ตั้งแต่วันที่ 13 - 21 ส.ค. 54 ใน มอ. หาดใหญ่ มีงานเกษตรฯ มีร้านค้านำพันธุ์ไม้ เครื่องมือ เครื่องจักรทางการเกษตรมากมายมาขาย ผู้คนมาซื้อหากันคับคั่ง แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันสิ้นสุดแล้ว กลับมีคนมามากกว่าปกติ สังเกตเห็นว่าทุกคนที่มาจะซื้อหาพันธุ์ไม้ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ผลติดกลับบ้านไปคนละต้นบ้าง เป็นคันรถบ้าง
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่วางแผนการไว้นานแล้ว ตั้งแต่ได้เตรียมการทำคันนาให้สูงในสัปดาห์ก่อนหน้านี้แล้ว จึงได้ซื้อต้นมะนาว 3 พันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ พันธุ์แป้นอำไพ 9 ต้น แป้นทวาย 4 ต้น แป้นทวายดกพิเศษ 1 ต้น ตั้งใจว่าจะปลูกในบ่อซีเมนต์ และได้ซื้อต้นทุเรียนหมอนทอง 2 ต้น พร้อมกับเครื่องมือการเกษตร 3 อย่าง มี จอบขุดเล็ก เสียมเล็ก และขวานด้ามเหล็ก
เสาร์-อาทิตย์นี้ในรถจึงใส่ต้นไม้กลับไปบ้านเต็มคัน ในวันศุกร์ไม่ลืมนำแหนแดงที่ได้ขอของพี่จากที่ทำงาน ซึ่งเขาใส่ในบ่อที่ปลูกพืชน้ำมาด้วยครึ่งถัง เตรียมใส่ในคูเลี้ยงปลา
วันเสาร์ก่อนถึงบ้านได้นัดกับคนขายกิ่งมะนาวพันธุ์พื้นเมือง ให้ไปรับของได้แล้ว จึงได้กิ่งมะนาวเพิ่มอีก 15 ต้น เมื่อไปถึงบ้านสักครู่เดียวฝนก็ตกหนัก แผนการที่จะทำโน่นทำนี่ ก็ไม่เป็นไปตามแผน จึงใช้เวลาว่างนั่งสับเปลือกมะพร้าว หรือพดพร้าว เก็บเอาไว้ก่อน
เมื่อฝนแล้งจึงนำแหนแดงไปเทใส่ในคูร่องนา ได้นิดเดียว คาดว่าจะขยายออกอย่างรวดเร็ว ในเร็ววันนี้
รุ่งเช้าวันอาทิตย์ได้เข้าไปในตลาด เพื่อซื้อกุ้งนาตัวเป็น ๆ จะมาใส่ในคูนา ได้กุ้งมา 1.4 ก.ก. ซึ่งผมเป็นคนสุดท้ายที่ซื้อได้ ดังนั้นจึงได้กุ้งที่ตายมากกว่ากุ้งเป็นมาปล่อย คาดว่าน่าจะมีชีวิตรอดไม่เกิน 100 ตัว ที่เหลือนำมาต้ม บีบมะนาว ใส่กระเทียม อร่อยเหมือนกัน
ถัดจากนั้นได้ปลูกผักบุ้งไว้ที่ริมขอบบ่อคันนารอบคันนา กว่าจะเสร็จเกือบเที่ยง พักเที่ยงมากินข้าวเช้า
จากนั้นได้ไปเอาแกลบดำจากโรงสีมา 2 กระสอบ มูลวัวที่เกือบกลายเป็นดินแล้วอีก 8 กระสอบ ซื้อมากระสอบละ 25 บาท จัดการนำมาใส่ในคูร่องนา 7 กระสอบ ซึ่งเป็นคำแนะนำจากชาวบ้านว่าถ้าต้องการเลี้ยงปลาเขาบอกว่าให้นำมูลวัวมาใส่ในน้ำเพื่อให้เกิดสัตว์หน้าดินขนาดเล็ก ให้กุ้งปลาได้กินก่อนที่จะซื้ออาหารเม็ดมาให้กิน
ต่อจากนั้นเริ่มเอากิ่งมะนาวมาใส่ในถุงดำ ใส่แกลบดำผสมกับมะพร้าวสับ ได้จำนวน 15 ถุง ตอนไปซื้อถุงดำได้ซื้ออาหารปลาดุก 1 กระสอบด้วย รวมการซื้ออาหารปลาทั้งหมดแล้ว 6 กระสอบ
สัปดาห์นี้จึงได้เนื้องานไม่มากนัก แต่ก็ใช้เวลาเต็มที่แล้ว ตั้งใจว่าจะฉีดฮอร์โมนให้พริก ซึ่งในสัปดาห์นี้เก็บได้ 8 ขีด ฝากพี่เขานำไปขายคาดว่าน่าจะได้ 40 บาท
มีข้อคิดมาเสริมนิดหนึ่ง เมื่อกลับมาที่งานเกษตรฯ ในวันสุดท้ายจะเห็นร้านค้าขายพันธุ์ได้ได้เกือบหมด โดยเฉพาะมะนาว คาดว่าใครที่คิดจะปลูกมะนาวนอกฤดูเพื่อหวังกำไร คงยกเลิกไปเลย เพราะทำตามกันมากเหลือเกิน ต่อไปคงไม่มีนอกฤดูกาลอีกแล้ว เช่นเดียวกับไผ่หวาน ปีนี้มาแรงมาก ขายดิบขายดี
สมัยผมยังเล็ก ๆ ชอบพูดแซวคุณแม่ว่า เวลาคุณแม่จะเลี้ยงหมู หมูกลับราคาถูก แต่พอแม่เลิกเลี้ยง หมูกลับขึ้นราคา เช่นเดียวกับตอนนี้ แม่ปลูกพริกเริ่มจะขายได้ ราคากลับมาตกต่ำที่ ก.ก.ละ 50 บาท แต่ก่อนหน้านี้ราคา ก.ก. ละ 150 บาท
เกษตรกรวันหยุดมีเรื่องมาเล่าเพียงเท่านี้ สำหรับผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเป็นอย่างไรนั้น จะได้นำมาเล่าในโอกาสต่อไป ขอขอบคุณที่อ่านจนจบ
อาจารย์นำเสนอได้น่าติดตามมากครับ
เห็นภาพ เข้าใจง่ายดีครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณคุณต้นกล้า และมะปรางเปรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง ที่ให้กำลังใจ
สวัสดีค่ะ
แวะมาทักทายค่ะ
เสียดายอยู่ไกลไม่ได้ไป
ชอบไม้ดอกค่ะ โดยเฉพาะกล้วยไม้