หลายเรื่องราวในชีวิต ที่ได้พานพบกับผู้คนมากมายหลากหลายหน้า บนวิถีทางตามธรรมชาติแห่งชีวิต ใบไม้ใบหนึ่งร่วงลาโรยหล่นลงสู่พื้นดินใบแล้วใบเล่า ถูกกดทับด้วยกาลเวลาและความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ เปรียบกับสังคมที่ถูกปกปิดกดทับความขมขื่นของบุรุษเพศ-สตรีเพศ ไว้มากมายหลายเรื่อง เราไม่สามารถขุดค้นค้นหาความจริงมาตีแผ่ได้หมดสิ้น ได้อ่านบันทึกหลายบันทึกที่มุ่งประเด็นแต่สตรีเพศ ทำให้ย้อนคิดถึงบุรุษเพศกับความขมขื่นที่ไม่มีแม้ใครจะนำมาตีแผ่ เพียงเพราะมองว่า “ควาย” ตัวหนึ่งต้องเสียน้ำตาให้กับสตรีเพศ เพราะเปลือกที่มองเห็นถึงความเข้มแข็ง หากแต่ข้างในยังประกอบด้วยเลือดเนื้อที่ไม่แตกต่างจากสตรีเพศเหล่านั้นเลย
ครอบครัวหนึ่งก่อร่างสร้างตัวกันมา ในครั้งแรกแม้แต่วัตถุสิ่งของที่จะนำมาอำนวยความสะดวกแทบหยิบหามาได้อยากแต่นั้นใช่จะเป็นอุปสรรคกีดขวางความรักของคน การแต่งงานถูกจัดขึ้นเพียงเพราะฝ่ายชายมีหน้าที่ตำแหน่งที่ดูดี มีหญิงสาวมาให้แกะแข้งพันขามากมายหลายหน้า สิ่งหนึ่งที่เขาเลือกและยึดมั่นจงรักภักดีเสมอมา หลังจากการแต่งงาน คือ “ครอบครัว” หญิงสาวจากท้องทุ่งที่เขารักและพร้อมมอบชีวิตให้เป็นสตรีเพศที่มาจากดินเฉกเช่นเดียวกับเขา แต่ด้วยภาระหน้าที่ของฝ่ายชายที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตภายใต้ปีกที่เขาปกคลุมอยู่ เพียงเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่กันอย่างสุขสบาย ภาระหน้าที่กับการเดินทางที่ไม่มีแม้แต่วันหยุดนั้นเป็นสิ่งที่ฝ่ายหญิงรับรู้มาโดยตลอด
การศึกษาอันน้อยนิดทำให้ฝ่ายภรรยาพลาดโอกาสจากตำแหน่งงาน การอยู่กับบ้านเลี้ยงลูกชายสองคนดูเหมือนเป็นภารกิจที่น่าเบื่อหน่าย สามีไม่รอช้าจึงส่ง (เสีย) ให้เรียนเสริมสวยในโรงเรียนใกล้ ๆ บ้าน ครั้นจบออกมาสามีจัดแจงหาบ้านเช่าเพื่อเปิดเป็นร้านเสริมสวยให้ในย่านชุมชน มีลูกค้าชาย-หญิง มากมายหลายหน้าเข้ามาทั้งขาจรขาประจำ ติดอกติดใจทั้งในด้านความสวยของเจ้าของร้าน บวกกับการพูดจาที่ถึงลูกถึงคน...ถึงไม้ถึงมือ จนกระทั่งถึงเนื้อถึงหนัง...ภัตราหาร ธัญญาหาร ถูกประเคนให้ในร้านเสริมสวย ฝ่ายสามีหารู้ไม่ว่าโดนภรรยาสาวสวมเขาให้ จนเวลาล่วงเลยไป ความลับแห่งการเป็น “ควาย” ถูกถ่ายทอดเรื่องราวจากลูกชายสองคนที่เผอิญไปเห็นพฤติกรรม...ของแม่เข้า
การหักเหของชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ การเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีแม้ใครจะคาดเดาได้ การสูญเสียศักดิ์ศรีของความเป็นชายดูจะยิ่งใหญ่หากเปรียบเทียบกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า เพียงเพราะ “ควาย” ตัวหนึ่งออกไปไถนา หวังเพียงเพื่อพัฒนาพื้นดินที่แห้งแล้งให้เขียวชะอุ่มขึ้นมา แต่สิ่งที่น่าเวทนายิ่งนักเมื่อกลับพบว่า คอกควายที่กั้นไว้ตอนนี้กลายเป็นเพียงสถานที่บำบัดความใคร่...พยายามสืบค้นจนเจอกับตา การฟ้องเพื่อหย่าร้างจึงเกิดขึ้น ผลสุดท้ายความโชคร้ายตกที่ลูกชายทั้งสองต้องแยกจากกัน คนหนึ่งอยู่กับพ่อ อีกคนอยู่กับแม่
หากแต่ได้มองอย่างเป็นองค์รวมและรอบด้าน นี่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของชีวิตคนในสังคม หากจะถามถึงรายละเอียดปลีกย่อยว่าใครผิดใครถูก...สังคมคงตอบคำถามนี้ไม่ได้ดีเท่ากับเจ้าของปัญหา ไม่ได้มองว่าบุรุษเพศเป็นฝ่ายถูก และไม่ได้มองว่าสตรีเพศเป็นฝ่ายผิด แต่จะมองว่าทุกอย่างมีต้นสายปลายเหตุแห่งการก่อเกิด โดยส่วนใหญ่ผู้คนในสังคมมักจะตัดสินค่าของคนเพียงแค่ผลลัพธ์ที่สะท้อนออกมาสู่สายตา และคำบอกเล่าของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่หากลึกลงไปถึงเนื้อในจิตใจ คงไม่มีใครค้นหาละเอียดของความผิดพลาดเหล่านั้นเพื่อนำมาตีแผ่ได้หมดสิ้น เพียงเพราะอาจกระทบกับบางสิ่งบางอย่างที่มีความละเอียดอ่อนภายใต้กรอบแห่งจิตสำนึก และศีลธรรม จริยธรรม ความละเอียดอ่อนหนึ่งนั้นคือ จิตใจของ “ลูก”
บันทึกนี้ตีแผ่ขึ้นมา เพียงเพราะต้องการให้ผู้คนในสังคมมองสรรพสิ่งทุกอย่างที่แวดล้อมอยู่รอบ ๆ กาย อย่างเป็นองค์รวมและรอบด้าน ไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งในเรื่องเพศ แต่อยากสะท้อนการมองภาพ ๆ หนึ่งในสังคมอย่างเป็นเหตุเป็นผลและสมเหตุสมผล มิใช่การมองเพียงด้านหนึ่งด้านใดของ "ลูกเต๋า" แต่อยากให้มองทุกมิติแห่งการก่อเกิดและจุดสิ้นสุด ของเรื่องราวปัญหาเหล่านั้น
ยินดีน้อมรับคำขอบคุณของ คุณพี่เมตตา...ด้วยจิตคาระวะค่ะ
โลกแห่งความเป็นจริงหากมองชายหญิงเป็นของคู่กัน สิทธิในความเป็นมนุษย์ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบทุกคนมีสิทธิในความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน จึงควรเคารพซึ่งกันและกัน หากแต่ด้านหนึ่งของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ดูย่ำแย่สุด ๆ หากแต่เราไม่ควรนำมาซ้ำเติมให้แย่ลงไปกว่าเดิม
คนในสังคมอาจมองเห็นแค่มุม ๆ หนึ่งของปัญหา แต่อีกหลายมุมหลายเหลี่ยมที่คนยังมองไม่ลึกพอ หรือไม่พยามมองถึงแก่นของปัญหาที่แท้จริง รอยแต่ละรอยที่ถูกขีดข่วนย่อมมีความเป็นมาและความเป็นไป
ขอบพระคุณ คุณพี่เมตตา...กับการมองชีวิตแบบ "ลูกเต๋า"
อ.ทอง ที่เคารพ
บทความนี้แค่สะท้อนภาพชีวิตคนในสังคมว่าเพศทุกเพศต่างมีความเสมอเท่าเทียมกันในความเป็นมนุษย์ หญิงหรือชายต่างโดนรังเกจากคนในสังคมด้วยกันทั้งสิ้นมากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับความอ่อนแอ อ่อนต่อการมองโลก...ลูกผู้ชายอกสามศอก จะมีสักกี่คนที่จะยอมเปิดเผยการสูญเสียศักดิ์ศรีของตนเองให้สังคมรับรู้ หากแต่จะบอกออกไปก็มีแต่จะโดนประนามและสมน้ำหน้า
เห็นด้วยค่ะว่าลึก ๆ แล้วเรื่องราวในครอบครัวคนเล่ามักจะพูดให้ตนพ้นผิด พูดจากขาวให้เป็นดำได้ เช่นนั้นแล้วเราไม่ควรมองปัญหาเพียงด้านเดียว "องค์รวมและรอบด้าน" จึงจะดีค่ะ
กลัว ๆ ไม่กล้ามา ตั้งหลักอยู่นาน เดี่ยวใครจะว่าได้ทีมีคนยืนตรงกลาง (ยิ้ม ๆ ) เอาล๊ะตัสินใจเพรายังไงก็มีเพื่อนแล้ว (อ.ทอง และ อ.ปภังกรณ์) ยอมรับว่าเป็นมุมมองที่กล้ามาก ยอมรับเลยว่าอาจารย์น้องกล้าเขียน เพื่อเปิดประเด็นมุมใหม่ที่เป็นมุมเดิม ๆ ของสังคม
ครั้งหนึ่งผมไปพักผ่อนที่เกาะพีพี พักอยู่ 5 วัน ก่อนเกิดสึนามิสักประมาณ 1 เดือน ผมเห็นชายไทยที่ถูกนักท่องเที่ยวซื้อไปเป็นเพื่อนเที่ยว สอบถามจากเพื่อนที่เป็นคนที่นั่นก็มีเยอะ สามารถหาได้ มีแหล่งที่เปิดให้บริการ (คงแอบแฝง) ไม่ต่างจากหญิงที่บริการเป็นเพื่อนเที่ยวแก่นักท่องเที่ยว เอะ! อย่างนี้ เราจะเรียกว่าอะไร เมื่อพูดถึง...ขายบริการ มันก็มีทั้ง 2 เพศแหละครับ
ที่ยกมาเพื่อจะบอกว่า Gender Bias นั้น เป็นเรื่องพื้นฐานจริง ๆ ที่เรามักจะประสบพบเจอและมักจะไม่รู้ตัวกัน...ขอบคุณบักทึกนี้มากครับ
ถึงลูกถึงคน ครับ (ย้ำ)
อาจารย์ Vij เขียนได้ดี และทำให้ผมนึกภาพตาม...
ผมก็จดๆจ้องๆหลายครา ก็เลยอดรนทนไม่ได้ ขอฝากความเห็นไว้บ้าง
ผู้ชาย ถูกมองว่าเอาเปรียบผู้หญิง ในสังคมแบบนี้ วันนี้ คล้ายๆที่ผมเขียนบันทึกไปครั้งหนึ่ง
ซึ่งผมก็ย้ำกับคนที่มาอ่านบันทึกของผมครั้งนั้นว่า ใช่ว่าผู้ชายจะเลว ไปซะทุกคน เพียงแต่ผมยกปรากฏการณ์ ที่เห็นมาเขียนชีวิต
ในมุมนี้ ผู้ชายเป็นฝ่ายแพ้...มันเป็นความจริงของสังคมที่ไม่ค่อยถูกนำมาคุย
ต้องขอขอบคุณอาจารย์ที่เป็นผู้หญิง และเขียนเรื่องของผู้ชายได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล
ผู้ชายก็เป็นฝ่ายถูกกระทำเหมือนกัน
อ่านแล้วอึ้งๆไป อยากจะเถียง...จัง แต่มันก็มีอยู่จริงที่ได้พบเห็น เพียงแต่เรื่องที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายถูกรังแกก็มีไม่น้อย ...ซึ่งก็ไม่ได้บ่งชัดว่าจะไม่มีผู้ชายโดนรังแกบ้าง
สรุปว่าทุกๆ คน ทุกๆ เพศ ทุกๆ วัย ล้วนแล้วแต่มีมิติทำให้เกิดความแตกต่าง มุมมองของคนที่อยู่ในมิติเดียวกันอาจจะทำให้เกิดการ Bias ได้ แต่ถ้ามองได้หลายๆ มุมอย่างลูกเต๋าได้จริง เราคงเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมนี้ได้อย่างลึกซึ้ง และปรับปรุงให้ความยุ่งยากหมดไปได้ในที่สุด
ขอบคุณค่ะ
This is just one of social disasters happening gradully nowadays. Male and female are the beginning makers of a society. In the other words, they are the foundations of a family, the social primary unit. In order to have a very nice and balanced building, a strong foundation should be considerred and formed well at the first time of the construction. So does the family!!
If both male and female really know their own 'roles', a family will automatically be well-formed. With such family, we will get a strong-based society......
Hopefully ^__^
เข้ามาอ่านหลายครั้ง...อยากจะคร้านดั่งใจที่คุณ IS ว่านะคะ...
เรื่องราวทำนองนี้ดิฉันเองก็คุ้นๆ...กับการที่มีใครคนหนึ่งเล่าให้ฟัง...เสมือนผู้ชายโดนรังแก...แต่ดุไปนานๆนะคะ...ความจริง ก็ความจริง..ความจริงของผู้ชายในเรื่องเล่านี้จะถูกตีแผ่ออกมาเอง...
กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง...ที่สตรีเพศหลายคนได้รับรู้เรื่องทำนองนี้...หลายครั้ง...และจะเกิดความเห็นใจ..แต่พอได้เข้าไปสู่วังวน...ก็จะค้นพบว่าความจริงคืออะไร...เบิกตาใช้ปัญญา...นอกเหนืออารมณ์รักและเห็นใจ...สตรีก็จะหลุดออกมาจากการเป็นเหยื่อแห่งอารมณ์และความผิดปกติทางจิตใจ...ของบุรุษเพศนี้...
สตรีเพศกี่ราย..ต่อกี่รายแล้ว...ที่ถูกเล่าให้ฟังเรื่องราวแบบนี้...
อนาจใจนัก...กับสตรีเพศที่...ถูกกลลวง...เพราะลมปาก...จากผู้ถ่ายทอด...
ต่ออีกนิดนะคะ...
ดิฉันเคยเชื่อและศรัทธา...ในความรักความเห็นใจ...ในเรื่องเล่าอย่างที่คุณกำลังรู้สึกอยู่ ณ ตอนนี้...ทุกอย่างอบอวนด้วยความเข้าใจ...ในขณะนั้น...ไร้เงื่อนไข และพันธนาการใดใด...
...
สักวันคุณจะเข้าใจในสิ่งที่พยายามสื่อ...ให้รับรู้
หากคุณสามารถช่วยเหลือ "ผู้ชายโดนที่คุณรู้สึกว่าโดนรังแกนี้ได้"...ดิฉันก็ขออนุโมทนา...เพื่อที่เขาจะได้ไม่ไปทำร้าย...สตรีเพศท่านไหนอีก...
แต่ขอยืนยันว่า...เรื่องเล่าที่ภรรยาสวมเขาในเรื่องนี้...คุณต้องไปหาข้อมูลสืบค้นเองมากกว่าที่ฟังจากลมปากของคนฝ่ายเดียว...เพราะมันไม่ยุติธรรมสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่อุ้มท้องลูกมา 9 เดือน และตรากตรำทำงานเกื้อหนุนสามี ด้วยการกรีดยาง...แต่กลับถูกประณามอย่างหยามเหยียดจากบุรุษเพศผู้เป็นพ่อของลูกและสตรีเพศที่ไร้ปัญญาร่วมกันประนาม...
...
ใช้ปัญญา...มากๆ...
ด้วยความรัก...และเมตตา...
เรื่องราวในครอบครัว...เป็นเรื่องของคนสองคน...ใครอีกคนที่มาทีหลัง...ต้องใช้สติในการไตร่ตรอง..
พอดีดิฉัน...นับถือศาสนาพุทธนะคะ...ก็เลยค่อนข้างเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมและศิลธรรมพอสมควร...