วิจัยการจัดการกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อสร้างจิตสำนึกในเรื่องทรัพยากรน้ำให้แก่นักศึกษาอาชีวเกษตร


การจัดการกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม สร้างจิตสำนึก ทรัพยากรน้ำ นักศึกษาอาชีวเกษตร

 ชื่อเรื่องงานวิจัย : การจัดการกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อสร้างจิตสำนึกในเรื่องทรัพยากรน้ำให้แก่นักศึกษาอาชีวเกษตร

ชื่อผู้วิจัย : นายบรรชร  กล้าหาญ  นางรุ่งทิพย์  กล้าหาญ

ปีที่ทำการวิจัยเสร็จ : 2550

แหล่งทุนอุดหนุนการวิจัย : คณะกรรมการวิจัยการศึกษา  การศาสนา และการวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ

 บทคัดย่อ

            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อการสร้างจิตสำนึกในเรื่องทรัพยากรน้ำให้แก่นักศึกษาอาชีวเกษตร  รวมทั้งผลของการจัดการกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อสร้างจิตสำนึกในเรื่องทรัพยากรน้ำ   โดยใช้แหล่งข้อมูลในการวิจัยได้แก่  นักศึกษาระดับชั้นปีที่ 3 โครงการปฏิรูปการศึกษาเกษตรเพื่อชีวิต สังกัดวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่  จำนวน   30 คน   การวิจัยได้ใช้วิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR  : Participatory   Action  Research) สำหรับเครื่องมือได้แก่  แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และแบบสอบถามเพื่อวัดประเมินผลระดับจิตสำนึก   มีการเก็บข้อมูลจากการสังเกตแบบมีส่วนร่วม   การสนทนากลุ่ม และการบันทึกปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น  รวมทั้งการรวบรวมจากแบบสอบถาม   และนำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐานประกอบด้วย  ค่าร้อยละ  ค่าเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  และ ค่า  t – test    

            ผลการวิจัยพบว่า  รูปแบบและวิธีการเรียนรู้เพื่อสร้างจิตสำนึกต่อทรัพยากรน้ำ  ควรประกอบด้วยรูปแบบของการเรียนรู้ใน  3  ลักษณะคือ   การเรียนรู้แบบเป็นทางการ    การเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ และการเรียนรู้ตามอัธยาศัย ซึ่งทั้งสามลักษณะจะต้องสอดประสานกัน  เพื่อให้ตอบสนองความต้องการ  สอดคล้องกับวิถีชีวิตและสภาพความเป็นจริงของสังคมวัฒนธรรม    โดยมีวิธีการเรียนรู้  3  ประการ คือ  การสร้างกระบวนทัศน์แบบไทย  ซึ่งเป็นวิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้เรื่องราวความเป็นจริงเกี่ยวกับชุมชนท้องถิ่น และลักษณะการดำรงชีวิตประจำวัน    การใช้มิติทางวัฒนธรรมเพื่อการเรียนรู้    ซึ่งเป็นวิธีการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการกระตุ้นให้เกิดการสนใจใคร่เรียนรู้  ถึงวิถีชีวิต  แบบแผนความคิด ความเชื่อ และการปฏิบัติในชุมชนท้องถิ่น   และการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการและซึมซับ  ที่เน้นการมีส่วนร่วมสูงสุด  การมีปฏิสัมพันธ์ในการเรียนรู้ การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน   และการพัฒนาทักษะการสื่อสาร  รวมทั้งการสร้างวิธีการเรียนรู้ผ่านเทคนิควิธีหลายลักษณะ  เช่น  การเรียนรู้อย่างคิดวิเคราะห์  การฝึกแก้ปัญหา  การฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริง  การใช้พลวัตรกลุ่ม  ภายใต้การสร้างบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่จูงใจให้เกิดการซึมซับ  สามารถผสมผสานความเป็นเหตุผลและความเข้าใจ  เกิดความเป็นอิสระทางความคิด  และมีการฝึกซ้ำย้ำทวนในการคิดวิเคราะห์ เพื่อให้เกิดการกระจ่างชัดในค่านิยม  สำหรับเทคนิคการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อสร้างจิตสำนึก   ใช้ระยะเวลาทั้งหมด  9  ครั้ง ในเวลา  10 วัน  1 คืน  รวม  69  ชั่วโมง  ปรากฏว่า   นักศึกษามีคะแนนเฉลี่ยความตระหนักต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในระดับมากที่สุด  สูงกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้    อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01        และนักศึกษายังมีการพัฒนาระดับขั้นของจิตสำนึกต่อทรัพยากรน้ำสูงกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรม  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  0.01 โดยนักศึกษาส่วนใหญ่ได้มีการพัฒนาระดับจิตสำนึกเข้าสู่ระดับขั้นการจัดระบบคุณค่า  ถึงร้อยละ  46.6  และนักศึกษาทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ในระดับที่มากที่สุด  

            จึงสรุปได้ว่า  การจัดการกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสามารถพัฒนาให้นักศึกษาเกิดจิตสำนึกต่อทรัพยากรน้ำ

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 446431เขียนเมื่อ 28 มิถุนายน 2011 21:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 19:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท