ในปัจจุบันนี้ ในฐานะที่พวกเราเรียนสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การทำธุรกิจออนไลน์ หรือที่เรารู้จักกันว่าเป็นการทำการค้า e-commerce
โดยในปัจจุบันมีเทคโนโลยีหรือซอฟท์แวร์เป็นจำนวนมากที่มีเป้าหมายการทำธุรกิจออนไลน์ แต่ประเด็นที่อาจารย์อยากนำเสนอก็คือ การทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น เราต้องรู้ก่อนว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นใคร (Who) และเค้าต้องการซื้ออะไร (What) ซื้อที่ไหน (Where) ซื้อเมื่อไหร และซื้อทำไม (Why)
โดยแต่ละองค์กรธุรกิจจะต้องนำสิ่งเหล่านี้มาทำการวิเคราะห์และสร้างเป็นสารสนเทศขององค์กรให้เกิดขึ้น ซึ่งตรงนี้เกี่ยวข้องกับการออกแบบเว็บไซต์ของเราด้วย เนื่องจากการที่เราต้องเก็บข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ได้ ก็ต้องมาจาก...การออกแบบเว็บไซต์ให้สามารถเก็บบันทึกข้อมูลลูกค้าที่อาจเพียงแวะเข้ามาดูสินค้าภายในธุรกิจออนไลน์ของเราก็ได้ โดยถ้าเว็บไซต์ของเราสามารถจับพฤติกรรมของลูกค้าเหล่านั้นได้ จะช่วยทำให้เราเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้ และนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ ตัวอย่างเช่น การสร้างไฟล์คุ๊กกี้ของเว็บไซต์ ก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่เราสามารถเก็บข้อมูลเบื้องต้นได้ หรือเราอาจใช้ซอฟท์แวร์ประเภท Web tracking มาลองใช้เพื่อรายงานการเข้าออกของเว็บไซต์ได้ โดยซอฟท์แวร์เหล่านี้ จะสามารถบอก IP Address และเปิดดูว่าลูกค้าเข้าไปดูส่วนไหนของเว็บไซต์บ้าง เป็นต้น
แต่ทั้งนี้ เราต้องดูว่า เราต้องการข้อมูลอะไร และเอาไปทำอะไรต่อ ประเด็นคือ ต้องศึกษาให้ดี...ว่า การที่เราเลือกใช้เทคนิค IP Address เราสามารถเลือกมาใช้ในกรณีการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าบางอย่างได้เท่านั้น ซึ่งบางครั้งเราพบว่า หากลูกค้าใช้ internet ของมหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานที่มีการติดตั้ง Proxy Server ไว้ IP Address แทบจะไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะคงมีคนเป็นร้อย ๆ ในสถาบันนั้นๆ เข้าไปเปิดเว็บไวต์ภายใต้ IP Address เดียวกันก็เป็นได้
แล้วจะทำไงดีหละ !! ตอนนี้ยังนึกไม่ออก แต่แนะนำเบื้องต้นว่า เราอาจใช้เทคนิคคุ๊กกี้ (Cookies) ได้ (ไม่ใช่ขนม นะ) คุ๊กกี้ เป็นไฟล์ประเภทหนึ่งที่ใช้ระบุรายละเอียดของผู้ใช้บริการ internet เพื่อใช้กำหนดเลขหมายเฉพาะให้กับผู้ใช้บริการมาก่อน บางครั้งเวลาที่เราเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์เราอาจเคยเห็นข้อความว่า "ยินดีต้อนรับการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์อีกครั้ง" อะไรทำนองนี้ !! วิธีการนี้เค้าก็ใช้เทคนิคคุ๊กกี้ (Cookies) เหมือนกัน
หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือ เราใช้วิธีให้ลุูกค้ากรอกแบบฟอร์มแบบออนไลน์เพิ่มเติมเพื่อสร้างแรงจูงใจ เช่น การแจกสินค้าตัวอย่างสำหรับผู้กรอกแบบฟอร์มเพิ่มเติม และให้ส่วนลดเท่าไหรก็ว่ากันไป เป็นต้น กรณีแบบนี้ก็น่าสนใจ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการลักษณะข้อมูลอย่างไร และรูปแบบสินค้าของเราเป็นลักษณะไหน ทั้งนี้มีเป้าหมายอะไรในการเก็บข้อมูลเหล่านี้ ก็ต้องค่อยๆ พิจารณาเพื่อก้าวเป็นผู้นำด้านการค้า e-commerce ต่อไป..นะจ๊ะ..
ไม่มีความเห็น