เรื่องเกิดขึ้นในราวเดือนมกราคม พศ. 2532 มีคนมาว่าจ้างให้หนังเร่ ไปฉายที่บ้านวังทอง อำเภอบ้านดุง ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีประมาณ 100 กิโลเมตร โดยค่าจ้างตกลงกันไว้ 4000 บาท มีหนังฉาย 3-4 เรื่อง แต่มีข้อตกลงกันว่า ให้ฉาย 3 ทุ่มถึงแค่ตี 4 เท่านั้น ห้ามฉายถึงสว่าง พอตี 4 ก็ให้รีบเก็บข้าวของออกจากสถานที่ฉาย ซึ่งทางเจ้าของหนังแร่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะเห็นว่าเป็นความต้องการของผู้มาว่าจ้าง
ทางเจ้าของก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ไปตามวันและเวลาที่ได้นัดหมายหนังเริ่มฉายตั้งแต่ตอน 3ทุ่ม ในตอนหัวค่ำไม่เห็นผู้คน ก็ยังสงสัยว่าหายไปไหนหมด แต่พอ3ทุ่มก็มีคนมาเป็นจำนวนมาก และที่แปลกคือ ผู้หญิงซึ่งนุ่งขาวห่มขาวจะนั่งอยู่ด้านหนึ่ง ส่วนผู้ชายใส่เสื้อผ้าสีดำจะนั่งอีกข้างหนึ่ง และคนทั้งหมดก็นั่งกันสงบเงียบเรียบร้อยเหมือนจะไม่เคลื่อนไหวตัว และที่ยิ่งกว่านั้นคือ ไม่ว่าจะฉายหนังอะไร ก็ไม่มีการส่งเสียงหรือแสดงความรู้สึก เหมือนกับฉายหนังกลางแปลงทั่วๆไป ฉายหนังบู๊ ก็เฉย ฉายหนังตลกก็เฉยคนเราอย่างน้อยถึงเป็นคนจริงจังยังไงผมว่าต้องแสดงออกมาบ้างว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่นี้กลับอยู่ในอาการที่สงบ
แต่ที่น่าสังเกตุอีกอย่างคือปกติเวลามีการฉายหนังกลางแปลงในต่างจังหวัด ก็เหมือนกับมีงานเทศกาลสร้างความครึกครื้นให้คนในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก ร้านค้า ร้านอาหาร ต่างพากันมาเปิดเพื่อซื้อขายกันมากมาย งานนี้ กลับไม่มีเลย บรรยากาศโดยรอบดูเย็นยะเยือกไปหมด
พอถึงตี 4 มีคนมาบอกว่าให้เก็บข้าวของไปได้แล้ว อีกทั้งยังสั่งว่าเมื่อเก็บข้าวของเสร็จแล้ว ห้ามเหลียวหลังกลับมาดูเด็ดขาด พอทางเจ้าหน้าที่เก็บของและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินทางออกจากที่ทำการฉายหนัง แต่ก็เอะใจในคำสั่ง เลยหันกลับไปดู พบว่าคนดูจำนวนมากเหล่านั้นไม่รู้หายไปไหนกันหมด หายไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาต่างฉงนสงสัย
อีกทั้งพื้นที่ตรงนั้นกลับเป็นป่าทึบที่แม้ที่ๆ จะเอาจอหนังขึงยังแทบจะไม่มี พอขับรถมาถึงหมู่บ้านวังทองตอนเช้าก็แวะซื้อของที่ร้านค้า ชาวบ้านเลยถามว่าไปฉายหนังที่ไหนมา เจ้าหน้าที่ ก็บอกว่าฉายในหมู่บ้านวังทอง แต่ชาวบ้านกลับยืนยันว่าไม่มีหนังมาฉายในหมู่บ้านเลย แม้กระทั่งเสียงยังไม่ได้ยิน
ในที่สุดเมื่อสอบถามกันจนเป็นที่เข้าใจ ได้รู้ว่าไปฉายหนังที่ดงคำชะโนดซึ่งเป็นสถานที่ลึ้ลับที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเมืองพญานาค มีภูตผีปีศาจสิงสถิตอยู่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านวังทองนี่เองก็เลยเชื่อว่า"ถูกผีจ้างไปฉายหนังจริงอย่างที่ชาวบ้านว่า"
ขอขอบคุณ
สมาชิกทริปทุกท่านที่ทำให้ทริปนี้เป็นทริปที่น่าประทับใจจริงๆค่ะ
ขอบคุณเจ้าบ้าน (น้องโอ๊ตและสามี)
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
ข้อมูลดีๆจาก google อีกแล้วค่ะ
รูปสุดท้ายนิ ถ่ายทอดความเป็นไทยๆ ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนเลยครับ คิคิคิ
สวสดีค่ะคุณอักขณิช
สำหรับรูปสุดท้ายนี่ชัดเจนมากๆๆค่ะ อิอิ
ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจค่ะ ^^
เคยได้ยิน เพื่อนที่รพ อดรเล่าให้ฟังครั้งหนึ่งแล้ว
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน ไปอุดร ครั้งต่อไปขอเยือนคำชะโนดด้วย
สวัสดีค่ะคุณวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei
คำชะโนด ดินแดนแห่งตำนานพญานาคา (ปัจจุบันผู้คนจำได้เพียง เป็นดินแดน "ผีจ้างหนัง" ไปซะแล้วค่ะ ^^")
ขอบคุณสำหรับดอกไม้และกำลังใจค่ะ ^^
เอ............แล้วน้องหนึ่งถามเค้ามั้ยว่าได้เลขอะไรบ้าง เผื่อโชคดี อิ อิ
น่าสนใจนะ........ถ้ามีโอกาสก็อยากไปเที่ยวดู
พี่ติกก็ได้เคยอ่านเรื่องนี้เหมือนกัน
สวัสดีค่ะพี่ติก
ของงี้ถามไปเค้าก็ไม่บอกค่ะพี่ติก คุณยายเค้าบอกว่า เค้าถือกัน ถ้าบอกเลขจะเลื่อนได้ อิอิ
ต้องลองส่องดูเอาเอง หนึ่งลองส่องดู (แอบยืนดูข้างหลัง) ก็ไม่เห็นเลขอะไรเลยค่ะ แหะๆ สงสัยหนึ่งจะไม่มีดวงทางนี้ ๕๕๕
ขอบคุณพี่ติกค่ะ ^^
สุดยอด...จิง...
อ้อ..ครับ..คนที่ฉายหนังในคืนนั้น ปัจจุบัน เขา มาอยู่ที่บ้านผมเองครับ ..แล้วก็ยังทำธุระกิจฉายหนังเหมือนเดิม...
สวัสดีค่ะคุณกิ
จริงป่าวคะ อิอิ
ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจค่า ^^
เพื่อนเป็นลูกจ้างอยู่รพ.อุดร เป็นอุปนายกฝ่ายบริหารของสมาคมลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุขเคยเล่าสู่กันฟัง ผมชอบสถานที่แบบนี้ครับ
สวัสดีครับ... น่าตื่นเต้นดีครับ...หากอยู่ใกล้สักนิดจะตามไปดูให้เห็นกับตา...เผื่อจะได้ตัวเลขกับเขาบ้างครับ...
เคยได้ยินมาเหมือนกันว่ามีพญานาคอาศัยอยู่ แล้วบ่อน้ำที่ว่า ว่ากันว่าเป็นทางขึ้นลงของพญานาค หลวงปู่คำตาเล่าว่า สมัยท่านเป็นเด็กๆ ไปทำนาแถวนั้น และไปเล่นน้ำในบ่อแล้วหายไป พ่อแม่ตามหาอยู่เจ็ดวันจึงไปพบตัวนอนหลับอยู่ในดงคำชะโนดนี้ ท่านรู้สึกเหมือนกับว่าได้เข้าไปในเมืองลึกลับแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใต้ดิน หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นท่านก็เลยอุทิศตัวบวชเป็นพระมาตลอด
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์โสภณ
ขอบพระคุณค่ะ ^^
สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต
แหะๆ สรุปว่าหนึ่งไปกัน ๕ คน ไม่มีใครลูบฆ้องดังซักคนเลยค่ะ แต่เวลาคนอื่นเค้ามาลูบ ก็เห็นดังกังวาลกันใหญ่ อิอิ
ภาพสุดท้ายนี่ไม่ต้องบรรยายค่ะ 555
สวัสดีค่ะคุณป่าไม้เลื้อย/พาดีซอ
มีโอกาสมาแถวๆนี้ แวะมาได้เลยนะคะ เลขยังไม่หายไปไหนค่ะ อิอิ
สวัสดีค่ะคุณNopparat Pongsuk
ใช่ค่ะ น้องที่อยู่ในพื้นที่ก็เล่าให้ฟังว่า บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นทางขึ้นลงของพญานาค
ขอบคุณค่ะ ^^