เราเป็นเด็กๆก็ไม่เข้าใจ คิดไปว่าเป็นธรรมชาติของคนแก่ที่คงมีรสนิยมอย่างนั้น ไม่เห็นว่ามันจะอร่อยตรงไหนเลย สู้เนื้อล้วนๆแบบของเราที่พ่อแม่แกะให้ไม่ได้ ซักกะหน่อย
ไม่เพียงแต่แกะให้ แต่ยังสำรวจตรวจก้างให้ไม่หลงเหลือ กลัวเราจะติดคอตาย
พอมาเป็นพ่อคนบ้างจึงได้เข้าใจว่า นิสัยแทะกระดุกแบบนั้นมันคงเริ่มพัฒนามาจากการแกะเอาแต่เนื้อดีๆให้ลูกกินหมด... เหลือแต่หัว ก้าง และพุง (ที่เปรอะอึขมๆด้วย) ซึ่งเอาให้ลูกกินไม่ได้เพราะมีก้างมาก และรสขม ก็เลยจำเป็นต้องกินหัวก้างและพุงเรื่อยมา
ยิ่งสมัยก่อนพ่อแม่มีลูกมาก 4-6 คนเป็นมาตรฐาน รายได้ก็น้อย ปลาทูก็แพง สามตัวสองบาท (สงสัยค่าขนส่ง) ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 8 บาท ปลาทูเข่งหนึ่งมีแค่ 2-3 ตัว เนื้อก็ไม่พอจะแบ่งกันแล้วแม้แต่ในหมู่ลูกๆ ...ลูกบางคนชอบด้านหัว บางคนชอบด้านหาง บางคนชอบกินกลางทั้งตัว .. แย่งด้านปลาทูก้นก็บ่อย พ่อแม่ต้องเป็นกรรมการแบ่งปลาทูอยู่เนืองๆ พร้อมสอนลูกๆ ไปด้วยในตัว
ตกมาสมัยนี้ปลาทูสองตัว ลูกกินคนเดียวตัวครึ่ง ส่วนพ่อแม่สองคนกินครึ่งตัว กะอีกสองหัว
พร้อมนี้ขอถือโอกาสกราบแทบหางขอบพระคุณปลาทูทุกตัวที่ได้สละเลือดเนื้อและชีวิตของท่านหล่อเลี้ยงสังคมไทยมาแสนนาน นำอาหารดีๆมาบำรุงสมองและร่างกายของข้าพเจ้าและปวงชนชาวไทยให้อุดมสมบูรณ์มาจนทุกวันนี้
...คนถางทาง (๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๔)
วันสิบสอง สิงหา ปีห้าสี่ ..
คิดถึงแม่ พ่อมี คุณใหญ่หลวง
แกะก้างปลา ทูหด หมดทั้งยวง
เพราะห่วงหวง ลูกรัก อยากให้กิน
แหม ทำเอาผมนึกถึงความหลังสมัยแทะหัวปลาทูกับแม่
ตอนนี้เคี้ยวไม่ไหวแล้ว ฟันกร่อนเสือแก่
เอาเป็นว่าแม่ยอมลำบากเพื่อลูกนะครับ
...โอ้โฮ..ชอบใจจริงๆๆ..รักลูก..แม่เลยกินแต่หัว...ลูกกินตรงหาง..พ่อกินตรงกลาง..(ยายว่า..บ้านนี้..คงไม่ได้เลี้ยงแมว.)...มิฉะนั้น..คุณแม่เรา...คงจากิน..แต่ความรัก..เ่ท่านั้น..อ้ะ....ยายธีจ้า
แหะ ๆ คุณยายธีครับ บ้านพ่อแม่ผมรักแมวกันทั้งบ้าน ช่วยพีคนับได้ถึง 26 ตัว ครั้งหนึ่งพ่อเอาหัวปลาทูเหลือๆ มาคลุกให้แมว คลุกไปคลุกมามันหอมมาก พอเลยโซ้ยเสียหมด แมวอดกิน
คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงบ้านค่ะ ลมหายใจเข้าออกของพ่อแม่ คือลูก ขอบพระคุณค่ะ