การศึกษาไทยเป็นการศึกษาที่ซ้ำซ้อนเพราะเน้นการเรียนการสอนทฤษฎีนำการปฏิบัติ
เมื่อเรียนทฤษฎีมาก ๆ ความสงสัยก็มาก และความสงสัยที่น่ากลัวที่สุดอันหนึ่งก็คือ "สงสัยว่าความรู้จะไม่พอ"
ครั้นสงสัยว่าความรู้ที่ตนเองเรียนและรู้มานั้น "ไม่พอ" แล้ว เราก็ต้องเรียนไปเรื่อย ผู้ที่เขียนหลักสูตรออกแบบการเรียนการสอนก็ต้องสอนให้ "ครอบจักรวาล" เพราะกลัวว่าถ้าสอนน้อยว่าจะ "ไม่พอใช้"
แต่ในความเป็นจริงที่ข้าพเจ้าประสบมานั้นกลับพบว่า "ความรู้ที่ต้องใช้ไม่ได้เรียน ความรู้ที่เรียนไม่ได้ใช้"
ดังนั้น ถ้าหากเราใช้ทฤษฎีนำ เราก็ต้องเรียนให้รู้หมดทั้งโลก จากนั้นนำเพียงเศษหนึ่งส่วนล้านมาใช้
สิ่งที่เคยเรียนเคยรู้มาก็ลืม เพราะฟังมา จำมา สิ่งนั้นไม่ซึมซาบเข้าในจิตใจ
ดังนั้นเมื่อมาทำงานก็ต้องไปอบรมใหม่ สัมมนา หาความรู้ บางครั้งก็เป็นสิ่งที่เคยเรียนแล้วแต่ "ลืม"
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราปฏิบัติก่อน ถึงแม้ว่าจะผิด ๆ ถูก ๆ สิ่งสำคัญที่สุดที่เราจะได้ก็คือ "เป้าหมายในการเรียนรู้"
เราจะรู้ว่าเราควรจะเรียนรู้อะไรบ้าง อะไรที่ "จำเป็น" ต้องรู้ ควรจะรู้อะไรก่อนหลัง
ไม่ต้องกลัวผิด เพราะความผิดเป็นครูที่สำคัญ
ครูที่สอนเราได้อย่างถึงจิตถึงใจคือ "ความผิดพลาด"
ดังนั้น ถ้าหากเรามีความผิดพลาดนำการเรียนรู้ เราก็จะเรียนรู้เพื่อให้เกิดความผิดพลาดนั้นซ้ำสอง...
ความสงสัยจะเกิดขึ้นเสมอ เมื่อเริ่มต้นด้วยการท่อง การอ่าน การฟัง
ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งจะเกิดขึ้นเสมอ เมื่อเริ่มต้นด้วยการลงมือ ลงแรง ลงใจในการ "ปฏิบัติ..."
เรียนรู้คู่การปฏิบัติ ครับ