ไหว้พระ@เมืองหลวง(ศาลหลักเมือง,วัดพระแก้ว)


ค้างบันทึกนี้ไว้นานหลายเดือนเลยทีเดียวค่ะ แหะๆ มาต่อกันเลยดีกว่า จากบันทึก ไหว้พระ@เมืองหลวง(โลหะปราสาท)
โปรแกรมไหว้พระเมืองหลวงที่ขาดไม่ได้คือที่นี่ค่ะ ศาลหลักเมือง
"มีคำบอกเล่าจากปู่ย่าตายายมาช้านานแล้วว่า ถ้าอยากที่จะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต้องไปสักการะบูชาศาลหลักเมือง"
จริงๆแล้วจะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานผลงานของเราต้องเป็นที่ประจักษ์ด้วย แต่เมื่อเรามีโอกาสก็ไม่ควรพลาดการสักการะศาลหลักเมืองค่ะ ^^ เพื่อความเป็นศิริมงคล
ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ
เป็นศาลที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ตามธรรมเนียมพิธีพราหมณ์ว่า ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้นศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของท้องสนามหลวง ตรงข้ามพระบรมมหาราชวังถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนครกรุงเทพมหานคร
ประวัติศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ได้โปรดเกล้าให้กระทำพิธียกเสาหลักเมือง เมื่อวันอาทิตย์ เดือน ๖ ขึ้น ๑๐ ค่ำ ตรงกับวันที่ ๒๑ เมษายน ปีพุทธศักราช ๒๓๒๕ เวลา ๖.๕๔ นาฬิกา การฝังเสาหลักเมืองมีพิธีรีตองตามพระตำราที่เรียกว่า พระราชพิธีนครฐาน ใช้ไม้ชัยพฤกษ์ทำเป็นเสาหลักเมือง ประกับด้านนอกด้วยไม้แก่นจันทน์ที่มี เส้นผ่าศูนย์กลางวัดที่โคนเสา ๒๙ เซนติเมตร สูง ๑๘๗ นิ้ว กำหนดให้ความสูงของเสาหลักเมืองอยู่พ้นดิน ๑๐๘ นิ้ว ฝังลงในดินลึก ๗๙ นิ้ว มีเม็ดยอดรูปบัวตูม สวมลงบนเสาหลัก ลงรักปิดทอง ล้วงภายในไว้เป็นช่องสำหรับบรรจุดวงชะตาเมืองในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงโปรดเกล้าให้ขุดเสาหลักเมืองเดิม และจัดสร้างเสาหลักเมืองขึ้นใหม่ทดแทนของเดิมที่ชำรุด เป็นแกนไม้สัก ประกับนอกด้วยไม้ชัยพฤกษ์ ๖ แผ่น สูง ๑๐๘ นิ้ว ฐานเป็นแท่นกว้าง ๗๐ นิ้ว บรรจุดวงเมืองในยอดเสาทรงมัณฑ์ที่มีความสูงกว่า ๕ เมตร และอัญเชิญหลักเมืองเดิม และหลักเมืองใหม่ ประดิษฐานในอาคารศาลหลักเมืองที่สร้างใหม่ มียอดปรางค์ ก่ออิฐฉาบปูนขาว ได้แบบอย่างจากศาลหลักเมืองกรุงศรีอยุธยา เมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๙๕

 

ศาลหลักเมืองได้รับการปฏิสังขรณ์อีกหลายครั้ง ในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ มีการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมการเฉลิมฉลองสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ครบ ๒๐๐ ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ศาลหลักเมืองได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม ด้านทิศเหนือจัดสร้างซุ้มสำหรับประดิษฐานเทพารักษ์ทั้ง ๕ คือเจ้าพ่อหอกลอง เจ้าพ่อเจตคุปต์ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง และพระกาฬไชยศรี

 

มีการจัดละครรำ ละครชาตรี ให้ผู้ต้องการบูชา ว่าจ้างรำบูชาศาลหลักเมืองอยู่ด้านข้าง
ออกจากศาลหลักเมืองเราก็เดินกันไปที่วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง
เมฆฝนตั้งเค้ามาแล้วค่ะ แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งพวกเราได้ ยังคงเดินกันต่อไป อิอิ
หลายท่านคงมีโอกาสได้มาที่นี่กันบ่อยๆ สำหรับหนึ่งได้มีโอกาสมาที่นี่เป็นครั้งที่ ๒ ค่ะ
วันที่หนึ่งมามีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย(กางเกงหรือกระโปรงสั้นเกินไป เสื้อกล้ามหรือเสื้อสายเดี่ยวแขนกุด เป็นต้น)ทำให้ยุ่งยากในการเปลี่ยนเสื้อหรือผ้าถุงเพื่อที่จะเข้าไป เท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย(วัยรุ่น)ที่แต่งตัวตามเทรนไปนิด ส่วนนักท่องเที่ยวที่มากับกรุ๊ปทัวร์นั้นเค้าจะแต่งตัวเรียบร้อยกันดีนะคะ หากวัยรุ่นไทยรู้จักแต่งตัวให้ถูกกาละเทศะก็จะน่ารักมากๆเลยนะคะ แต่งตัวเรียบร้อยมิดชิด ก็สวย น่ารักได้นะคะ (ปลอดภัยอีกต่างหากด้วย) อิอิ
หลังจากที่เข้าไปกราบสักการะเรียบร้อย เราก็มาเก็บภาพสวยๆรอบๆบริเวณกันค่ะ ถ่ายเดี่ยวกันมาก็เยอะ ถ่ายคู่ก็มาก ยังไม่มีภาพหมู่เลย เราจึงมองหาตากล้องจำเป็นที่จะช่วยถ่ายภาพหมู่ให้เราค่ะ ภาพนี้ได้ตากล้องจำเป็นเป็นนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ที่กำลังเรียนป.โท ที่อังกฤษ ได้มาท่องเที่ยวที่เมืองไทย (เห็นเค้าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่มาท่องเที่ยวในเมืองไทยคนเดียว สามารถมากๆๆค่ะ อิอิ)
นี่ค่ะ Veenu Gupta ตากล้องจำเป็นที่ถ่ายภาพหมู่ให้เรา
มีนักท่องเที่ยวมาขอถ่ายรูปกะคุณพี่ทหารกันมากมายค่ะ
เดินกันมาทั้งวัน ฝนที่ตั้งเค้าก็ยังไม่ตกลงมา อากาศก็ร้อนอบอ้าวซะเหลือเกิน เติมพลังด้วยน้ำลิ้นจี่เย็นชื่นใจซักขวดก็สุดยอดเลยค่ะ ^^
ยังเดินกันไหว ไปต่อกันเลยค่า ^^"
บันทึกนี้ขอจบไว้ที่นี่นะคะ แล้วพบกันทริปหน้าค่ะ
ขอขอบคุณ
  • ทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
  • สมาชิกใทริปทุกๆท่านที่ทำให้ทริปของเราเป็นอีกทริปที่น่าประทับใจค่ะ ^^
  • google และทุกท่านที่แบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์การท่องเที่ยวเอาไว้ ทำให้ก่อนเดินทางเราสามารถค้นหาข้อมูลล่วงหน้าเพื่อประกอบการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี
  • http://th.wikipedia.org/wiki สำหรับข้อมูลปะวัติความเป็นมาของศาลหลักเมือง
หมายเลขบันทึก: 452822เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2011 12:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 20:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ผมเข้าไปเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องเสียค่าตั๋ว..ครับ.....(เข้าใจผิด อิอิ​) นึกว่า ทัวเกาหลี..อิอิ..

555 ประมาณนั้นเลยนะคะคุณกิ 555

ถ้าไปแล้วไม่ได้ถ่ายภาพคู่กับพี่ทหาร มักถูกแซวว่ามาไม่ถึงน่ะค่ะ... ^_^

ตามมาไหว้พระเพื่อเป็นศิริมงคล ด้วยคนครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท