คนเราจะเกิดมาทำไม หากต้องทนมีชีวิตอยู่กับความหวาดกลัว “เพื่อนนินทา
แฟนทอดทิ้ง เจ้านายไม่รัก” วันแล้ววันเล่าที่เราทำในสิ่งเดิมเดิม
เพราะเกรงว่าบุคคลแวดล้อมของเราจะไม่พึงพอใจ กังวลว่าอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไป
จนกระทั่งเราไม่อาจรับมือกับมันได้
เราเก็บกดความหวาดกลัวนี้ไว้โดยไม่กล้าบอกใคร จนกระทั่งว่า
ตัวเราเองก็ลืมมันไปเหมือนกัน แต่มันไม่เคยหายไปไหน
ยังคงวนเวียนอยู่ลึกลงไปในจิตใต้สำนึก
เบื่อหน่าย เปลี่ยวเหงา และเฉื่อยชา คือ เสียงสะท้อนความหวาดกลัวที่เงียบงัน
ความกลัวที่ว่านี้จะไม่มีพิษภัยอะไร
ถ้าเราเกิดและเติบโตมาในยุคอุตสาหกรรม
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างต้องการความมั่นคงแน่นอน หากทว่าในศตวรรษที่ 21
ซึ่งโลกเรียกร้องให้ทุกคน ไม่ว่าชายหรือหญิง ต้องลุกขึ้นมา “Creative”
สร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์และงานประจำที่น่าเบื่อหน่าย
สร้างความโดดเด่นในบุคลิกภาพ
ทั้งเพื่อกระตุ้นเพศตรงข้ามและเพิ่มสีสันให้เจ้านายรักใคร่
ใครที่อ่อนด้อยเรื่องความสร้างสรรค์ ก็จะถูกลืมเลือนและทิ้งไว้ข้างหลัง
ทุกคนกำลังสนุกรื่นเริงกันในงานเลี้ยงสร้างสรรค์ แต่กลับทิ้งให้เราต้องอยู่เฝ้าบ้านอย่างเดียวดาย
รัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังตะโกนกรอกหูคุณทุกเช้าเย็นว่า
“จงทำตัวให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์เดี๋ยวนี้ ไม่งั้นตกงานแน่”
คุณอาจตะคอกกลับไปว่า “อย่ามัวแต่ใช้เงินภาษีประชาชนโปรโมตตัวเอง”
คุณยังเอ้อระเหยเพราะคิดว่าตำแหน่งงานของฉันไม่มีวันกระทบ
บริษัทของฉันมั่นคงและอยู่มานานแล้ว มันอาจจะเป็นจริงเช่นนั้นก็ได้
จนกระทั่งคุณตายไปก่อนแล้ว และได้ไปเสวยสุขบนสวรรค์วิมาน
เกิดมาแล้วทั้งชีวิต คุณไม่คิดอยากจะทิ้งผลงานอะไรที่ซี้ดซ้าดจนกระทั่งทนไม่ไหว ให้โลกใบนี้ได้จดจำบ้างเลยหรือกระไร
1. เคี่ยวข้นมิตรภาพเดิมให้ล้นทะลัก เปิดใจน้อมรับมิตรภาพใหม่ที่ซาบซ่าน
สูตรสำเร็จของการเป็นมนุษย์สร้างสรรค์ (Creative Talent)
ที่เคยเป็นดินแดนลี้ลับ แต่ตอนนี้ไม่ลับอีกต่อไปแล้วก็คือ
การสร้างเครือข่ายและบทสนทนากับผู้คนที่หลากหลายสาขา
เพื่อเชื่อมโยงความคิดที่เข้ากันไม่ได้ให้ปะทุกลายเป็นไอเดียใหม่สุดหรูเลิศ
หากเราเป็นวิศวกรก็ควรจะไปลองจิ๊จ๊ะกับศิลปินดูบ้าง
เผื่อจะช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ที่เย็นชาของเรามีความใส่ใจต่อลูกค้ามากขึ้น
นับจากความลับนี้ถูกเปิดเผย
คนที่รู้ก็เร่งพาตัวเองเข้าไปหาความแปลกใหม่กันอย่างไม่บันยะบันยัง
เผื่อหวังว่าตัวเองอาจจะ “รวย” จากความคิดสร้างสรรค์ที่ล้นทะลักนี้
แต่มันคงไม่ง่ายอย่างที่คิด !
“ความสร้างสรรค์” เป็นเรื่องยาก
เพราะชอบเกิดขึ้นมาในจังหวะที่เราไม่รู้ตัว ยามที่เรากำลังแอบมองสาวสักคน
โดยที่ไม่ให้ชายชู้ของเธอสังเกตเห็น ความคิดดีเลิศก็พลันอุบัติขึ้นมา
เรารีบหยิบปากกามาจด และปล่อยให้สาวสวยของเราเสียความมั่นใจ
ยิ่งเราพยายามจะรีดเค้นความคิดสุดยอดจากเพื่อนใหม่ในหลากหลายวิชาชีพเพราะ
คิดว่าจะให้ไอเดียเฉียบคม เราก็ยิ่งพบกับความตีบตัน
ศิลปินมืออาชีพจะไม่มีวันทำสิ่งที่ตลกเช่นนี้
พวกเขาเพียงแต่ละเอียดอ่อนในการสังเกตสังกาชีวิตประจำวันรอบตัว
ฟังเสียงนกร้องในวันที่ต้องทนฟังเสียงเมียบ่น
เพื่อจะค้นหาความเชื่อมโยงระหว่างกัน นั่งอ่านหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์
แล้วคิดเชื่อมโยงไปว่าเจ้าของบทความจะรู้สึกอย่างไร
ถ้าแม่ค้ากล้วยแขกไม่สนใจในข้อเขียนที่ยิ่งใหญ่นี้
ขณะที่มือกำลังพับกระดาษให้กลายเป็นถุงใบหนึ่งที่แสนธรรมดา
จงกลับไปสังสรรค์กับเพื่อนกลุ่มเดิม
หากทว่าหมั่นสังเกตบางสิ่งที่เคยละเลย
อย่ามัวแต่คีบซูชิมาป้ายวาซาบิและจุ่มเข้าปาก
ลองสังเกตอากัปกิริยาของเพื่อนในการรับประทานของหวาน
ฟังในสิ่งที่เพื่อนพร่ำบ่น แล้วสังเกตว่าอารมณ์ในขณะนั้น
เข้ากับชุดทำงานที่ใส่อยู่หรือไม่
ทั้งเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่า ล้วนแต่มีคุณค่าให้ชื่นชม
อย่ามัวแต่สนทนาหรือสังเกตสังกาเพื่อซึมรับวัตถุดิบสร้างสรรค์ให้มากที่สุด
ขอให้ใช้ชีวิตกับเพื่อนทุกคนอย่างรื่นรมย์
เอาใจใส่ในรายละเอียดของเพื่อนให้มากขึ้น
รู้จักหยอดมุขและหว่านเสน่ห์เป็นครั้งคราว
เพราะความสร้างสรรค์นิยมมาเกิดในฉับพลันที่เราปล่อยวางและสนุกสนาน นี่คือ
รางวัลตอบแทนในการดูแลกันและกัน
2. หัวเราะให้กับความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่
คนธรรมดาอย่างเราคงไม่โง่พอที่จะนั่งทดลองนับ 1000 ครั้ง
เพียงเพื่อที่จะได้ 1 หลอดไฟที่ยิ่งใหญ่
เหมือนดั่งเอดิสันพิสูจน์ให้โลกตะลึง
ความล้มเหลวเป็นเรื่องที่ยากยอมรับได้อย่างหน้าชื่นตาบาน
ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น แต่เรากลับลืมไปว่า
ชีวิตมนุษย์แสนสั้น จะอายอะไรกันนักหนา
ทำไมเราไม่แปรเปลี่ยนความล้มเหลวของเราให้เป็นเรื่องตลกในวงเหล้า
ทำไมเราไม่สอดใส่ดราม่าหรือสตอเบอรี่เข้าไปในเรื่องเล่าแห่งความล้มเหลวที่
ยิ่งใหญ่ของเรา
ความล้มเหลวที่แท้จริง คือ การทำให้เรื่องเล่าเกี่ยวกับความล้มเหลวของเรานั้นจืดชืดจนไม่มีใครใส่ใจไยดี ไม่มีแม้แต่คำประณามด่าทอ
การนำเรื่องราวความล้มเหลวมาทำให้เป็นมุขขบขัน
ไม่เพียงช่วยสร้างประโยชน์ให้มีเรื่องเม้าท์กันแก้เลี่ยน
บางทีอาจปลุกให้สาวเซ็กซี่ร่วมโต๊ะที่กำลังแชตบีบีอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ได้ลุกขึ้นมาแล้วกล่าวยินดีกับความสำเร็จในการเล่าเรื่องราวความล้มเหลวของ
เรา แต่ที่สำคัญสุดคือ การได้รับฟีตแบคที่น่าสนใจว่า ทำไมเราจึงล้มเหลว
เราน่าจะปรับปรุงอะไรบ้าง หรือเราควรจะไปตายแล้วเกิดใหม่
อย่าลืมว่าในข้อ 1 เราได้แนะนำไปแล้วว่า จงอย่าเพียงฟังสิ่งที่เพื่อนพูด
แต่ให้ฟังสิ่งที่ไม่ได้พูดออกมาด้วย เมื่อกลิ่นน้ำหอมของเพื่อนชาย
โชยเข้ามาในขณะที่เรากำลังจะจบการพรรณาที่ยืดยาวเกี่ยวกับความล้มเหลวที่น่า
ทึ่งของเรา เมื่อทุกสิ่งประสานกันอย่างลงตัว ในนาทีนั้นเอง “ไอเดียสุดยอด”
ก็พลันบังเกิดขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
จะเป็นอะไรไปเล่า ถ้าจะทดลองทำ แล้วล้มเหลวอีกสักครั้ง อย่างน้อยกลิ่นน้ำหอมของหนุ่มหล่อคนนั้นก็ช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน
3. จงทำอย่างนักคิด และจงคิดอย่างนักทำ
ประโยคสวยหรูนี้ดีเยี่ยม แต่ก็อาจทำให้คุณไขว้เขวได้ง่ายดาย
เพราะแท้จริงแล้วกระบวนการคิดและกระบวนการทำไม่ได้แยกขาดกันอย่างที่คนส่วน
ใหญ่เข้าใจ เปรียบประดุจได้ดั่งการสำเร็จความใคร่ทางปัญญา
กับการสำเร็จความใคร่ทางร่างกาย
แม้นว่าจะมีความเหนื่อยยากและขั้นตอนที่แตกต่างกันไกลลิบ
แต่ทั้งสองสิ่งก็ทำให้เกิดความสุขเสียวซ่านได้ดุจเดียวกัน
ความคิดและการลงมือทำจึงไม่ได้แตกต่างกันมากอย่างที่เห็น
เราถูกสอนมานานแต่ยุคพระเจ้าเหาว่า “จงคิดก่อนทำ”
แต่ในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ที่ชื่นชอบโปรโมตนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์กัน
โจ่งครึ่มเช่นนี้ เราจะต้อง “คิด-ทำ-คิด”
ให้เป็นกระบวนการต่อเนื่องไม่สิ้นสุด เพราะในระหว่างลงมือทำนั้น
ความคิดสุดยอดอาจโผล่เข้ามา ถ้าเราหวาดกลัวที่จะรื้อและทำใหม่
ถ้าเราเสียดายผลงานชั้นดีที่กำลังไปด้วยสวย
เราก็ไม่มีวันผลิตผลงานที่ยิ่งใหญ่ได้
ในทำนองขัดกัน ขณะที่ความคิดเราเดินทางมาถึงทางตัน
หรือความคิดที่เราไปขโมยมาจากคนอื่นมากมายหลากหลายกำลังขัดกันอย่างน่าโมโห
ก็โปรดจงหยุดคิดบ้าง แล้วขยับแข้งขาเพื่อลงตีนทำ
บางทีมันอาจช่วยให้ความคิดหลากหลายที่กำลังกวนบาทาเราอยู่
ได้รู้จักตัวเองและเชื่อมโยงในมุมพิสดาร (Recombination) จนสังเคราะห์เป็น
1ไอเดียสร้างสรรค์ที่เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ ส่วนอีก 999
ความคิดที่อุตส่าห์ขโมยเค้ามาอย่างยากเย็น ก็โยนทิ้งถังขยะไปได้เลย
เพราะเราค้นพบแล้ว ไชโย
หรือว่าแอบไปคืนเจ้าของเขาดีมั้ย ^_^
ยินดีต้อนรับสู่บ้านของผมครับ
หวังว่า..คงมีบันทึกของคุณ
อยู่เรื่อย ๆ นะครับ
เพื่อแบ่งปันกันครับ
ขอบคุณครับ
"บ้านหลังนี้" ช่างอบอุ่นยิ่ง
ทุกคนล้วนมีน้ำใจต้อนรับ ^.^
ผมจะนำบทความมาลงเรื่อยๆเลยทีเดียวครับ
ขอบคุณครับ...ขอบคุณครับ
เดี๋ยวผมจะแนะนำเพื่อน ๆ
มาอ่านครับ...
ไม่อยากให้เพื่อน ๆ พลาดอ่านบันทึกที่มีแง่มุม
แปลก ๆ แต่ดี และชอบมากครับ