งูเห่ากัด


ต้องเอาซากงู(ที่เขาอาจนำมา) เทียบกับรูปภาพเสมอ

 เมื่อใดที่ได้ยินคำว่าถูกงูเห่ากัด หลายท่านคงมีความรู้สึกคล้ายผู้เขียน นั่นคือมองเห็นลางร้ายว่า จะมีคนตายในเร็วๆนี้ ก็คนที่ถูกงูเห่ากัดนั่นเอง น้อยคนนัก ที่จะมีภูมิต้านทานกับพิษที่ทำลายประสาท กล้ามเนื้อของงูเห่าได้

  เมื่อครั้งที่อยู่สถานีอนามัย สมัยรับราชการใหม่ๆ ก็มีหลายครั้งที่ต้องรับคนไข้ถูกงูกัดมาที่สถานีอนามัย ส่วนมากจะเป็นงูกะปะ ที่กัดแล้วในเวลาต่อมา เนื้อจะค่อยๆเน่า ถึงกระดูก ตามวงขยายของพิษงูนั้น แต่ถ้าเป็นคนไข้ถูกงูเห่ากัดมานั้น ไม่ทันได้รักษา มักจะเสียชีวิตเสียก่อน

 สิ่งหนึ่ง ที่เตรียมไว้เสมอ คือตำรับตำรา และรูปภาพของงูชนิดต่างๆ ผู้เขียนต้องเอาซากงู(ที่เขาอาจนำมา) เทียบกับรูปภาพเสมอ เพื่อความมั่นใจในการต้องฉีดเซรุ่ม ต่อมาการคมนาคมสะดวกขึ้น การเก็บเซรุ่มไว้ที่สถานีอนามัยก็ไม่มี ให้ไปฉีดโรงพยาบาล ก็ได้แต่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วรีบนำส่งโรพยาบาลชุมชนใกล้ที่สุด แต่มาบัดนี้แม้แต่โรงพยาบาลชุมชน ก็ไม่มีเซรุ่มเก็บไว้อีก เพราะคนไข้รายต่อไปนี้ เมื่อถึงโรงพยาบาลชุมชนแล้ว ก็ได้แต่แทงน้ำเกลือรักษาเส้นเลือดเอาไว้ แล้วส่งต่อโรงพยาบาลจังหวัด

  จึงทำให้คิดว่า ถ้าเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ในอนาคต คนไข้คงจะไปไม่รอด เพราะขาดการเยียวยาที่ทันท่วงทีและคงจะมีคนโชคดีไม่กี่คน ที่ทนพิษงูได้ แต่ทั้งสิ้นทั้งมวล อาจเป็นเพราะมีผู้ป่วยถูกงูกัดน้อยลง หรือคิดว่าการส่งต่อจะรวดเร็วพอ จึงทำให้ละเลยการนำเซรุ่ม มาเตรียมการไว้ ในสถานพยาบาลเบื้องต้นเหมือนในอดีต

  พิษงูอาจมีฤทธิ์ ทำลายชีวิตได้ในปริมาณที่เพียงพอ และระยะเวลาที่ปล่อยให้พิษเข้ากระแสเลือดไปเรื่อยๆ เป็นอันตรายร้ายแรงมาก แต่ก็ยังไม่มาก เท่ากับผู้ให้การรักษา ขาดความใส่ใจ ละเลยคนไข้ที่ผ่านมือ ไม่แม้แต่จะเอาซากงูไปพิจารณาว่า มันเป็นงูอะไร เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

 ผู้เขียนไม่ได้พูดเกินความจริง เพราะประสบกับตัวเองมาแล้ว ตัวจริงเสียงจริง ที่ต้องสร้างความประหลาดใจ สะเทือนใจไปทั้งวงการแพทย์ทีเดียว เรื่องเล่าต่อไปนี้ ไม่ได้คิดทำลายใคร แต่อยากให้เป็นการเตือนแพทย์หลายๆคนในวันนั้นว่า ต้องกลับไปทบทวนจรรยาบรรณ และการดูแลคนไข้เสียใหม่ ไม่ปล่อยให้คนไข้ทุกข์ทรมาน กับพิษงูอยู่ในห้องฉุกเฉินเกือบหนึ่งชั่วโมง โดบไม่ทำอะไรเลย นอกจากเขียนใบให้คนคนไข้ไปเข้าตึกเท่านั้น คงถือว่าพ้นหน้าที่แล้ว แต่ขอให้รู้เถอะ ว่าคนเป็นญาติ ที่เห็นผู้ป่วยนอนดิ้นทุรนทุราย อาเจียนจนหัวเปียกนั้น เขาทุกข์ใจมาก และมากถึงที่สุด เพราะงูที่กัดนั้น ชื่องูเห่า

  พรุ่งนี้ ผู้เขียนจะลำดับเหตุการณ์ และบันทึกไว้ใน Gotoknowแห่งนี้ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 452412เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2011 00:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 13:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เห็นด้วยกับความรู้สึกของคุณ นะครับ

ขอบคุณครับ

รู้สึกทุกข์ทรมานแทนค่ะ

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณดอกไม้จากคุณ คนบ้านไกลมคุณแสงแห่งความดีและคุณลำดวน เป็นอย่างมากค่ะ ดีใจ ดีใจ

สวัสดีค่ะคุณ แสงแห่งความดี

ขอบคุณมากค่ะที่เข้าใจความรู้สึก

ตลอดทางที่ไปโรงพยาบาลรอรับหลาน

ดิฉันกังวลมากๆ พอส่งต่อมาถึงก็เห็นหลานบิดไปบิดมา

น่าสงสารค่ะ แต่ที่ห้องฉุกเฉินก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

น่าเสียดาย ที่อุตส่าห์เดินทางมาด้วยความหวัง

สวัสดีค่ะคุณ ลำดวน

คำว่างูเห่ากัด มันเจ็บปวด หมดหวังจริงๆค่ะ

นึกภาวนาแต่ให้ปาฏิหาริย์มีจริงเท่านั้น

ขอบคุณมากค่ะ

อยากให้เตรียมความพร้อมสำหร้บผู้ป่วยไว้เสมอนะคะ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท