ประสบการณ์การเรียน ป.เอก
พี่โจ้ (ซางคำ) กลับมาจากเรียน ป.เอก เป็น ดร.คนใหม่มาเล่าประสบการณ์การเรียนที่พี่แกบอกว่า จบ ดร. ง่ายนิดเดียว ในเวที ลปรร.เมื่อวานนี้ ฟังดูพี่เขาเล่าก็เหมือนมันจะเรียนง่ายๆ จริงๆ เพียงแค่อย่างแรกคือมีเงิน(ทุน) มีความรู้ มีเวลา มีความอดทน มีความตั้งใจจริง ด้วยหลักคิดที่ว่า ท้อได้แต่อย่าถอย พี่โจ้เล่าว่า ตลอดระยะเวลาทำงานมา 20 ปีมีความรู้สึกว่าถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ เพราะแกทำงานในห้อง LAB ครับ อยู่แต่กับเลือดคนไข้ เมื่อแกไปเรียน ดร. ก็เลือกเรียนที่ไม่ตรงกับสาขาความรู้ที่มีเคยจบจาก ป.โท พี่โจ้เริ่มต้นจากการเตรียมความพร้อมในการก้าวไปสู้เส้นทาง ดร. ด้วยการเรียนภาษาก่อน และเตรียมองค์ความรู้ที่จะวิจัยไว้ในใจก่อนด้วย เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปหาหัวข้อวิจัยในอนาคต แต่การเรียน ป.เอก ไม่ได้ง่ายเหมือนเรียน ป.โท ยิ่งเป็นเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยด้วยแล้วยิ่งต้องพยายามมากกว่าการเรียน ป.ตรีด้วยซ้ำ สิ่งที่ไม่เคยทำ พี่โจ้เล่าว่า ได้ทำหมด ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อขอลงบทวิจัยในวารสารนานาชาติ การแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ การเดินทางไปทำวิจัยและเสนอผลงานในต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องใหม่สำหรับพี่โจ้ทั้งสิ้น บนเส้นทางแห่งความพยายามแน่นอนต้องมีช่วงเวลาแห่งความท้อแท้ แล้วคนอย่างพี่โจ้จะทำอย่างไร ด้วยข้อจำกัดของพี่โจ้ที่ว่า พี่โจ้เป็นสาวโสดไม่มีเพื่อนคู่คิด เพื่อนส่วนมากก็เป็นรุ่นน้องซึ่งก็อาศัยได้เพียงกำลังใจแบบน้องมีให้พี่และแรงเชียร์เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น พี่โจ้โชคดีที่มีพื้นฐานครอบครัวที่ดีและได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากการเติมกำลังใจให้ต่อสู้จากคุณพ่อวัยแปดสิบห้า ท่านบอกว่า “ตอนนี้สูเหมือนอยู่ในปรักตรมตัวเลอะไปด้วยโคลนถ้าขึ้นมาตอนนี้ก็จะเลอะแต่โคลนแต่ในโคลนนั้นมีปลาแน่ๆ ใครๆ ก็จับปลาขึ้นมาได้ สูก็ต้องจับขึ้นมาได้เหมือนกัน” (จริงๆ แล้วคงพูดได้ซาบซึ้งกว่านี้) กำลังใจจากครอบครัวและความตั้งใจจริงของพี่โจ้ทำให้จบ ป.เอก ในเวลาเพียงสามปี และในสุดท้ายแหล่งข้อมูลสำคัญที่พี่โจ้ใช้ค้นหา และส่งเสริมสนับสนุนจนจบ ดร. คือ โลกแห่งการเรียนรู้ใน INTERNET แห่งนี้นี่เอง.
เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยครับ
ตัวเองด้วย