ร้อยเรียง เคียงร่วมทาง
จากที่มีการประชุมร่วมกันกับเครือข่ายเพื่อเตรียมการโครงการรณรงค์การป้องกันเอดส์เพื่อลดการติดเชื้อรายใหม่ และ การส่งเสริมการอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ชายบริการทางเพศ สาวประเภทสอง และสาวประเภทสองบริการทางเพศ (โครงการเครือข่าย MSM ชาติ) ได้มีการกำหนดเป้าประสงค์ว่าจะทำโครงการนี้เพื่อลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และสาวประเภทสอง รวมถึงสร้างความเข้าใจในการอยู่ร่วมกันและการส่งต่อให้ผู้ติดเชื้อได้เข้ารับบริการดูแลและรักษาทางสาธารณสุขที่เหมาะสม
ในตอนแรกที่เริ่มประชุมเพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน เครือข่ายพบอุปสรรคสำคัญอย่างมากในเรื่องการตกลงแบ่งบทบาทหน้าที่ในการทำงาน เป็นการประชุมที่ยืดเยื้อยาวนานกินเวลากว่า 2 วัน และเหมือนจะเป็นการประชุมที่ไม่รู้จักจบสิ้น แต่ละองค์กรก็มีแนวทางการทำงานของตัวเอง มีรูปแบบวิธีคิดที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ และยังแนวคิดมีการแบ่งพื้นที่ฉัน พื้นที่เธอ เด็กฉัน เด็กเธอ อยู่
และอุปสรรคที่สำคัญที่ควรจะกล่าวถึง คือ องค์กรภายในเครือข่ายแต่ละแห่งก็มีทักษะในการจัดกิจกรรม มีรูปแบบ เครื่องมือ รวมถึงทักษะและความรู้ความสามารถของบุคลากรที่แตกต่าง ทำให้ผลงานของแต่ละพื้นที่มีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันมาก
ในเรื่องการบริหารจัดการก็เช่นเดียวกัน บางองค์กรก็เป็นนิติบุคคลที่เชี่ยวชาญการทำงาน บางแห่งก็เป็นองค์กรชุมชนที่มีประสบการณ์ไม่นาน
ซึ่งพบว่ามีแนวทางปฏิบัติที่แตกต่างกันนั้น ส่งผลกระทบต่อโครงการ เช่น บางองค์กรเป็นนิติบุคคล บางองค์กรเป็นกลุ่มที่พึ่งจัดตั้งขึ้น องค์กรที่เป็นนิติบุคคล และองค์กรที่ทำงานมานานก็จะมีประสบการณ์การทำงาน และมีความสามารถในการบริหารจัดการมากกว่ากลุ่มที่พึ่งรวมตัวกัน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่โครงการกำหนด ทำให้กว่าจะปรับพื้นฐานให้แต่ละองค์กรคิด และมองเห็นภาพรวมเดียวกันทำได้แต่ก็ถึงกับลมจับเลยทีเดียว และความพยายามนี้ยังคงมีอยู่ถึงปัจจุบัน
มีคำกล่าวว่า ฟ้าหลังฝน มักจะสดใส ดูเหมือนจะเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริง สำหรับโครงการเครือข่าย MSM ชาติ เพราะจากการถกเถียง แลกเปลี่ยนกันอย่างถึงพริกถึงขิง และดุเดือดในตอนนั้น ทำให้มีการแลกเปลี่ยนประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่ชัดเจนขึ้น เช่น มาตรฐานการทำงานกับ MSM หลักสูตรการอบรม วิธีการทำงานเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และมีการแบ่งพื้นที่การทำงานกันอย่างชัดเจน ในบางพื้นที่ ชัดเจนถึงขนาดที่ว่า ในผับ องค์กรใดจะทำ ในร้านนวด องค์กรใดจะทำ เป็นต้น
เมื่อสามารถแบ่งพื้นที่ การทำงานได้อย่างชัดเจน กลไก หรือแนวทางที่จะทำให้องค์กรต่างๆ ขับเคลื่อนและร่วมทางกันก็เริ่มชัดเจนขึ้นทีละเล็ก ทีละน้อย บรรยากาศการทำงานร่วมกันก็ดีขึ้นตามลำดับ
มีโอกาสให้คนทำงานได้พูดคุยกันมากขึ้น เริ่มมีความใส่ใจสอบถามความรู้สึกของกันและกันมากขึ้น มีการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ และจากการคิดที่แตกต่างกัน ยังเกิดผลดีต่อเครือข่าย เพราะทำให้เกิดการประชุมย่อยๆ ขึ้นระหว่างทีมผู้ประสานงานของแต่ละองค์กรในเครือข่ายอีกหลายต่อหลายครั้ง
เมื่อพูดคุยกันมากขึ้น ก็เริ่มชัดเจนขึ้น และระยะเวลาในการส่งโครงการก็มีความกระชั้นชิดมาก เพราะต้องเร่งรีบพัฒนาโครงการเพื่อส่งขอรับการสนับสนุนจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข แล้วท้ายที่สุด ก็คลอดออกมาเป็น โครงการเครือข่าย MSM ชาติ ซึ่งดำเนินการในปีแรก โดยมีเป้าหมายสำคัญ เพื่อลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และสาวประเภทสอง
รวมถึงสร้างความเข้าใจในการอยู่ร่วมกัน และการส่งต่อให้ผู้ติดเชื้อได้เข้ารับบริการดูแลและรักษาทางสาธารณสุขที่เหมาะสม มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ คือ
1. เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงบริการการป้องกัน การตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวีแบบสมัครใจ และการส่งต่อเพื่อการรักษา ส่งเสริมให้มีทัศนคติ มีการประเมินความเสี่ยง และมีพฤติกรรมในการป้องกันเอดส์
2. เพื่อพัฒนาศักยภาพการทำงานร่วมกันขององค์กรเครือข่ายในโครงการรวมถึงเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร
และ 3. เพื่อสรุปบทเรียนที่ได้จากการทำงานร่วมกันในระดับชาติในการวางแผนการทำงานร่วมกันต่อไป โดยผ่านกระบวนการติดตามประเมินผล และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ภายใต้ความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการกำกับการขับเคลื่อนการปฏิบัติการป้องกันโรคเอดส์
ส่วนโครงการปีต่อเนื่อง ได้มีการพัฒนาโครงการร่วมกันระหว่างสมาคมฟ้าสีรุ้ง และเครือข่ายองค์กรในพื้นที่ประกอบด้วยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสมุทรสงครามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการทำงานโครงการเครือข่าย MSM ชาติ และสามารถขยายผลในพื้นที่ต่อได้
ซึ่งในส่วนของการพัฒนาโครงการต่อเนื่องได้มีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ประสานงานพัฒนารูปแบบและกลไกรณรงค์ป้องกันเอดส์มาติดตาม ช่วยเหลือ และคอยให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด จนกระทั่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ภายใต้ความเห็นชอบจากคณะอนุ -กรรมการกำกับการขับเคลื่อนการปฏิบัติการป้องกันโรคเอดส์ และได้ดำเนินการจริง
โดยในปีต่อเนื่องนั้นมีเป้าหมาย คือ เพื่อลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ชายบริการทางเพศ สาวประเภทสอง รวมถึงสร้างความเข้าใจในการอยู่ร่วมกัน และมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างไปจากปีที่ ดังนี้
1.เพื่อพัฒนารูปแบบการทำงานที่มีอยู่ในการรณรงค์ของกลุ่มMSM ในจังหวัดที่มีขนาดเล็ก โดยใช้วิธีสร้างกลไกการเรียนรู้และการทำงานให้อยู่ในพื้นที่อย่างยั่งยืน
2.เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็น MSM เกิดความรู้เรื่อง UNGASS 5 ข้อ / ความตระหนักรู้/การประเมินความเสี่ยง/ การเข้าถึงถุงยางอนามัย/ ทักษะการปฏิเสธต่อรอง และข้อมูลบริการด้านเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
3.เพื่อพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ภาคสนามและแกนนำ MSM ให้มีทักษะในการทำงานกับกลุ่ม MSM ในการให้ความรู้ สร้างความตระหนัก ส่งเสริมให้กลุ่ม MSM สามารถประเมินความเสี่ยงมีทักษะการปฏิเสธต่อรอง และสามารถเข้าถึงบริการถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นและ
4.เพื่อถอดบทเรียนการทำงาน และ วิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย ให้ข้อเสนอแนะ ในการนำไปขยายผลการทำงานรณรงค์ลดอัตรา การติดเชื้อรายใหม่ในกลุ่ม MSM
ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า โครงการเครือข่าย MSM ชาติ เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญ และเน้นเรื่องของการมีส่วนร่วมขององค์กรเครือข่ายที่ทำงานในประเด็น MSM เป็นอย่างยิ่ง ในการพัฒนาจนกลายเป็นโครงการนั้น เกิดการมีส่วนร่วมจากองค์กรในเครือข่ายอย่างมาก
ทั้งนี้ องค์กรส่วนใหญ่ในโครงการล้วนเป็นองค์กรที่มีการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวข้องกับการป้องกันเอดส์ในกลุ่ม MSM มาไม่น้อยกว่า 1 ปี และบุคลากรส่วนใหญ่ขององค์กรและโครงการก็เป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศอีกด้วย
ดังนั้น การมีส่วนร่วมในโครงการนี้ จึงเริ่มตั้งแต่การมีองค์กรที่ทำงานประเด็น MSM เข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการ โดยแบ่งเป็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
ไม่มีความเห็น