ปราก .... อินเลิฟ


            สวัสดีค่ะ เอนทรีนี้ขอเกาะติดกระแสพี่เคนกะน้องเจนี่ ไปอินเลิฟกันที่ปรากตามรอย “กลรักลวงใจ” สักหน่อย  คุณๆผู้อ่านอย่าเพิ่งแปลกใจ ว่าแม่นีโอเปลี่ยนสไตล์มาเล่าเรื่องละครนะคะ ยังคงคอนเซ็ปคนรักโปสการ์ดอยู่ค่ะ ไหนๆก็อยู่ในช่วงละครออนแอร์ (แต่แม่นีโอได้ดูวันแรกวันเดียว) เลยถือโอกาสตามรอยละครกันค่ะ

            ปราก หนึ่งในเมืองคลาสสิคติดอันดับต้นๆของยุโรปกลาง เป็นเมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเชค ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก ไม่มีทางออกทะเล มีพรมแดนติดโปแลนด์ เยอรมนี สโลวาเกีย และออสเตรีย  ดังนั้นหลายๆคนที่เดินทางไปท่องเที่ยวเชค จึงมักพ่วงเมืองอื่นๆของประเทศเพื่อนบ้านไปด้วยเสมอ แต่โดยส่วนตัวแม่นีโอมองว่าลำพังเชคแห่งเดียว ก็มีเมืองสวยน่าไปเยือนหลายเมือง แต่เนื่องจากคราวนี้เป็นภารกิจเรื่องของงาน จึงมีโอกาสได้ไปเยือนเพียงแห่งเดียวคือ ปราก ซึ่งมีเพียงช่วงเวลาสั้นๆได้ชมเมืองสวย แค่นี้ก็อินเลิฟปรากเสียแล้วคุณขา

            ตามแผนที่ เราจะเริ่มต้นเที่ยวจากฝั่งซ้ายของแม่น้ำวัลตาวาที่ปราสาทปราก (Prague Castle หรือ Hradcany) กันก่อนค่ะ เราตั้งต้นที่สถานีรถไฟใต้ดิน Malostranska  แล้วเลือกขึ้นรถรางสาย 22 หรือ 23  ลงที่ป้าย Pražský Hrad แล้วเดินเข้าสู่ปราสาทกัน วิธีนี้เหมาะสำหรับคนขี้เกียจอย่างแม่นีโอ เพราะขึ้นไปที่จุดสูงสุดก่อน แล้วค่อยไต่ระดับลงมา บางคนอาจจะเลือกค่อยๆเดินขึ้นไปชมวิวยังปราสาทเบื้องบน ก็ตามอัธยาศัย หลังเก็บเกี่ยวอาณาบริเวณปราสาทปราก เราจะเดินเลียบลงมาผ่านย่าน Little Quarter หรือ Malastrana   มายังสะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge หรือ Kaluv Most ) แก้เมื่อยด้วยการขึ้นรถไฟใต้ดินเพียงไม่กี่ป้ายไปยัง Old Town  กินลมชมวิวและช้อปปิ้งย่านนี้ไปเรื่อยๆ แล้วไปจบด้วย (สถานที่จัด)คอนเสิร์ตที่ Municipal House แล้วจับรถไฟใต้ดินสายสีเหลืองที่สถานี Namesti Republiky กลับที่พัก โอ้..วันเดียวเที่ยวปรากจริงๆ :-)

             ปราสาทปราก เป็นปราสาทที่มีความเก่าแก่คู่บ้านเมืองเชคมายาวนาน และถือได้ว่าเป็นปราสาทใหญ่ที่สุดในโลก  องค์ประกอบต่างๆของปราสาทอยู่บนเนินเขาลดหลั่นกันไป ทางเข้าหลักของตัวปราสาทจะพบกับรูปปั้นการสู้รบของยักษ์ไททัน (Titans) ขอบอกว่างานปั้นนี้แสดงสรีระได้อย่างละเอียดละออถึงขั้นเห็นเส้นเลือดและกล้ามเนื้อเป็นมัดๆทีเดียวเชียว แม่นีโอเลยต้องถ่ายรูปยักษ์ไททันและทหารยามหน้าประตูทางเข้าสักหน่อย จากนั้นจะเข้าสู่อาณาเขตแต่ละชั้นของปราสาท ซึ่งหากต้องการชมภายในของแต่ละจุดจะต้องเสียค่าเข้าชมค่ะ  แม่นีโอเลือกซื้อตั๋วแบบระยะสั้น ราคา 250  CZK สามารถเข้าชมสถานที่ที่สำคัญๆได้เช่น มหาวิหารเซนต์วิตัส (Cathedral of St Vitus) พระราชวังเก่า (Old Royal Palce) โบสถ์เซนต์จอร์จบาซิลลิกา (St George‘s Basilica) เป็นต้น

            สถานที่ที่เรียกได้ว่าอลังการงานสร้างสุดๆ สวยสุดๆ เห็นจะเป็นมหาวิหารเซนต์วิตัส สถาปัตยกรรมสไตล์โกธิกที่ใหญ่ที่สุดของปราก ภายในเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์แห่งเชคหลายพระองค์  หน้าต่างมีการประดับประดาด้วยกระจกสีวิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา

            หลังจากอิ่มเอมกับมหาวิหารแล้ว เราออกมาเดินเล่นตรอกแคบๆที่เรียกว่า Golden Lane ตั้งชื่อตามช่างทองที่เคยอาศัยอยู่บริเวณนี้ บ้านเรือนแถบนี้หลังเล็กๆน่ารักน่าเอ็นดู  ปัจจุบันเป็นร้านขายของที่ระลึก ปกติแม่นีโอไม่ค่อยพลาดร้านแนวนี้ ต้องเข้าไปเจาะลึก อิอิ แต่คราวนี้ไม่มีเวลาจริงๆ แถมแต่ละร้านผู้คนเบียดเสียดกันอย่างกับเค้าแจกของฟรีขนาดนั้นเชียวค่ะ เลยได้แค่เดินผ่าน

            เลยตรอก Golden Lane มาหน่อย แม่นีโอแอบเห็นป้าย Toy Museum ฉลองครบรอบ 50 ปีบาร์บี้ วิญญาณคนแก่หัวใจเด็กเข้าสิง รู้ว่าไม่มีเวลาสักเท่าใดหรอก แต่ขอแค่โฉบเข้าไปใกล้ๆหน่อย พอให้ชุ่มฉ่ำใจ จึงได้ชมส่วนเฉพาะที่เค้าให้ชมฟรี และพ่วงโปสการ์ดใบน้อยติดมือมาเป็นที่ระลึกเท่านั้น

            ก่อนอำลาปราสาทปราก แม่นีโอแวะชมทัศนีภาพแสนโรแมนติกของปรากริมแม่น้ำวัลตาวา มองเลยไปยังสะพานชาร์ลส์ และยอดโดมของโบสถ์เซ็นต์นิโคลัสและยอดแหลมของโบสถ์อื่นๆ  ยืนสูดอากาศแสนสดชื่น เคลิ้มกับบรรยากาศไปสองอึดใจ  ในใจนึกขอบคุณเจ้านายเหลือเกิน ที่ส่งเรามาเข้าร่วมประชุมในเมืองที่แสนโรแมนติกแห่งนี้ แม้จะมีเวลาท่องเมืองเพียงน้อยนิด ก็แสนจะอิ่มเอมค่ะคุณขา

            จากปราสาทเบื้องบน เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆจะถึงเขต Little Quarter (Mala Strana) มีโบสถ์เซ็นต์นิโคลัส (St.Nicholas’s Church) ซึ่งเป็นโบสถ์สไตล์บาร็อกเป็นสัญญลักษณ์สำคัญของแถบนี้  เป็นอีกย่านที่น่าเดินเล่น มีร้านรวงและร้านอาหารน่านั่งมากมาย (แต่ไม่ได้นั่งฮะ) มีของที่ระลึกสวยๆงามๆเต็มไปหมด ที่ขึ้นชื่อเห็นจะเป็นพวกคริสตัลโบฮีเมีย หุ่นกระบอก แต่สไตล์แม่นีโอแค่แม็คเน็ตกะโปสการ์ดเท่านั้นค่ะ 

             เนื่องจากปรากเป็นเมืองคลาสสิคอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องห่วงโปสการ์ดแต่ละแบบก็งดงามจนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว นอกจากวิวทิวทัศน์ที่ขึ้นชื่อแล้ว คอโปสการ์ดอย่าลืมแวะช้อปโปสการ์ดภาพวาดสไตล์อาร์ตนูโวของศิลปินขึ้นชื่อแห่งปราก “Alphonse Mucha” ผลงานส่วนใหญ่ของ Mucha จะออกไปในทางหญิงสาวที่มีความพลิ้วไหวด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์แนวนีโอคลาสสิค เห็นแล้วตรงจริตแม่นีโอซะเหลือเกิน หากมีเวลาขอแนะนำให้แวะไปที่ Mucha Museum เลยค่ะ จะได้ชมนิทรรศการถาวรแสดงผลงานของ Mucha  ซึ่งอยู่ในเขตเมืองใหม่ ไหนๆก็จะไปชมผลงานของ Mucha แล้ว ยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกคนคือ  "Franz Kafka" นักเขียนนวนิยายชื่อดังชาวปราก ก็อย่าลืมแวะไปชมนิทรรศการชีวิตและผลงานของ Kafka ด้วยนะคะ

    

            วกกลับมาเรื่องเที่ยวกันต่อค่ะ เดินเล่นเพลินๆ จาก Little Quarter ก็จะมาพบกับสะพานชาร์ลส์  สะพานสไตล์บาร็อคเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองปราก ทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวา  ซึ่งจะเชื่อมระหว่างย่าน Old Town และ Little Quarter สองข้างของสะพานเป็นรูปปั้นของเหล่านักบุญของศาสนาคริสต์จำนวน 30 รูป หนึ่งในจำนวนนี้มีรูปปั้นของเซนต์จอห์น เนโปมุก (St. John Nepomuk) เป็นรูปปั้นที่เก่าแก่ที่สุดบนสะพาน ว่ากันว่าใครได้มาลูบที่ฐานของรูปปั้นที่ทำด้วยทองเหลือง จะได้กลับมาที่ปรากอีก...คงไม่ต้องบอกว่าแม่นีโอได้ลูบหรือเปล่า อิอิ 

           การเดินเล่นที่สะพานชาร์ลส์ช่างเพลินดีแท้ ตลอดทางของสะพานเต็มไปด้วยงานศิลปะที่มาตั้งขาย(แต่เราไม่ซื้อ อาศัยเดินชม อิอิ) มีนักดนตรีเปิดหมวกมาเล่นชิลๆ ที่สะพานยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวของปราสาทปรากได้สวยอีกมุม สำหรับผู้จะมาเยือนสะพานชาร์ลส์ ขอแนะนำให้มาแต่เช้าตรู่นะคะ หากมาช่วงเย็นหล่ะก็ความโรแมนติกลดลงไปครึ่งหนึ่งเชียวค่ะ ค่าที่มีผู้คนคลาคล่ำกันนี่หล่ะ 

 

             ไฮไลต์สุดท้ายที่ไม่ควรพลาดในการท่องปราก คือเขตเมืองเก่า (Old Town)  แม่นีโอเดินเลียบอาคารต่างๆอย่างเพลินตาเพลินใจ เพราะตึกแถบนี้สวยสง่า รายล้อมไปด้วยร้านอาหารน่านั่ง ร้านของที่ระลึกน่าซื้อ ราคาไม่ค่อยแพงด้วยค่ะเมื่อเทียบกับย่านอื่น เดินมาเรื่อยๆจนมาถึงจตุรัสเมืองเก่าต้องร้องว้าว บรรยากาศได้ใจ เลยชะแวบไปนั่งพักบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ยาน ฮุส (Jan Hus) ที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง  กวาดสายตาไปรอบๆ อิ่มเอมกับความงามเบื้องหน้าของโบสถ์ทิน (Church of Our Lady Before Tyn) ถัดไปจะเป็น Old City Hall ซึ่งด้านบนเป็นจุดชมวิวที่ควรค่าแก่การขึ้นไปชม ใครไปใครมาปรากอย่าพลาดเหมือนแม่นีโอนะคะ ที่ไม่ได้ขึ้นไปชม เคยชมภาพจากหนังสือและจากเพื่อนพ้องที่ขึ้นไปชม ขอบอกว่าสวยงามโรแมนติกสุดๆ เฮ่อ...พูดแล้วก็เสียดาย เอาหน่ะ มีเวลาแค่นี้ได้ชมแค่นี้ก็สุขใจ คราวหน้าตั้งใจมาเที่ยวอีกแน่นอน อิอิ

 

            ในบริเวณจตุรัสเมืองเก่ายังมีจุดที่สำคัญอีกอย่างคือ นาฬิกาดาราศาสตร์เก่าแก่กว่า 500 ปี ไม่เพียงบอกเวลา แต่ยังเชื่อมโยงกับการโคจรของดาวเคราะห์ต่างๆ ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ ผ่านจักรราศี  นาฬิกาจะตีบอกเวลาทุกชั่วโมง จะมีรูปปั้นสาวกของพระเยซูทั้งสิบสองออกมาทักทาย ผู้คนก็จะมาแหงนคอรอชมกัน  ที่จตุรัสนี้ยังมีโบสถ์เซนต์นิโคลัสอีกแห่ง (ชื่อเดียวกันแต่คนละโบสถ์กับที่ Little Quarter) ที่สวยงาม หลายคนจะแวะไปชมบ้านที่ Franze Kafka เคยอาศัยซึ่งอยู่ใกล้ๆกับโบสถ์ 

             

 

            เดินเลยไปอีกหน่อยผ่าน Powder Gate จะพบอาคารที่ทำการเทศบาล (Municipal House) ปัจจุบันกลายเป็นร้านอาหารสุดหรูและสถานที่แสดงคอนเสิร์ต สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว เป็นอีกแห่งที่ควรแวะค่ะ นอกจากนี้ผู้ที่รักความโรแมนติกจะใช้บริการรถม้าพาชมเมืองเก่าแบบเริ่ดๆเชิดๆก็ตามอัธยาศัยนะคะ สำหรับแม่นีโอได้แต่เพลินนั่งมองดูผู้คนที่ล้วนมีความสุขกับบรรยากาศแสนคลาสสิคแห่งนี้

        สุดท้ายก่อนจากกัน อยากบอกว่า ปราก....รักคุณเข้าแล้ว >_<

 

คำสำคัญ (Tags): #ปราก#โปสการ์ด
หมายเลขบันทึก: 459733เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2011 23:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีค่ะ

Ico64

แวะมาอ่าน ปราก .... อินเลิฟ น่าไปเที่ยวจัง...ขอบคุณค่ะ

มาลงชื่อเยี่ยมชมปรากครับ เมืองสถาปัตยกรรมแปลกตา เพลินตาเพลินใจ

ยินดีที่ดร.พจนา และคุณ Cherokee เข้ามาทักทายกันค่ะ :-)

ติดตามอ่านมาตลอด...ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องดี ๆ ครับ..

สวยมากเลยค่ะ อยากไปมาก........

อ่านแล้ว อยากไปเที่ยวปรากจังเลยค่ะ

อรุณสวัสดิ์วันครูค่ะพี่แม่โอ นี

ว้าว วาว ปราก ตีตราไว้ในแผนที่

สักวันคงได้มาวางหมุด ต่อ

สุขสันต์วัน เดือนแห่งความรักนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท