ชีวิตประจำวันของพวกเราเคลื่อนไหวปรับแปรและเปลี่ยนไปตามจังหวะเต้นของวิถีแต่ละคน ท่ามกลางหลากหลายปัจจัยที่ผลักส่งให้ชีวิตคนต้องมีอันเป็นไป บางคนอาจใช้ชีวิตได้เรียบง่ายแต่มากมายด้วยสิ่งที่มีคุณค่า บางคนใช้ชีวิตด้วยท่วงท่าที่ยุ่งเหยิง สับสนแบบว่ากินข้าวเคล้าน้ำตาและหลายคนก็หลากหลายแบบแผนสุดแต่ใครจะเข้าใจ เข้าถึงแก่นแท้ของชีวิตเพียงใด
หากลองฉุกคิดสักนิดจะเห็นว่าบางครั้งเราก็ใช้ชีวิตด้วยการนำความหมายของคำศัพท์ไม่กี่คำมาผูกเชื่อมกับชีวิต เช่น สมัยใหม่ คนรุ่นใหม่ ครูพันธุ์ใหม่ ความรู้ใหม่ ฯลฯเมื่อเรายอมให้ความหมายเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตมากเกินไป เราจะพบกับสิ่งใดจะพบความสุขหรือความทุกข์ เคยตั้งคำถามกับตัวเองหรือไม่ว่าใครจะเป็นคนบอกว่าเราจะได้พบกับสิ่งใด
คำศัพท์ที่ผู้คนสร้างขึ้นแล้วมีฤทธิ์เดชต่อวิถีชีวิต นักวิชาการหลายท่านมักเรียกว่า วาทกรรม ซึ่งแปลตามประสาผมว่า การกระทำที่ผูกติดกับคำพูด และลองทำใจแบบกลางๆจะเห็นชัดว่า การพัฒนาภายใต้วาทกรรมมีให้เห็นมากเหลือเกินในสังคมไทยและสังคมโลก ว่าเฉพาะสังคมไทยก็นับว่าไม่น้อยหน้าใคร เราหันซ้ายหันขวาจึงพบแต่นักวาทกรรม ไม่ค่อยพบนักปฏิบัติจริงเท่าไรนัก
สำหรับผมครุ่นคิดตลอดเวลาว่า ตัวเราเองข้ามพ้นความเป็นนักวาทกรรมหรือยังพร้อมถามตัวเองเสมอว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าในสถานการณ์ที่มากด้วยวาทกรรมได้อย่างไร
หายไปนานมากๆๆ รออ่านอีก สบายดีไหม เอาภาพที่สวนยายเฮ้ามาให้ดูบ้างครับ...