1.ช่วยให้เกิดความคิดเพื่อพัฒนาองค์การในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ประสานงานร่วมกับบุคคลอื่นให้เป็นไปตามกระบวนการ และระบบการบริหารงานภายใน
3.สามารถแก้ปัญหา ตัดสินใจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.แก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในองค์การได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.เพื่อมองเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับระบบภายในองค์การ ที่เกิดขึ้นเป็นระบบ เชื่อมโยงติดต่อกัน และสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หน่วยระบบทั้งหลายในเอกภพแบ่งระบบออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. หน่วยระบบตามธรรมชาติ (Natural System ) ซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เช่น ฝนตก แดดออก แบ่งเป็น 2 ชนิด
1.1 หน่วยระบบทางกายภาพ (Physical Systems ) รวมถึงสสารที่เป็นพลังงาน
1.2 หน่วยปฏิกิริยา (Intersectional System) เป็นการกระทำต่อกันระหว่างปัจจัยนำเข้าของแต่ละหน่วยระบบ ปรากฏอยู่ในหน่วยความสัมพันธ์ต่างๆ ที่จัดขึ้นเป็นหน่วยระบบความคิด เช่น น้ำ ออกซิเจน ซึ่งแต่ละหน่วยเป็นระบบกายภาพ แต่เมื่อนำมาสร้างปฏิกิริยา สัมพันธ์กัน กลายเป็นระบบที่เกิดขึ้นจากการทำปฏิกิริยาซึ่งกันและกัน
2. หน่วยระบบที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man made System ) ซึ่งก็มี 3 ชนิด คือ
2.1 หน่วยระบบกายภาพเช่นเดียวกับระบบธรรมชาติ เพียงแต่มนุษย์สร้างขึ้น
2.2 หน่วยปฏิกิริยา ( Intersectional System ) เช่นเดียวกับระบบธรรมชาติ
เพียงแต่มนุษย์ก่อปฏิกิริยาขึ้น
2.3 หน่วยระบบความคิดที่เรียกว่า มโนมติ (Concept ) มีทั้งหน่วยระบบกายภาพ และหน่วยปฏิกิริยาที่นำมาคิดสร้างสรรค์กลายเป็นผลงานที่สร้างขึ้นเป็นวัฎจักร ระบบ กระบวนการของมนุษย์ ที่คิดสร้างขึ้นโดยอาศัยแนวความคิดเดิมที่มีมาแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติมาผนวกเข้าด้วยกัน โดยอาศัยแนวความคิดสร้างระบบที่ต่อเนื่องขึ้น เช่น สูตรคำนวณต่าง ๆ
ไม่มีความเห็น