เช้านี้ที่ชุมพร อากาศสดชื่น แม้ว่าตัวเองยังไม่หายจากอาการไข้หวัด
แต่ด้วยอากาศที่สดชื่น บริสุทธ์ของสถานที่ที่มีต้นไม้ปกคลุม จึงทำให้พอมีกำลังที่จะจับจอบมาถางหญ้าข้างบ้าน รถน้ำต้นไม้ และพืชผักสวนครัวข้างบ้าน ทำให้จิตใจผ่องใสขึ้น เพราะเวลาจับจอบถางหญ้า เราก็มีเป้าหมายเพื่อให้ข้างบ้านไม่รก และเป็นการเตรียมพื้นที่ไว้ปลูกพืชผักได้ด้วย ซึ่งพอทำเสร็จเราก็ได้เห็นผลลัพธ์ คือ ความสะอาด และ มีพืชผักสวนครัวไว้รับประทาน.
การทำเกษตรกรรมเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ทำให้ได้เหงื่อแทนน้ำมนต์รดตัว ^^ ทำให้สุขภาพแข็งแรงโดยไม่ต้องไปพึ่งหมอ อาการไข้หวัดของเราก็ค่อยทุเลาลง ประโยชน์ที่ได้ครั้งนี้ ทำให้เรานึกไปถึงปรัชญาเศรษฐกิจเพียงพอ" ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่อยู่ภูมิพลอดุลยเดชได้มีพระราชดำรัสแก่พสนิกชาวไทย. มันช่างเป็นสิ่งที่วิเศษและงดงามเสมอ
เมื่อพูดถึง "เศรษฐกิจ" (Economy) คนส่วนใหญ่จะเข้าใจไปถึงเรื่องของการกระทำ/ธุรกรรมที่ก่อให้เกิดผลกำไรที่เป็นตัวเงิน แต่เศรษฐกิจเพียงพอ (Sufficiency Economy) นั้น ไม่เพียงกำไรที่เป็นตัวเงินแล้ว แต่ยังหมายถึงผลกำไรที่เป็นความสุขทางด้านจิตใจ และทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงด้วย หากเรายึดมั่นนำเอาปรัชญานี้มาดำเนินชีวต การใช้ชีวิตก็จะเป็นการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด ด้วยการรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง.
"เศรษฐกิจเพียงพอ" จึงมีความทันสมัยอยู่เสมอ เพราะว่า เศรษฐกิจเพียงพอ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันเป็นชีวิตที่เพียงพอ เป็นทางสายกลางในการดำเนินชีวิตที่ทำให้คนเราสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมโลกได้อย่างมีความสุขด้วยการเป็นคน 1) มีเหตุผล 2) พอประมาณ และ 3) สร้างภูมิคุ้มกัน ทั้ง 3 อย่างนี้ไม่เคยแยกจากกัน นี่หล่ะ ชีวิตที่สมดุล ^^
ไม่มีความเห็น