วันเช้าวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฏาคม 2554 เมื่อวานที่ กทม ฝนตกหนักในช่วงค่ำ ตอนผมกลับเข้าที่พักทำเอาผมเปียกเลยทีเดียว ในใจได้แต่บอกว่าทำไม่ไปตกแทบอีสานโน่นชาวนาจะได้ทำนากัน วันนี้ผมขึ้นต้นหัวข้อด้วยคำว่า ในเมื่อสู้ด้วยสินค้าไม่ได้ก็สู้ด้วยบริการซิ...
ผมมองว่าในปัจจุบันหากเราจะสู้ด้านเศรษฐกิจกับชาวโลก ก็จะพูดถึงสามดุลนี้ ดุลการค้า ดุลบริการ ดุลบัญชีเดินสะพัด ในหลายประเทศหากมองว่าเราไม่สามารถสู้ด้วยสินค้าได้ เริ่มหันมามองบริการ การบริการพี่ไทยเรานี้ไม่แพ้ใครในโลก ขอย้ำ เมืองเราเป็นเมืองยิ้ม ผู้คนใจดี อาหารกินคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย ในมุมนักท่องเที่ยวนะครับ ทีนี้เรามาดูว่า เพราะอะไรผมถึงบอกว่า พี่ไทยเราควรทบทวนหันมาเล่นด้านการท่องเที่ยวและการบริการเลย ประการที่ 1 คือ
เรามีคนรวยเพิ่มมากขึ้น แน่นอนครับตอนนี้เรามีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จีน อันนี้เพิ่มมากๆๆด้วย อินเดีย
หรือแม้กระทั่งรัฐเซีย คนกลุ่มนี้เมื่อมีเงินมากทำไงครับ เวลาว่างมาก ต้องการชีวิตที่ดีกว่า บินมาตีกอร์ฟพัทยาเพียบเลย โอกาสมาแล้วครับ พี่น้องครับ ทำให้ดี บริการให้เยี่ยม ตอบสนอง กิเลศคนเหล่านี้เลย นอกจากด้านกีฬาแล้วนะครับ เรื่องของโรงพยาบาลเรานี้แสนสุดจะดี ในระดับเอเซียเลยนะครับ ผู้มีอันจะกินหลายประเทศเดินทางเข้ามารักษาตัวกันเป็นว่าเล่น เมื่อเราเห็นโอกาสเช่นนี้แล้วเราควรทำไงครับ อันนี้เลย เน้น
พัฒนา Human resources เน้นเลยครับ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทั้งระบบเลยครับ ความมีระเบียบวินัย (เวลาขึ้นลิฟ พอมีเสียงดังแล้วเดินออกมา แล้วย่องเข้าใหม่ อันนี้ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง ผมเห็นแล้วจะเป็นลม ก็มันดังแล้ว จะขแม่วท้องกลับเขามาอีกทำไม ) การขึ้นลงรถไฟฟ้า ให้เขาออกมาก่อน ค่อยเข้า ไปยืนตันหน้า ออกไม่ได้ เข้าไม่ได้
ต่อมาพัฒนานี้เลยครับ Knowledge resources ความรู้ครับ
วัยรุ่น นักอ่านหนังสือตามร่มไม้ อ่านหนังสือตามรถไฟฟ้า (ตอนนี้คุยกันแบบไม่เกรงใจใครเลย) อ่านๆๆ และก็อ่านๆๆ
และอีกประเด็นหนึ่งคือ Physical อันนี้นับเป็นบุญวาสนาของไทยเราครับ เรามีลักษณะทางกายภาพที่ดีที่สุด มีทะเลแสนสวย ไม่มีภูเขาไฟ ไม่ต้องรับกับพายุแรงๆ ถึงมีก็ออ่นแรงลงแล้ว เพราะเรามีที่ตั้งดีไงครับ ขอบคุณสวรรค์ชั่งตั้งใจปั้นแต่งประเทศได้สวยงามขนาดนี้ แต่เราต้องรักษานะครับ ท่านเทวดาทำมาดีขนาดนี้ ห้ามทำลายเลยนะครับ
มน กรุงเทพมหานคร ตอน 11.00 น.