ครูในโรงเรียนประถมศึกษา หลายคนโชคดีได้เรียนรู้การทำงานที่นอกเหนือจากการสอนนักเรียนไม่ว่าจะเป็นงานรับใช้ผู้บริหารเช่น เป็นพนักงานเสริฟ์อาหารเครื่องดื่มอาหารว่างให้ผู้บริหาร เป็นพนักงานขับรถให้ผู้บริหาร เป็นแม่ครัวทำอาหารให้ผู้บริหารกินตามแต่อยากจะกิน เป็นเด็กยกของให้เมียผู้บริหาร เป็นเลขานุการส่วนตัว เป็นครูธุรการ ทำงานให้ครูธุรการตัวจริง เป็นภารโรงให้ตัวเอง ให้โรงเรียน ให้ผู้บริหารเป็นพนักงานขยายความคิดให้ผู้บริหาร ฯลฯ เป็นนักข่าวในโรงเรียน ใครทำเช่นนี้ไม่พลาดมักได้ฉลองขั้นบ่อย
และนั่นก็เป็นมุมหนึ่งที่ยังมีให้เห็นในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฉับพลัน
เคยเห็นมามากยิ่งกว่านี้ก็ยังมี...อนาทใจและเวทนาภาพที่เห็นทุกครั้ง
เหลือบความคิดเหล่านี้ก็ยังมีอยู่ในสังคมโรงเรียน บ้างก็ชอบทำแบบนี้ บ้างก็ไม่ชอบ แต่ถูกใช้ให้ทำ น่าสงสาร นานวันเข้า ก็ถูกกิเลสครอบงำเผลอใจชอบไปได้
ที่น่าภูมิใจก็คนที่ยืนหยัดบนความถูกต้อง ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่อีกทั้งสร้างผลงานสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนสร้างเด็กดี พลเมืองดีให้สังคม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี คนเหล่านี้สมควรจะยืนขึ้นรับเสียงปรบมือจากคนดีด้วยความรู้สึกดีๆ
เมื่อคำนึงถึงสภาพความเสื่อมการใช้งานร่างกายของคนเป็นครู มีครูจำนวนไม่น้อยที่นานวันเข้าก็ถึงซึ่งความเสื่อมของร่างกาย ยิ่งใครที่ต้องรับบทหนักก็จะยิ่งสะสมความเครียด จนวันสุดท้ายของชีวิตการเป็นครูที่บางคนไม่มีโอกาสได้...แม้แต่จะยิ้มรับวันรุ่งอรุณของวันใหม่ ..แม้แต่จะได้ชื่อว่าครูเกษียณ
หลายคนต้องเข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการทางสมอง และรักษาจิต ..ผู้มีอำนาจท่านเคยคิดแก้ปัญหาตรงจุดนี้บ้างไหม ทำที่พักผ่อนออกกำลังกายให้ครู สร้างห้องออกกำลังกาย ฟื้นฟูสุขภาพกายใจที่อ่อนล้า
แต่ละเดือนจะมีเพื่อนสมาชิกครูชพค.เสียชีวิตมากเหลือเกิน จากรายงานการขอเออรี่ปีนี้ก็ยังมีเพื่อนครูเสียชีวิต และป่วยหนักมากๆ ก่อนได้รับการพิจารณาให้เออรี่ได้แต่ก็มีหลายคนแม้ป่วยหนักช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตแล้ว ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เออรี่คงต้องไปสอนต่อในภพข้างหน้าหาช่องว่างไม่เจอ...ภาพเหล่านี้สะท้อนให้เห็นความไม่เอาใจใส่ ไม่ใส่ใจคุณภาพชีวิตของครูเท่าที่ควร
แต่สำหรับครูที่ผู้มีจิตวิญญาณของความเป็นครู เป็นผู้ให้แล้ว เขาย่อมไม่สนใจใครมากไปกว่าผลประโยชน์ที่ลูกศิษย์ควรจะได้รับ และมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขตามอัตภาพของตน
ปั้นคนให้เป็นคน มีความหมายดีครับ
เข้าใจหัวอกคนที่เป็นครูด้วยจิตวิญญาณจริงๆนะคะ
แต่บางครั้งก็ต้องยอมถอยด้วยพ่ายแพ้ต่อคนหรือระบบที่ไปไม่ได้กับตัวเอง
เป็นกำลังใจให้กับครูทุกคนที่ยังมีไฟในการทำงานค่ะ...
ได้เข้ามาอ่านบันทึกนี้แล้วชอบมากค่ะแต่ครูกายโชคดีที่มีผู้บริหารใจดีน่ารัก ไม่ต้องไปฝึกประสบการณ์แบบนี้หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเราแก่แล้วก็ได้ผู้บริหารท่านไม่ค่อยกล้าใช้ให้เสริฟ์อาหารเครื่องดื่มอาหารว่างให้ผู้บริหาร แต่เรื่องนี้ก็เป็นอยู่ทุกวันเช่นกันค่ะคือเป็นครูธุรการ ทำงานให้เจ้าหน้าที่ธุรการตัวจริงที่ต้องวิ่ง3โรงเรียนพอมาถึงที่โรงเรียนก็ต้องทำงานให้ครูคนอื่นที่ใช้คอมฯไม่เป็นหรือใช้เป็นแต่ไม่ยอมทำเอาเวลาไปนั่งนินทาเพื่อนสบายกว่ากันเยอะ555 เป็นภารโรงให้ตัวเอง ให้โรงเรียน กวาดในห้องสมุดหน้าห้องสมุด กวาดในห้องเรียนปิดหน้าต่างเปิดหน้าต่างเก็บขยะถอนหญ้า แต่ก็ทำมาตั้งแต่เริ่มบรรจุเลยกลายเป็นเรื่องปกติค่ะ
แต่ที่ไม่ปกติคือการทำงานวิชาการที่งานเข้ามาจากเขตฯก็เยอะงานในโรงเรียนก็เยอะเมื่อภาคเรียนที่ 2ปี 53ที่ย้ายมาก็ยังมีพี่สาวที่รับหน้าที่วิชาการเก่าคอยเป็นที่ปรึกษาคอยแนะนำให้ความช่วยเหลือเพราะพี่เขาก็เป็นคนที่ทำงานเองเพราะใช้เพื่อนก็ไม่มีใครอยากมาช่วยทำ แต่ปี 54 พี่ท่านขอออกลาไปพักผ่อนและทำธุรกิจส่วนตัว คราวนี้แหละค่ะรับศึกหนักอยู่คนเดียวเดี่ยวโดด และเป็นคนแปลกๆที่โรงเรียนไม่ค่อยอยากไปนั่งพิมพ์งานหน้าคอมในห้องธุการสักเท่าไหร่ ชอบอยู่ในห้องเรียนกับลูกๆหรือไม่ก็พามาเรียนกันในห้องสมุด ด้วยนิสัยเสียๆอย่างนี้เลยต้องแบกงานกลับไปทำและพิมพ์เองที่บ้านจนไม่มีเวลาทำงานในบ้านต้องใช้ลูกชายให้ทำงานบ้านแทนอยู่บ่อยครั้งจนลูกรำคาญเบื่อหน่ายไอ้เจ้าลูกชายคนเล็กถึงกับบอกว่ามามี๊น้องขอลาออกจากการเป็นลูกของมามี๊ได้ไหมครับ555
น้องครูกาย และทุกท่านทีเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน
ขอให้หมั่นตรวจสุขภาพประจำปีนะคะ
คนทำงานดีๆเก่งๆ หลายท่าน
ก็อยากให้มีสุขภาพกายใจที่ดี
หลังเกษียณจะได้โลกแล่น
ไปในที่ๆตัวเองชอบ อย่างมีความสุข
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมมาแลกเปลี่ยน
ขอบคุณค่ะ