คุณธรรมจาก..รวงข้าว...


...ข้าว..จากหญ้าป่าสายพันธุ์หนึ่งที่ไร้คุณค่า...

 

คุณธรรม..จาก..รวงข้าว

เขียนโดย...กาญจน์มุนี ศรีวิศาลภพ (ร้อยตะวัน)...  

Original : http://proshot4u.blogspot.com/

*** บทความนี้กำลังจะตีพิมพ์ในหนังสือเล่มใหม่เรื่อง "ยิ่งใหญ่ด้วยใจตน" (Great by your mind)***

 

 

  ...ข้าว..จากหญ้าป่าสายพันธุ์หนึ่งที่ไร้คุณค่า...

  ปัจจุบันกลายเป็นอาหารหลักของมวลมนุษยชาติ 

  ยามเมื่อต้นข้าวออกรวง...ล้วนนำมาซึ่งความปีติยินดี

...ให้แก่ชาวนาผู้ปลูกข้าวเป็นยิ่งนัก...

 

  โบราณเคยเปรียบเปรยถึงคุณธรรมความดี

...ของบุคคลที่ยิ่งใหญ่ไว้ว่า... 

  "...ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว...

หากแม้ใครอยากเป็นที่ชื่นชมของเหล่าชนทั้งหลาย 

  ขอจงปฏิบัติตนให้เป็นดั่งเช่น “...รวงข้าว..."

 

รวงข้าวยิ่งแก่ยิ่งสุกงอมสมบูรณ์มากเท่าใด

ก็ยิ่งน้อมรวงลงต่ำ...เรี่ยรวงโน้มลงสู่พื้นดิน...

มิได้พุ่งปลายรวงขึ้นสู่ฟ้า...เพราะด้วยต้นข้าว...

เป็นพืชพันธุ์ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม...ต้นหญ้า...

อันต่ำต้อยกลางป่าเช่นเดียวกันกับพืชร่วมสายพันธุ์ต่างชนิด

 

ดังนั้น...ผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้...

มิใช่เพียงผู้ดำรงไว้ซึ่งอำนาจหรือทรัพย์ศฤงคารเท่านั้น

หากแต่ยังต้อง...รู้ซึ้งถึงฐานะที่แท้จริงของตน...

ไม่ลืมตัว…เหมือนวัวลืมตีน…. 

ไม่ลืมฐานะดั้งเดิมที่ตนเคยอยู่...เคยเป็น.. 

ดั่งเช่น…คางคกขึ้นวอ….

 

จงปฏิบัติตนให้เป็นดั่งเช่น...รวงข้าว...

ท่านจึงสามารถ...ครองใจมวลชนทั้งหลายได้...

นั่นคือ...บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง...          

 

 

 

 หลังเทศกาลออกพรรษา มีเทศน์มหาชาติแล้ว น้ำเจิ่งท้องทุ่ง ข้าวออกรวงอ่อน ลำต้นป่องกลาง เรียกว่า ข้าวกลัดหางปลาทู อุปมาเหมือนผู้หญิงตั้งท้องอ่อนๆ อยู่ในช่วงแพ้ท้อง ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงจะพายเรือไปรับขวัญข้าว หรือไปเยี่ยมแม่โพสพ เมื่อถึงกอข้าวที่ขึ้นงามที่สุดก็จะปักหลัก 1 หลัก นำชะลอมบรรจุหมาก พลูจีบ สีผึ้งป้ายใส่ใบตอง กระจก หวี แป้ง น้ำอบ กล้วย ส้ม อ้อยควั่น ให้แม่โพสพ โดยหวีใบข้าว พรมน้ำอบ พูดด้วยถ้อยคำไพเราะดังนี้

 

“…แม่โพสี แม่โพสพ แม่นพดารา ไปอยู่ที่ต้นไร่ปลายนา ขอเชิญแม่มารับอ้อยกับส้ม ผูกชะลอมไว้กับหลัก ใช้ด้ายสามสี แดง ขาว เหลืองผูกคอชะลอม ที่ยอดหลักปักเฉลวสานจากไม้ไผ่มีธงชายสามสีที่ได้มาจากงานมหาชาติผูกติดเป็นเครื่องป้องกันอันตรายที่จะมาทำลายต้นข้าว การเอาอกเอาใจข้าวเปรียบเหมือนการเอาใจผู้หญิงท้อง หาของแต่งตัว ของเปรี้ยวๆ มาให้...”

 

หลังจากฤดูออกพรรษา ชาวนาก็จะฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวข้าวและหลังจากการเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้ว ชาวนามักจะมี…พิธีการทำขวัญข้าว…ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีในการระลึกถึงคุณของแม่โพสพด้วย โดยการนำข้าวไปกองที่ลานเพื่อนวดข้าวแล้วจะมีพิธีเชิญขวัญข้าวสู่ลาน เอาซังต้นข้าวผูกเป็นหุ่นแม่โพสพและทำพิธีเซ่นสังเวยเพื่อขอความอุดมสมบูรณ์จงมีต่อผลผลิตตลอดไป

พิธีกรรมการทำขวัญข้าวนี้ นับเป็นประเพณีไทยโบราณของคนในสังคมเกษตรกรรมที่แสดงออกถึงความอ่อนโยน ความเคารพ ความกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณ ด้วยการไหว้แม่พระโพสพ นอกจากนี้ประเพณีการทำขวัญข้าวยังสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนไทยในเชิงจิตวิทยาสังคมได้ว่า …ตราบใดก็ตามที่มนุษย์ยังต้องพึ่งพาธรรมชาติ และรู้ว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ก็ควรอ่อนน้อมให้กับธรรมชาติและเอาใจใส่กับทุกสิ่งที่อยู่รอบข้าง เพราะทุกสิ่งในโลกย่อมต้องพึ่งพิงอาศัยซึ่งกันและกัน… อีกทั้งยังให้ข้อคิดสำหรับการดำรงตนให้อยู่อย่างมีความสุขในชีวิตได้เป็นอย่างดี เพราะทุกท่านล้วนอยู่ในฐานะที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งของสังคม ยังต้องมีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันตลอดเวลา จึงควรรู้จัก การอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักการให้ ไม่ยิ่งทะนงยโสโอหังต่อผู้อื่น หรือหลงตนองว่าเหนือกว่าเก่งกว่าผู้อื่น เพราะความคิดเช่นนี้จักนำพาความพินาศล้มเหลวมาสู่ตนเอง…ดั่งเช่นคำของพระพุทธองค์ได้กล่าวถึงคุณแห่งการอ่อนน้อมถ่อมตนไว้ว่า… 

 

“…เย วุฑฺฒมปจายนฺติ

นรา ธมฺมสฺส โกวิทา 

ทิฏฺเฐ ธมฺเม จ ปาสํสา

สมฺปราโย จ สุคฺคติ…”

 

  …นรชนผู้ฉลาดรู้ธรรมเนียม

นอบน้อมถ่อมตนต่อผู้หลักผู้ใหญ่

ในกาลปัจจุบัน ย่อมควรต่อการสรรเสริญ

และกาลข้างหน้า ก็ไปได้ดี…

 

( ติตติรชาดก ขุ. ชา. ๒๗ / ๓๗ )

 

เรียน ท่านผู้อ่านทุกท่าน 

*** บทความนี้อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ค่ะ แต่ท่านต้องใส่ชื่อเครดิตของผู้เขียนด้่วย...เนื่องจากบทความดังกล่าวเคยมีบุคคลหลายท่านนำไปเผยแพร่ยังที่อื่นมากมายและไม่ได้ใส่เครดิตชื่อผู้เขียน  ดังนั้นผู้เขียนได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังเวปไซต์ใหญ่ ๆ หลายแห่งและได้รับการดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้วเมื่อปี  (2009) และเนื่องจากบทความนี้กำลังจะตีพิมพ์รวมเล่มในหนังสือ "ยิ่งใหญ่ด้วยใจตน" ซึ่งได้ขอเลขที่ ISBN เรียบร้อยแล้ว จึงเป็นบทความที่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์โดยอัตโนมัติ****

 

  
**************** 

 

ลาวแพน - เดี่ยวจะเข้

 

หมายเลขบันทึก: 459342เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2011 19:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

นึกถึงคำโคลงที่ว่า

รวงข้าวคราวสุกน้อม  รวงลง

รวงลีบชูรวงตรง   สู่ฟ้า

..............................

..............................

ขอบคุณ อาจารย์โสภณ เปียสนิทและคุณพลอยโพยม นะคะที่แวะมาอ่านและให้กำลังใจหลายครั้งค่ะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท