60. สิ่งที่ควรระวังในการซื้อบ้านจัดสรร


สิ่งที่ควรระวังในการซื้อบ้านจัดสรร

 

 

 

"สิ่งที่ควรระวังในการซื้อบ้านจัดสรร"

 

             ช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผู้เขียนได้เงียบหายไป เนื่องจากมีภารกิจงานประจำในหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติซึ่งมากมายเหลือเกิน อีกอย่างต้องกลับไปดูแลที่อยู่อาศัย (บ้าน) ซึ่งได้ซื้อไว้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน เกิดอาการหลังคารั่ว จึงทำให้ไม่ได้เข้ามาเขียนบทความใน Gotoknow  ความจริงหลังคามั่นเริ่มรั่วบ้างแล้วตั้งแต่ในตอนต้น ๆ ที่ผู้เขียนได้ซื้อ แม้ใครบางคนอาจว่ามันเป็นเงินไม่มาก แต่สำหรับผู้เขียนคิดว่ามากสำหรับตัวผู้เขียน คือ ราคาประมาณ 1,070,000 บาท เมื่อเกือบ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งคุณค่าเงินในสมัยนั้น เรียกว่าก็แพงอยู่สำหรับเนื้อที่บ้าน 91 ตารางวา

               สำหรับวัสดุอุปกรณ์ ไม่ต้องพูดถึง เจ้าของโครงการเอาเปรียบผู้ซื้อมาก ๆ เช่น ก็อกน้ำ ก็เอายี่ห้อไม่ดีมาให้ สีที่ทาก็มีคุณภาพต่ำ  ผู้เขียนจึงต้องนำมาเปลี่ยนในภายหลัง กระเบื้องก็เกรดต่ำ ครั้งแรก ๆ หลังคาก็รั่วบ้างแต่ยังไม่มาก เพราะฝนตกยังไม่ค่อยมากเท่าไร แต่สำหรับพอมาปีนี้ ฝนตกชุกมาตั้งแต่ต้นปีใหม่ เรียกว่า "ปีนี้ไม่มีหน้าร้อนเลย" หลังคาก็เริ่มรั่วมากขึ้น ๆ ช่วงที่ผ่านมา พ่อบ้านก็ได้ให้ช่างมาขึ้นทำหลังคาประมาณ 3 ครั้ง ก็ไม่สามารถแก้ไขรอยรั่วบนหลังคาได้  จนสุดท้ายพ่อบ้านเริ่มไม่ใส่ใจโดยไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร?...

               ผู้เขียนก็ไม่ละความพยายาม คิดให้ช่างขึ้นหลังคาอีกครั้งเพื่อทำการอุดรอยรั่วบนหลังคา ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 จากการซื้อบ้านจัดสรร เพราะบ้านที่พรหมพิราม พ่อเป็นผู้สร้างให้นั้น เนื่องจากพ่อเป็นช่างไม้ ไม่เคยรั่วเลยสักครั้ง แม้เวลาจะผ่านมานานถึง เกือบ 20 ปี ก็น่าแปลกดี...เมื่อช่างขึ้นครั้งนี้ผู้เขียนบอกว่าให้ยาแนวตามหลังยาวหมดเลย เพราะเราไม่สามารถหาจุดรอยรั่วได้ ช่างก็ทำตามผู้เขียน...สุดท้ายช่วงที่ผ่านมาฝนตกหนักมาก ๆ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า...ในครั้งนี้หลังคาบ้านไม่รั่วแล้ว...เรียกว่า  "กว่าจะหาทางแก้ไข" กันได้...ก็ยังดีที่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้...

                 เหตุที่ซื้อบ้านในครั้งแรกใช้วัสดุไม่ดีทำให้มีปัญหาต่าง ๆ เพราะการเอาเปรียบของผู้ขาย แม้แต่หน้าบ้านก็ไม่ทำฝ้าให้ ทำให้มีนกมาอาศัยทำรัง โดยทำรังไม่ทำรังเปล่า...ถ่ายเลอะเทอะอีกทำให้บ้านดูสกปรก ผู้เขียนก็เลยได้จังหวะ ไหน ๆ ทำหลังคาแล้วก็ทำฝ้าข้างหน้ากันไม่ให้นกมาทำรังได้...เรียกว่า "เหนื่อยครั้งเดียว" พ่อบ้านเคยบอกว่า ถ้าไม่ต้องการที่ตรงนี้จะไม่มาซื้อเป็นแน่แท้ เพราะบ้านที่ซื้ออยู่ใกล้กับบ้านเก่าที่อยู่พรหมพิราม ซึ่งทางผ่านสะดวกกว่าไปซื้อในเมืองพิษณุโลก...

 

สภาพด้านหน้าซึ่งเจ้าของโครงการนำกระเบื้องมาตีแปะไว้ให้

ธรรมดา และไม่มีฝ้ามากั้นปิด ทำให้มีนกมาทำรังแถมถ่าย

เลอะเทอะอีก...

 

 

ซึ่งเป็นปัญหาหนักใจมาก ๆ เพราะเกรงเรื่องไข้หวัดนก

พอตกเย็นหรือตอนเช้า ๆ จะมีนกมาเสียงดังจอแจมาก

 

 

ผู้เขียนเลยตัดสินใจจ้างช่างมาแก้ไขเพื่อทำเพดานฝ้ากั้นปิด

ไม่ให้นกมาทำรังอีก...

 

 

ความที่โมโหเจ้าของโครงการซึ่งนำฝ้ามาแปะไว้ธรรมดา

ผู้เขียนก็เลยจ้างช่างซื้อไม้ฝา ฯ มาเปลี่ยน ตกแต่งเพื่อให้ดูดีขึ้น

 

 

ความที่ผู้เขียนเป็นคนรักสวย รักงาม จึงซื้อไม้แกะสลักมาติด

ตามชายคาบ้านเพื่อทำให้ดูดีขึ้น...

 

 

ถ่ายรูปขณะช่างดำเนินการทำให้

 

 

เรียกว่าพอเสร็จแล้วก็ทำให้บ้านดูดีขึ้นมาหน่อย สมกับราคา

นิดหนึ่ง เมื่อครั้งแรกนั้นดูไม่สมราคาเลย...

แต่ก็ต้องเสียเงินทำอีกประมาณ 27,000 บาท...

 

 

ในช่วงที่ทำนี้ พ่อบ้านได้มอบหมายให้ผู้เขียนเป็นผู้ดำเนินการ

ทั้งหมด เพราะพ่อบ้านต้องไปดูแลพ่อที่พรหมพิราม

 

 

ครั้งแรก  ผู้เขียนก็กลัวอยู่เหมือนกัน กลัวว่าช่างรับเหมาจะ

ทำงานไม่สำเร็จ เพราะเห็นอยู่บ่อย ๆ ว่าช่างรับเหมาชอบหนีงาน

 

 

ยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะสำหรับบ้านหลังนี้ ตอนนี้กำลังจะต่อเติม

ด้านข้าง (ตรงป่ากล้วย) เพื่อให้กว้างขึ้น เพราะในอนาคต

เจ้าตัวโตกลับจากเรียนจบก็จะต้องมาทำงาน + หลานสาวก็ต้อง

เข้ามาอาศัยเพื่อเรียนต่ออีก...จึงคิดต่อเป็นห้องเพิ่มอีก 1 ห้อง

และด้านหน้าก็คงปูกระเบื้องอีก...เป็นงานใหญ่มาก เหมือนกับ

ต้องซื้อบ้านอีก 1 หลังเลยเชียวแหล่ะ...

 

 

ภายในที่ทำเพดานฝ้าแล้ว (กันนกมาถ่ายเลอะเทอะ) เพราะ

ไม่มีที่ให้เกาะทำรังอีกแล้ว...

 

 

ทุก ๆ วัน ที่ยังไม่ได้ทำเพดานฝ้า จะได้ยินเสียงนกจอแจมาก ๆ

 

 

 

สิ่งที่จะต้องทำต่อ คือ ปูกระเบื้องหน้าบ้าน กับต่อด้านข้างของ

ตัวบ้าน...ช่วงนี้เหนื่อยทั้งงานประจำและงานบ้านจริง ๆ

แต่ถ้าพูดถึงอนาคตก็จะสบาย...

เรียกว่า  "ทำเสียก่อน ตอนที่เรามีแรง"...

 

สำหรับ การซื้อบ้านนั้น ต้องเลือกดี ๆ ให้คุ้มกับเงินที่เราต้อง

เสียไป เพราะเจ้าของโครงการบางโครงการเอาเปรียบเรามาก ๆ

เช่น บางครั้งจะเลี่ยงภาษี จะทำสัญญากับเรา เช่น เราซื้อในราคา

1 ล้าน กว่า ก็ทำสัญญาซื้อขายกับเราเพียง 4 - 5 แสนบาท

เพราะเขาต้องการเลี่ยงภาษี...เท่านี้ก็ทำให้ทราบว่า ยังมีคนที่

ไม่ซื่อตรงกับประเทศชาติอีกมากเลยเชียวล่ะ ที่กระทำแบบนี้

และก็จะเกี่ยวพันไปถึงการประกันอัคคีไฟด้วย

จึงขอเตือนผู้ที่เข้ามาอ่านว่า "ก่อนซื้อ คิดให้ดี ๆ จะได้ไม่เหมือน

กับผู้เขียน" เป็นบทเรียนที่ราคาแพงมาก...

"เราไม่เคยทำร้ายใคร แต่คนชอบมาคิดร้ายต่อเรา"

ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม?...คงเพราะความที่คิดจะเอาเปรียบ

กระมัง...นี่คือ ความเป็นจริงในสังคมยุคปัจจุบัน...คนที่มีฐานะกว่า

แต่ทำไมชอบเอาเปรียบคนที่มีฐานะที่ด้อยกว่า...ไม่เข้าใจ...

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 445671เขียนเมื่อ 24 มิถุนายน 2011 16:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

สวัสดีค่ะ คุณ บุษยมาศ

บ้านหนูก็บ้านจัดสรรเหมือนกันค่ะ

บ้านจัดสรร มีปัญหาเกือบทุกโครงการครับ

แม้กระทั่งโครงการที่อ้างตัวว่าเป็น "บ้านไม่บาน" ครับ

ต้องระวัง ตรวจสอบ ให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจวางเงินครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ

เพราะยุ่งกับบ้านนี่เองถึงได้หายไประยะหนึ่ง

การซื้อบ้านต้องเริ่มดูแลและตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้นเลยค่ะ เพราะถ้าเกิดปัญหา

ขึ้นแล้วเขามักจะไม่รับผิดชอบ  ที่บ้านก่อนตีฝ้าก็ให้ช่างเขาขึงตาข่ายก่อนเพื่อ

กันนกกันหนู  แล้วก็ใส่แผ่นกันความร้อนอีกชั้นจึงจะตีฝ้า ก็หมดปัญหาไปเปลาะ

หนึ่ง  สำหรับเรื่องหลังคาพอดีได้ช่างดีเลยไม่มีปัญหาหลังคารั่วซึม 

เคยเห็นคนที่เขามีปัญหาเรื่องหลังคารั่วมากๆ  ช่างแก้กันหลายครั้ง  ทะเลาะกับ

ช่างก็หลายครั้ง  จนสุดท้ายตัดสินใจรื้อออกหมดแล้วทำใหม่....เวรกรรม

  • สวัสดีครับ
  • ขอบคุณบันทึกที่ช่วยเตือนให้ระวังสำหรับคนจะซื้อบ้านจัดสรรครับ
  • ผมเองเป็นคนชอบบ้านที่มีเนื้อที่ไว้ปลูกต้นไม้ จึงหาซื้อที่ไว้ก่อนครับ ปลูกต้นไม้ให้ร่มรื่น แล้วจึงปลูกบ้านทีหลัง บ้านจัดสรรนั้นดีที่ซื้อแล้วเข้าอยู่เลย แต่ถ้าไปเจอเจ้าของโครงการที่เอาเปรียบแย่เหมือนกันครับ บางโครงการที่ผมเห็นเสาบ้านเล็กนิดเดียวแต่มาก่ออิฐทาบด้านข้างฉาบปูน ดูให้เสาใหญ่ทีหลัง ต้องระวังครับ

สวัสดีค่ะ

เป็นปัญหาที่ทุกคนเผชิญและเกิดขึ้นกับทุกโครงการ  ไม่ว่าราคาจะประมาณไหน เมื่อเรามาสุมหัวกันพูดคุย  "โดนใจ" จริง ๆค่ะ

ขอเป็นกำลังใจนะคะ  คิดถึงเสมอค่ะ

สวัสดีค่ะ...คุณวิมล 212...Ico48...

  • ค่ะ แล้วมีปัญหาบ้างไหมค่ะ
  • ถ้าไม่มีก็ดีนะค่ะ สำหรับพี่ ดวงไม่ดีเลย ได้วัสดุที่ทำไม่ค่อยดีเลยค่ะ...

สวัสดีค่ะ อ.นุ...Ico48...

  • ค่ะ ครั้งแรกเจ้าของโครงการจะพูดดีค่ะ เชียร์จนเราใจอ่อน
  • แต่ที่ไหนได้...สุดท้ายคราบที่แท้จริงก็โผล่ คิดแต่จะเอาผลกำไรมากกว่า
  • เขาไม่รู้หรอกค่ะว่าใจของคนที่ซื้อจะเป็นอย่างไร เขาไม่คำนึงหรอกค่ะ...คิดแต่ได้ผลประโยชน์เป็นหลักค่ะ...ถือเป็นบทเรียนราคาแพงค่ะ...
  • ขอบคุณที่แวะมาค่ะ...

สวัสดีค่ะ...พี่ krugui...Ico48...

  • ค่ะ งานมากค่ะ ช่วงนี้ ทั้งงานหลวง + งานราษฎร์ ค่ะ แต่ก็ค่อย ๆ แก้ไขไปค่ะ
  • ครั้งแรกน้องก็คิดว่าจะรื้อแบบที่พี่ว่าเหมือนกัน แต่ช่างคนนี้เขาแนะนำดีค่ะ คงได้เจอช่างดี อย่างที่พี่ว่านั่นแหล่ะค่ะ เขาแนะนำให้ยาตามแนวหลังคาไปตลอดดูก่อน ถ้ารั่วอีก คงรื้อตรงด้านบนสัน เพราะมันรั่วตรงนั้นค่ะ คงรื้อทั้งหมดแล้วทำครอบใหม่ ก็คงเป็นงานอีกแหล่ะค่ะ แต่นี่ได้แก้ไขแล้วปรากฎว่า แก้ไขได้สำเร็จค่ะ อย่างพูดถึงเจ้าของโครงการเลยนะค่ะ พอเขาได้กะตังค์ก็เปิดแน่บไปแล้วค่ะ...ทิ้งแต่ความเจ็บใจให้กับเรา...
  • ได้แต่ทำใจคิดเสียว่าใครทำอย่างไร ผลกรรมเขาก็รับไปก็แล้วกันค่ะ...
  • ขอบคุณค่ะที่แวะมา...

สวัสดีค่ะ...คุณชำนาญ...Ico48...

  • ค่ะ สร้างเองก็ดีเหมือนกัน แต่ข้อระวังต้องเลือกช่างที่ดี มีความรับผิดชอบนะค่ะ เพราะไม่งั้นก็มีปัญหาอีกเหมือนกัน ช่างชอบมาขอเบิกเงินก่อน แม้แต่จะทำสัญญากันก็เถอะ แล้วก็ชอบทิ้งงานหรืออู้งานค่ะ...เป็นปัญหาคนละแบบกับบ้านจัดสรรค่ะ...
  • ยังคิดเลยว่า ถ้าทำเองได้จะไม่ง้อช่างเลยสักนิด...อิอิอิ...ได้เพียงแค่คิดค่ะ...
  • ขอบคุณที่แวะมาค่ะ...

สวัสดีค่ะ...พี่คิม...Ico48...

  • นั่นสิค่ะพี่คิม...เราเสียกะตังค์เราก็อยากได้ของดี ๆ แต่คนที่คิดจะเอาเปรียบเขาไม่ค่อยได้คิดอะไรหรอกค่ะ ขอเพียงแค่ได้กะตังค์จากเรา...
  • แต่ก็ได้แต่เชื่อว่า "เวรกรรมมีจริงค่ะ"...ใครทำอย่างไรก็ได้ผลกรรมแบบนั้นค่ะ...คิดแบบนี้เราก็สบายใจค่ะพี่คิม เราก็แก้ไขปัญหาไปเท่านั้นเอง...
  • ช่วงนี้มีงานเยอะมากค่ะ แล้วจะไปเยี่ยมนะค่ะ...ขอบคุณค่ะ...
  • รัก + คิดถึงพี่คิมเสมอจ้า...
  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะIco48...Ico48...Ico48...Ico48...Ico48

เรื่องปัญหาของหมู่บ้านจัดสรรที่หนูอยู่ก็มีบ้างนะคะ

แต่เล็กน้อยมีบ้างก็แก้ไขกันไป

ก็มันเป็นบ้านของเราแล้วนี่คะ

สวัสดีค่ะ...หนูวิมล 212...Ico48...

  • ดีค่ะ เมื่อเราลงทุนซื้อไปแล้วก็ยากที่จะเรียกร้องในส่วนที่เสียไปให้คืนมาได้ค่ะ...ได้แต่ทำใจค่ะ...
  • 

ผมเคยจองบ้านศุภากรไพรเวมโฮม ไทรน้อย นนทบุรี เมื่อต้นปี 2554 บ้านเดี่ยว 3.2 ล้านบาท บ้านตัวอย่างก็ดูดี พนักงานขายก็ดี แต่พอบ้านเป็นรูปเป็นร่าง ก็เริ่มพบปัญหา กระเบื้อง อุปกรณ์ไฟฟ้า ฝ้าเพดาน แทบจะใช้ของที่ถูกที่สุดในท้องตลาด ช่างมุงหลังคาห่วยแตก ที่เลวร้ายที่สุดคือ เหล็กโครงหลังคาบางกว่าที่วิศวกรออกแบบ (แบบที่ขออนุญาตก่อสร้าง) ไว้ถึง 30-40 % เอามือโยกแปเบาๆ ก็อ่อนตามมือ ยังบอกว่าเป็นมาตรฐานของโครงการ ชุบสีกันสนิมแบบลวกๆ ติดบ้างไม่ติดบ้าง ทั้งเจ้าของโครงการและผู้ควบคุมงานไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพเลย เอาเปรียบผู้ซื้ออย่างมาก ตอนนี้ขอยกเลิกสัญญาไปแล้ว แต่ได้เงินคืนไม่ครบ

  • ค่ะ...พวกนายทุน (บางคน) ชอบเอาเปรียบเราไงค่ะ...เขาทำอย่างไรก็ได้ที่เขาจะต้องได้กำไรมาก ๆ คนซื้อจะเป็นอย่างไรไม่สนหรอกค่ะ...
  • ความจริงถ้าซื้อเฉพาะที่แล้วเรามาซื้อวัสดุเองจะดีกว่าค่ะ เพราะส่วนที่ผู้เขียนได้ต่อเติมใหม่นี้ ได้คนรับเหมาที่มีความรับผิดชอบดีมาก ๆ ค่ะ ฝีมือละเอียด ไว้ใจได้ เรียกว่า "ไม่ได้ทำสัญญา" กันค่ะ ตอนแรก ๆ ก็กลัวเหมือนกัน เรียกว่า "เสี่ยง" ค่ะ...แต่พอเขาทำไป เขาเป็นคนใจเย็น ฝีมือจึงปราณีตค่ะ...มิเสียแรงที่เสียเงินไปค่ะ ดีกว่าซื้อบ้านในครั้งแรก เอาวัสดุห่วยแตกมาให้เราค่ะ...
  • ค่ะ เจ้าของโครงการเขาจะทำอะไรก็เอาเปรียบคนซื้อไปเสียทุกอย่างค่ะ ไม่คำนึงหรอกค่ะว่า กว่าเราจะหาเงินมาได้ มันลำบากแค่ไหน...
  • ขอบคุณที่แวะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันค่ะ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท