ความอบอุ่นคือความสมดุลระหว่างความร้อนและความหนาวเย็น
ในสังคมเราทุกวันนี้กลางวันช่างร้อนด้วยไฟแห่งความทะยานอยาก ที่สื่อทั้งหลายต่างอัดความรู้ ความคิด ความฝัน ให้เราต้องดิ้นรน ขวนขวายให้ได้มาตามสิ่งชั่วเร้นที่แฝงมาตาม อากาศ และ กระดาษทั้งหลาย
ย่ามกลางคืนในสังคมก็ช่างเหน็บหนาว สิ่งแวดล้อมรอบตัวก็เต็มไปด้วยภยันตรายที่สามารถกล้ำกลายเข้ามาได้แม้กระทั่งบนเตียงนอน
ยามเด็กจิตของเราจะจดจำความอบอุ่นที่ "สมดุล" ได้ครั้งที่คราวเราอยู่บนตักและภายใต้อ้อมกอดรักของ "แม่"
ครั้นที่เราโตขึ้นต้องก้าวขาออกจากบ้านมาเรียน มาทำงาน จิตของเราก็จะไขว่คว้าหาความอบอุ่นที่ "สมดุล" นั้น
คนเราจึงต้องแสวงหา ไขว่คว้า "ครอบครัว" โดยหวังว่าเขาหรือเธอจะมาเติมความร้อนที่ขาดหายในยามค่ำคืน หรือสามารถมีน้ำเย็น ๆ มาป้อนให้เมื่อยามตื่น ในคราที่ชีวิตต้องไหลลื่นไปตามกระแสความร้อนแห่ง "สังคม"
แต่ทว่า... ต่างคนก็ต่างต้องการความสมดุลนั้น แต่ละคนจึงตั้งเป้าหมายว่า เขาหรือเธอคนนั้นจะต้องเป็นผู้มา "เติม" ให้กัน
เมื่อแต่ละคนหวังว่า เขาหรือเธอจะเติมให้ได้ จิตใจของเราก็จะสร้างความหวังขึ้นมา ครั้นเมื่อแต่ละคนไม่ได้ตั้งใจมาให้ แต่ตั้งใจมาเอาในสิ่งที่ขาดหาย ชีวิตครอบครัวก็ล่มสลายเพราะต่างไม่สมหวังดังตั้งใจ
ชีวิตครอบครัวคือชีวิตที่จะต้องให้ ต้องมอบความสมดุลแห่งความอบอุ่นให้แก่กันและกัน
ที่ชีวิตของฉันและเธอจึงต้องอยู่กับความจริงที่ไม่ละเมอไปกับโลกแห่งความฝัน
ถ้าหากความอบอุ่นที่เหมาะสมกับร่างกายคือ 37 องศาเซลเซียส เราก็ต้องพยายามประคองอุณหภูมิของครอบครัวได้ให้ 37 องศาเซลเซียสนั้น
ไม่มีสงครามเย็น ที่แต่ละคนบึ้งตึ้งใส่กันจนหนาวจับจิต
ไม่มีการสาดอารมณ์ ที่แต่ละคนต่างเก็บและกดไว้เมื่อชีวิตต้องทนอยู่ในที่ทำงาน
เมื่อกลับบ้าน เขาหรือเธอจะต้องสร้างบรรยากาศความรัก "ความอบอุ่น" ให้กันและกัน
โดยคิดถึงวันที่แม่โอบกอดเราทุกครั้งที่เราถือกระเป๋านักเรียนกลับเข้าถึงบ้าน
ข้าว ปลา อาหาร ที่แม่ตั้งเตรียมรอเราไว้
ความปลอดภัยจากศัตรูและอันตรายที่ได้รับจากพ่อ
เรามีหน้าที่ที่จะต้องเติมความร้อนและความเย็นให้พอดี
ถ้าหากใครร้อนมา ก็ใช้รอยยิ้มที่เย็นใจมอบให้แก่กัน
ถ้าหากใครเย็นมา ก็ใช้รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นเพิ่มอุณหภูมิความรักภายในครอบครัว
รอยยิ้มจึงเป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกที่ใช้ได้และหาได้ง่ายที่สุดที่เราจะมอบให้แก่กันและกัน
มาร่วมกันสร้างความสมดุลแห่งความอบอุ่น
เพื่อตัวเรา ครอบครัวของเรา และสังคมของเราจะได้อบอุ่น อยู่รอด ปลอดภัย เพื่อให้ชีวิตของเรา เขา และเธอจะมีรักที่อบอุ่นอย่าง "สมดุล..."
(ที่มาจากบันทึก รักแม่ที่อิ่มอุ่น)
คิดถึง พ่อ แม่ พระ ที่บ้านค่ะ
บางครั้งเรามีเวลาที่จะไปให้ความสุขกับคนทั้งโลก แต่ต้องระลึกไว้ในเสมอว่าเรา หรือ "ลูก" คือ เวลาและสรรพสิ่งทั้งหมดในโลกที่พ่อแม่เรียกว่า "ความสุข..."
สุขใดในโลกของพ่อแม่ไม่เทียบแท้เท่ากับการเห็นสุขมีความสุข
แล้วสุขใดของเราเล่า จะเทียบเท่าให้ความสุขกับพ่อแม่
พ่อแม่ไม่หวังอะไรมากกว่าเห็นเราเป็นคนดี
วันนี้เราเป็นคนดีแล้ว เสียสละแล้ว ก็ต้องเพียรพยายามอยู่ใกล้ชิดท่านให้ได้มากที่สุด
วันคืนของเราอาจจะเดินก้าวหน้าไป แต่เวลาของพ่อแม่นั้นมีแต่การนับถอยหลัง...