Our iceberg is melting (ตอนที่ 6)


วิสัยทัศน์

ตอนที่ 6 The Seagull (นกนางนวล)

Alice ผู้ที่ไม่ค่อยอดทนกับอะไรก็บอกกับทีมว่า พวกเราน่าจะรีบๆ ค้นหาแนวทางการแก้ปัญหาโดยเร็วโดยการพูดคุยกับเพนกวินตัวอื่นๆ ในอาณาจักรแห่งนี้ แต่หัวหน้าเพนกวินไม่ค่อยแน่ใจนักว่าการพูดคุยกับเพนกวินตัวอื่นคือการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด และอาจารย์ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวทางนี้เท่าไหร่ แต่ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลอง

เพนกวินตัวหนึ่งที่ดูเหมือนเป็นนักขุดตัวยงแนะนำว่าเราควรจะขุดรูจากพื้นน้ำแข็งลงไปจนถึงโพรงเพื่อเป็นการลดแรงดันน้ำและทำให้น้ำในโพรงมีทางออก ซึ่งแนวทางนี้อาจไม่แก้ปัญหาการลายของน้ำแข็งแต่ก็อาจช่วยไม่ให้ภูเขาน้ำแข็งแตกออกในหน้าหนาวนี้ แต่อาจารย์ก็ชี้ว่าถ้าเราใช้เพนกวิน 268 ตัวช่วยกันทำงานตลอด 24 ชม. เจาะรู จะใช้เวลาประมาณ 5 ปีกว่า กว่าจะถึงโพรง!!! ดังนั้นไอเดียนี้จึงตกไป

ไอเดียต่อไป

เพนกวินอีกตัวแนะนำว่าให้พวกเราหาภูเขาน้ำแข็งแห่งใหม่ที่ไม่มีการละลาย ไม่มีโพรงและไม่มีการขยายตัวของน้ำ ซึ่งจะเป็นสถานที่ในอุดมคติที่เหมาะสมมากสำหรับเด็กๆ และลูกหลานเรา ดังนั้นพวกเขาจะไม่มีวันที่จะต้องเผชิญกับปัญหาอย่างนี้อีก แต่ไอเดียนี้ออกจะเกินจริงไปไหม? และดีนะที่ Alice ไม่ได้อยู่ฟังแนวคิดนี้ด้วยไม่งั้นอาจมีโวย

อีกไอเดียหนึ่งก็คือ การเทครัวอาณาจักรเพนกวินให้ลึกเข้าไปในศูนย์กลางทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งเป็นที่ที่น้ำแข็งจะมีความหนาและแข็งแรงมากกว่า แม้ว่าไม่มีเพนกวินตัวใดมีความรู้จริงๆ ว่า ขนาดของทวีปนี้มีความยิ่งใหญ่แค่ไหน ซึ่งจริงๆ แล้วก็ใหญ่กว่าประเทศอเมริกาประมาณหนึ่งเท่าครึ่ง และก็มีข้อแย้งตามมาว่า "แต่นั่นก็จะทำให้เพนกวินอย่างเราห่างไกลจากน้ำทะเลและแหล่งอาหารนะ และเราจะหาอาหารอย่างไรล่ะ???"

เพนกวินบางตัวในคณะผู้ปกครองแนะนำว่าทำไมไม่ลองทำกาวที่มีความเหนียวพิเศษทำจากปลาวาฬเพชฌฆาตและใช้กาวนี้ทาให้น้ำแข็งมีความหนาแน่นมากยิ่งขึ้น ไอเดียต่างๆ ที่ได้ชักไปกันใหญ่แล้ว และเพนกวินก็เริ่มที่จะรู้สึกสิ้นหวัง

แต่แล้วก็มีเพนกวินผู้ใหญ่ตัวหนึ่งในอาณาแนะขึ้นว่าทำไมไม่ลองอะไรใหม่ๆ "บางทีนะท่าน ทำไมพวกท่านไม่ลองทำอย่างที่ Fred ทำเมื่อครั้งที่เขาพบปัญหานี้ล่ะ ลองสำรวจ เดินดูรอบๆ เปิดหูเปิดตา ทำตัวให้สงสัยในสิ่งต่างๆ ไว้" แล้วหัวหน้าเพนกวินก็คิดได้ว่า จริงอย่างที่เพนกวินผู้ใหญ่พูดนั่นแหละว่าพวกเราต้องหาแนวทางใหม่ๆ ในที่สุดก็ยินดีทำตามที่เพนกวินอาวุโสตัวนั้นแนะนำ

ดังนั้น ทีมเพนกวินจึงมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก พวกเขาเห็นกำแพงหิมะอันสวยงาน เห็นครอบครัวเพนกวินทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนานทีเดียว และก็แอบได้ยินการสนทนาเกี่ยวกับการที่ภูเขาน้ำแข็งกำลังจะละลาย

ผ่านไปประมาณชั่วโมงเศษ Fred ก็สังเกตสิ่งหนึ่งบนฟ้า "อะไรบนฟ้าน่ะ"

Fred จ้องมองไปที่นกนางนวล (เพนกวินไม่รู้จักนกนางนวลมาก่อน) ด้วยความรู้สึกฉงน ไม่เคยปรากฏนกนางนวลในแอนตาร์กติกาเลยนี่ แล้วทั้งหมดก็จ้องมองไปที่นกนางนวล คิดไปว่า รึว่านี่คือเพนกวินสีขาวอีกชนิดหนึ่ง?????

อาจารย์ก็เอ่ยขึ้นว่า "ผมมีทฤษฎีเกี่ยวกับสัตว์ที่บินได้เช่นนี้...." แต่ก่อนที่อาจารย์จะพูดอะไรไปมากกว่านั้น Alice ก็ตบลงบนบ่าของอาจารย์เบาๆ ซึ่งในสองสามวันที่อยู่ด้วยกันนี้ อาจารย์ก็เรียนรู้เกี่ยวกับกิริยาที่ Alice ทำว่าถ้าเธอทำแบบนี้แล้วละก็มันหมายความว่า "อาจารย์คะความคิดอาจารย์ยอดมาก แต่โปรดกรุณาหุบปากเถอะค่ะ!!" ในที่สุดอาจารย์ก็เงียบ

"นั่นตัวอะไรน่ะ???" Buddy ถามอย่างสงสัยขึ้นบ้าง

Fred ตอบ "ผมก็ไม่ทราบครับ แต่ผมรู้ว่านกไม่สามารถบินได้ตลอด พวกเขาต้องมีบ้านหรือพื้นดินสำหรับอยู่อาศัย แต่ที่นี่มันจะหนาวเกินไปสำหรับเขาหรือเปล่า"

เพนกวินตัวอื่นเห็นด้วย และถ้านกนางนวลจะอยู่ร่วมกันเพนกวินแล้วมันคงแข็งตายไปในเวลาอันรวดเร็ว อย่างช้าไม่เกินสัปดาห์

Fred พูดต่อ "ผมคิดว่ามันจะต้องหลงทางมาแน่ๆ เลย แต่ก็ไม่เห็นเขามีท่าทีจะกลัวอะไรเลยนี่น่า หรือว่าการเคลื่อนย้ายที่อยู่จากที่หนึ่งไปที่หนึ่งเป็นแนวทางการดำรงชีวิตอยู่ของพวกเขา หรือว่าถ้าเอ่อ...."

Fred นึกคำที่จะใช้อธิบายการใช้ชีวิตอย่างนี้ว่า Nomad หรือ พวกเร่ร่อน

Alice พูดว่า "เธอคงไม่บอกพวกเราว่า เอ่อ....."

หัวหน้าเพนกวิน พูดขึ้นว่า "ฉันก็คิดอย่างนั้น"

อาจารย์เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า "น่าสนใจ น่าสนใจ"

ส่วน Buddy นั้นยงคงงงกับสิ่งที่ทุกตัวกำลังคิดอยู่และพูดว่า "ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าพวกคุณพูดอะไรกันอยู่"

แล้วหัวหน้าเพนกวินก็หันมาทาง Buddy แล้วตอบว่า "เรากำลังคิดถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินชีวิตแบบใหม่"

แล้วในทีมก็พูดคุยเป็นชั่วโมง แล้วการสนทนาก็เป็นไปในลักษณะนี้ 

"ก็เราเป็นอย่างนี้จะทำอย่างนั้นได้เหรอ" "แล้วเราจะทำอย่างไร" "ไม่เธอไม่เห็นเหรอว่ามันน่าจะเป็นไปได้" "ใช้ฉันรู้แต่....."  "แล้วอย่างนั้นทำไมจะไม่ได้ล่ะ" "ก็อาจได้อย่างเธอว่าแต่มันอาจจะ......"

Buddy ถามว่า "แล้วก้าวต่อไปของเราคืออะไรครับ"

หัวหน้าเพนกวินตอบว่า "พวกเราคงต้องคิดให้รอบคอบ"

Alice แย้งว่า "แต่เราต้องเร็วกว่านี้แล้วค่ะ"

อาจารย์กล่าวบ้างว่า "ผมคิดว่าการคิดช้าๆ มันจะได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพมากกว่าการคิดอย่างรวดเร็วแน่นอน"

Alice พูดต่อ "ถ้าอย่างนั้นเราต้องเรียนรู้เกี่ยวกันเจ้าพวกนกที่บินได้นี่ก่อน และต้องทำตอนนี้ด้วย"

หัวหน้าเพนกวินเห็นด้วย และนำทีมไปเสาะหานกนางนวล

Fred นั้นมีลักษณะเป็นนักสืบสวนอยู่แล้ว และในเวลาไม่นานเขาก็พบนกนางนวล

Alice กระซิบให้ Buddy กล่าวสวัสดี แนะนำตัวก่อน

ด้วยเสี่ยงอันนุ่มลึกของ Buddy แนะนำตัว "สวัสดีครับ ข้างๆ ผมคือเพนกวินชื่อ Alice และนั้นคือ Louis, Fred, และท่านอาจารย์ ส่วนผมชื่อ Buddy ครับ"

นกนางนวลก็จ้องมองมาที่พวกเพนกวิน

"คุณมาจากไหนเหรอครับ" Buddy ถาม "และกำลังมองหาอะไรอยู่ครับ"

นกนางนวลยังคงรักษาระยะห่าง แต่ก็ไม่บินหนีไป ในที่สุดก็พูดว่า "ฉันเป็นหน่วยสอดแนม ฉันจะบินอยู่หน้าพี่น้องของฉัน แล้วก็มองหาที่ที่เหมาะสำหรับพวกเราที่จะอยู่อาศัย

อาจารย์เริ่มถามคำถามบ้าง เป็นคำถามที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ ก็ไม่วายถามในสิ่งที่ไกลตัวในเชิงวิชาการด้วย แต่แล้วก็โดนต้อนกลับโดยใครบางคน ซึ่งท่านสามารถเดาได้

นกนางนวลตอบเพนกวินในหลายเรื่อง เช่นความเป็นอยู่ของนกนางนวล อาหารการกิน (ซึ่งดูเหมือนจะกินได้ทุกอย่าง) เขายังบอกถึงการได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยสอดแนม หน่วยค้นหา คุยกันได้สักพักนกนางนวลก็เริ่มที่จะหนาวจนทนไม่ไหว ในที่สุดก็กล่าวอำลาและบินจากไป

อาจารย์กับ Buddy ยังไม่แน่ใจนักว่าแนวทางของนกนางนวลจะเหมาะกับเพนกวินอย่างพวกเขา "พวกเรานั้นต่างจากเขา พวกเขาบินได้ เรากินอาหารที่ดีและอร่อย แต่พวกเขากินทุกอย่างไม่เลือก"

"ใช่ค่ะ เราอาจแตกต่าง" Alice พูดบ้างแต่ค่อนไปทางประนีประนอมกว่าปกติ "แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถทำได้อย่างเขา ฉันว่าความคิดนี้ดีนะ พวกเราจะเรียนรู้เกี่ยวกับการย้ายถิ่นไปเรื่อยๆ เราจะไม่อยู่อาศัยในที่เดียวไปตลอดกาล และเราก็ไม่ต้องหาทางแก้ปัญหาน้ำแข็งที่กำลังละลาย เราแค่เผชิญกับความจริงที่ว่าที่ที่เราอยู่ มันจะอยู่กับเราไปตลอดไม่ได้ แค่นั้น"

อาจารย์ถามคำถามอีกเป็นร้อย แต่ Louis ไม่พูดอะไรมาก เริ่มได้ไอเดียจาการสนทนานี้ และคิดที่เอาไปใช้จริงๆ ด้วย

แล้วหัวหน้าเพนกวินก็พูดขึ้นว่า "เอาล่ะ หลังจากที่เราใช้ชีวิตในแบบที่เราเป็น มาเป็นเวลานานมากแล้ว ทำไมมันถึงไม่ง่ายสำหรับเราที่จะคิดถึงแนวทางการใช้ชีวิตแบบอื่นๆ"

อาจารย์นั้นคิดแล้วว่าอย่างไรเสีย ตอนนี้ไม่มีใครมีทฤษฎีที่จะยืนยันแน่นอนได้ว่าภูเขาน้ำแข็งแห่งนี้กำลังละลาย และเขาก็คิดว่าการละลายและหดตัวของพื้นที่น้ำแข็งนี้ถ้ามันเกิดขึ้นจริง จะต้องเกิดขึ้นในอัตราที่ช้าคงที่ตลอดเวลา แต่ว่าถ้ามันไม่จริงขึ้นมาล่ะ

ในทางกลับกัน แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมาจริงๆ ล่ะ จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน หรือเราควรให้เวลากับเหล่าเพนกวินในการคิดให้เป็นระบบมากกว่านี้ถึงเรื่องปัญหาภูเขาน้ำแข็ง แต่เวลาก็น้อยลงทุกทีแล้ว

ยังมีคำถามที่ไม่มีคำตอบอีกมากมายในหัวของอาจารย์และมันก็รบกวนเขาเหลือเกิน เมื่อถึงที่พักอาจารย์ก็หลับสบายเป็นปกติ เขาเชื่อว่าทีมได้ประสบความสำเร็จแล้วในการสร้างวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นแนวคิดที่พอฟังได้ เขาเริ่มที่จะเห็นแล้วว่าพวกเขาจะสามารถสร้างอนาคตใหม่ได้อย่างไร อาจารย์รู้สึกสบายใจ (อย่างแปลกๆ) ที่เห็นทุกตัวในทีมมีความคิดไปในทางเดียวกัน

คำสำคัญ (Tags): #วิสัยทัศน์
หมายเลขบันทึก: 452291เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2011 05:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 14:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

กิจกรรมเพื่อ breaking iceburg จึงสำคัญมากเหมือนกันนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท