นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน
(กนง.) ในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไปเพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ต่อ 2 ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 3.25 เป็นร้อยละ 3.50 ต่อปี ทั้งนี้ สิงหาคม 2554
คณะกรรมการฯ ประเมินว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศอุตสาหกรรมหลักมีความเสี่ยงมากขึ้น จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวชะลอลงต่อเนื่องและอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาด เศรษฐกิจของประเทศหลักในยุโรปเริ่มขยายตัวชะลอลงบ้าง แต่คาดว่าเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียจะสามารถรองรับผลกระทบจากการชะลอตัวดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง จากแรงขับเคลื่อนของอุปสงค์ในประเทศและภาคการส่งออกที่มีความเข้มแข็งและปรับตัวได้ดี นอกจากนี้ ฐานะด้านการเงินการคลังก็ยังอยู่ในวิสัยที่จะดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้หากจำเป็น
คณะกรรมการฯ ประเมินว่า เศรษฐกิจในประเทศอุตสาหกรรมหลักที่ชะลอลง จะส่งผลต่อการส่งออกของไทยบ้าง โดยผลกระทบน่าจะบรรเทาลงจากการค้าภายในภูมิภาคเอเชียและการกระจายการส่งออกไปตลาดใหม่ๆ ที่มีมากขึ้น ส่วนการบริโภคและการลงทุนในประเทศคาดว่าจะยังเติบโตได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาวะการจ้างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้น ความต้องการสินเชื่อที่ยังขยายตัวได้ดี รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในระยะต่อไปสำหรับแรงกดดันเงินเฟ้อ แม้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกเริ่มชะลอลง แต่อุปสงค์ในประเทศที่เติบโตดีและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ยังเอื้อให้แรงกดดันด้านราคามีอยู่อย่างต่อเนื่องซึ่งได้ส่งผลให้การคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชนเร่งตัวขึ้นด้วย คณะกรรมการฯ ประเมินว่า แม้ความเสี่ยงของการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะสูงขึ้นจากการประชุมครั้งที่แล้ว เนื่องจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น แต่ในภาพรวม เศรษฐกิจไทยยังมีแรงขับเคลื่อนให้ขยายตัวได้ ในขณะที่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในอนาคตก็สูงขึ้นเช่นกัน ประกอบกับระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เข้าใกล้ระดับสมดุลมากขึ้น เพื่อดูแลแรงกดดันเงินเฟ้อในอนาคตยังเป็นนโยบายที่เหมาะสม จึงมีมติ 5
คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายที่เหมาะสม เพื่อดูแลให้เศรษฐกิจไทยเจริญเติบโตได้ต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพ
ธนาคารแห่งประเทศไทย 24
ข้อมูลเพิ่มเติม
e-mail: [email protected]
ไม่มีความเห็น