เลี้ยงโคอย่างไรให้สมบูรณ์ในฤดูแล้ง


การเลี้ยงโคในฤดูแล้งด้วยใบไม้ในพื้นที่ไร่นาจะได้โคและผืนป่าที่สมบูรณ์

การเลี้ยงโคด้วยใบไม้ที่มีในพื้นที่ไร่นาจะได้โคและป่าไปพร้อม ๆ กัน

           จากเมื่อวานที่กล่าวถึงการเลี้ยงโคด้วยใบไม้ประดู่ และวันนี้ขอแสดงความคิดเห็นต่อยอดอีกครั้ง

           เดิมทีชาวบ้านจะเลี้ยงโคในฤดูแล้งด้วยการปล่อยให้โคหากินตามป่าโคก (ป่าเบญจพรรณ) ซึ่งส่วนใหญ่ป่าโคกในฤดูแล้งจะไม่ค่อยมีหญ้าแต่จะมีใบไม้พุ่มและใบไม่ยืนตัวบางชนิดที่โคสามารถกินเป็นอาหารได้ เช่น ใบต้นเพ็ก เครือตดหมูตดหมา มะเดื่อป่า โมกป่า หญ้าตระกูลถั่ว แต่ในสภาพปัจจุบัน ป่าดังที่กล่าวมามีเหลือน้อยมากและป่าไม่สมบูรณ์พอที่จะเลี้ยง

           จึงมีคำถามว่า ชาวบ้านจะมีป่าและหาใบไม้มาเลี้ยงโคได้อย่างไร

           คำตอบ คือ ต้องสร้างป่า ปลูกพืชผัก ปลูกต้นไม้ขึ้นมาใช้เอง

          หลายคนก็จะมีปัญหาว่ามีพื้นที่น้อยถ้าปลูกป่าแล้วจะทำอะไรกิน

          ขอย้ำว่า ในพื้นที่น้อยนิดนั้นไม่ใช่ปลูกป่าอย่างเดียว  แต่ปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกต้นไม้หลายชนิดผสมผสานกันตามประโยชน์ใช้สอย ไม่ใช่ปลูกชนิดเดียว

          นั่นคือ ปลูกทุกอย่างที่กินได้ ปลูกทุกอย่างที่ใช้ได้  ถึงแม้พื้นที่มีน้อยแต่ถ้าใช้ระบบการจัดการพื้นที่อย่างคุ้มค่า พื้นที่เพียงไม่กี่ไร่ก็สามารถปลูกพืชที่โคกินได้ไม่จำกัด  เหมือนกับงานเกษตรปราณีตหนึ่งไร่ที่อาจารย์อุทัยกำลังศึกษาอยู่สามารถนำมาบูรณาการร่วมกับการเลี้ยงโคได้

          ลูกวัวซาฮิวาล ตัวซ้ายฉัตรตรีกับก๋วยเจ๋งตัวขวา

สมมติในพื้นที่ 2- 3 ไร่  อาจปลูกข้าวไว้บริโภค 1 ไร่  ส่วนที่เหลือ 2 ไร่ ก็ใช้การจัดการปลูกพืชผักหลายชนิดหมุนเวียนตามฤดูกาลก็จะได้อหารให้โคกินได้ตลอด เช่น

           ข้างบ้านหรือกระท่อมน้อยกลอยใจปลูกต้นประดู่  ต้นมะม่วง ต้นขนุน ซึ่งวัวชอบกินใบอยู่แล้วแถมให้ความร่มรืนกับบ้านด้วย

          คันนาใหญ่ ปลูกประดู่ ปลูกหญ้า ปลูกสับปะรด ปลูกกล้วย ซึ่งโคก็กินทั้งใบกล้วย และเปลือกสับปะรด หรืออาจปลูกมันสำปะหลังสักเล็กน้อย ซึ่งโคก็กินได้ทั้งใบที่แห้งแล้ว และทำมันเส้นเพื่อทำอาหารข้นให้โคได้

           ริมรั้วปลูกต้นกระถิน ซึ่งสามารถนำใบกระถินที่แห้งแล้วไปผสมในอาหารข้น

          ข้างๆ คอกโคปลูกต้นจามจุรีให้ทั้งใบเป็นอาหาร ให้ร่มเงาและให้ปุ๋ย

         พื้นที่ว่างที่เหลือปลูกพืชหมุนเวียนตามฤดูกาล เช่น ฟัก แฟง แตงโม ข้าวโพด ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และผักต่าง ๆ ซึ่งเศษพืชผักเหลือใช้เหล่านี้สามารถนำมาเลี้ยงโคในฤดูแล้งได้ไม่ขาดแคลน

         เมื่อโคได้อาหารที่เพียงพอโคก็จะให้ปุ๋ยแก่พืชตอบแทนหมุนเวียนกันไป

         นี่อาจเป็นวิธีหนึ่งที่เราสามารถสร้างป่าในพื้นที่น้อยนิดของเราให้มีอาหารเลี้ยงตัวเราและโคอย่างพอเพียงได้

         สำคัญที่สุดอย่างเลี้ยงโคเกินกำลัง เกินความพอดี ไม่เช่นนั้นจะหาได้ไม่พอกินทั้งคนและโค

         ขอบคุณค่ะ

         พันดา  เลิศปัญญา

         

          

หมายเลขบันทึก: 44961เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2006 18:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน 2012 22:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

   เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะกับการปลูกป่าเพื่อที่จะได้เลี้ยงโคในหน้าแล้งให้สมบูรณ์ได้ ได้ประโยชน์ทั้งสองทาง

  1.ได้ปลูกป่ารักษาพันธุ์ไม้ และต้นไม้ไว้ให้คงอยู่

   2.โคได้อาหารกินไม่ผอม

   3.ทั้งคนและโคได้อาศัยร่มไม้ด้วยกันเพื่อหลบแดดและฝน

    4.ได้ปุ๋ยธรรมชาติ

   สงสัยจะต้องนำเอาวิธีการของอาจารย์ไปใช้แล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะน้องไล  จะขอใช้คันนาใหญ่ปลูกต้นไม้เอาใบให้โคกินเหมือนกัน

เป็นความคิดที่ดีมากๆ ตรงใจ และคำตอบที่ผมต้องการ และคนหามานานครับ  เคยสงสัยมานานเหมือนกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท