ดิฉันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ พอได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกก็ต้องตื่นมาตอน7.00 น. เช้าเพื่อเตรียมตัวเรียนตอนแปดโมงเช้า ด้วยความเร่งรีบจึงไม่ได้ทานแม้กระทั่งข้าวเช้า ต้องไปรอรถเพื่อขึ้นไปเรียนในมอผู้คนก็มากมายพอรถมาถึงก็ทันใครทันมัน แย่งกันขึ้นรถด้วยความรีบเร่ง เป็นอย่างนี้ทุกวันตลอดชีวิตการเรียนมหาวิทยาลัย
ทำให้ฉันคิดถึงตอนเรียนสมัย ม . ปลาย ที่มีนาฬิกามีชีวิตมาปลุก แม่จะปลุกฉันทุกเช้า "ลูก ตื่นได้แล้ว" ทันไดนั้นฉันก็รีบอาบน้ำแปรงฟัน แต่งตัวเพื่อไปโรงเรียน พอเพียงฉันจะย่างก้าวออกบ้าน เสียงแม่ก็ร้องเรียก "ลูกมากินข้าวก่อน" แต่ฉันไม่ค่อยชอบกินข้าวเท่าไหร่ ไม่หิวด้วยซ้ำไป ฉันก็ไปเรียนเลย โดยไม่สนใจว่าแม่จะรู้สึกแย่แค่ไหน แม่จะต้องตื่นเช้ามาเพื่อทำอาหาร แต่เรากลับไม่ทาน อาหารนั้นก็จืดชืดไป
แต่แม่ก็ไม่เคยท้อ ทำอาหารทุกวันเพื่อลูกคนนี้ ทำให้เดี๋ยวนี้ลูกคนนี้รู้แล้วว่าอาหารมือเช้านั้นสำคัญแค่ไหน ตั้งแต่ลูกมาอยู่ห่างอ้อมอกแม่ ไม่เคยได้ยินเสียงนาฬิกามีชีวิตตัวนั้นปลุกลูกขึ้นมาทานข้าวอีกเลย
ไม่มีความเห็น