เปลี่ยนแปลง  แต่การจัดการที่เก่งขึ้นในวันนี้  คงทำให้นิชชี่มีปัญหาแบบวันนั้นน้อยลง

 เมื่อตัดสินใจที่จะรักษากิจกรรมไว้แล้ว ก็จะทุ่มเทการเรียนยกกำลังสิบ  เอาล่ะ ตอนนี้ก็ไปปรึกษาอาจารย์มามากมาย  อาจารย์รับปากจะช่วยเป็นลมใต้ปีกให้นิชชี่บินถึงฝั่งให้ได้  นิชชี่ก็ต้องขยันกระพือปีกด้วยตนเอง  อย่างหมดแรงอีก นะ 

ไม่ว่าอนาคตนิชชี่จะไปทำงานอะไร  อย่างไร ที่ไหนก็ตาม  สิ่งที่นิชชี่จะไม่มีวันหยุดทำ  คือการสร้างคน ส่งเสริมคนให้ไปถึงฝัน  

นี่แหละคืออนาคตที่นิชชี่จะสู้ไปสู่

จากปัจจุบันที่นิชชี่ทั้งส่งเสริมน้องๆและได้รับการส่งเสริมจากพ่อแม่ อาจารย์ และรุ่นพี่

ขอบคุณทุกคนนะคะที่อ่านมาจนจบ และเป็นสักขีพยานให้กับความฝันของนิชชี่ ต่อ IFMSA รวมถึงความฝันส่วนตัวของนิชชี่  

We, together, are working on making a better world!!!

IFMSA-Thailand>>>" สร้างแพทย์ที่มีความพร้อมทั้งด้านจิตใจและทักษะในการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน"

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 459743เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2011 01:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2012 00:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท