ชีวิตในระหว่างสายน้ำ


หาดเลนที่สวยงามของที่นีอยู่ในการควบคุมดูแลของสวนสาธารณะแห่งชาติ ชีวิตและจิตใจที่งดงามคงต้องขอนำเข้าไปสู่การดูแลของพระธรรม

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันกับชายหนุ่มนัดกันไปถ่ายรูปที่เกาะอูบิน (Pulau Ubin) ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆตั้งอยู่ทางทิศทางตะวันออกของสิงคโปร์ เกาะแห่งนี้ยังคงลักษณะของการอยู่อาศัยแบบ "หมู่บ้าน" เป็นแหล่งสุดท้ายของประเทศนี้ การได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนเกาะนี้จึงรู้สึกคล้ายกับการมาเยือนสิงคโปร์เมื่อ 40-50 ปีก่อน อะไรที่มีน้อยถือเป็นของหายาก ในการใช้ชีวิตที่วัดกันด้วยความเร็วและประสิทธิภาพในสังคมเมือง วิถีชาวบ้านแบบสบายๆที่อูบินจึงมีเสน่ห์ชักชวนให้ผู้คนที่กระหายความต่างมาเยือนอยู่เสมอๆ

จากท่าเรือชางงี (Changi) เรานั่งเรือข้ามฟากไปเกาะอูบินใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่าโดยสารคนละ 2.5 เหรียญ ฉันทิ้งความวุ่นวายและความแออัดของชีวิตในเมืองไว้เบื้องหลังในทันทีที่ก้าวลงเรือ

 

ที่เกาะนี้บางคนก็มาเดิน มาวิ่งออกกำลังกาย บ้างก็พาลูกหลานมาดูชีวิตสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่หาดเลนที่ขึ้นชื่อของที่นี่ บ้างก็มาตกปลา บางคนตั้งใจมาชิมอาหารทะเลในบรรยากาศของชายทะเลจริงๆ ซึ่งได้ยินมาว่าไม่เลวเลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่ก็ส่วนใหญ่จะพากันไปปั่นจักรยานชมบรรยากาศ ที่บริเวณท่าเรือจึงมีร้านบริการให้เช่าจักรยานหลายร้าน คันละ 2 เหรียญต่อวัน คุ้มค่าค่ะ

บ้างก็มาเป็นครอบครัว บ้างเป็นกลุ่ม บ้างก็มาเป็นคู่ ประเภทฉายเดี่ยวนั้นมีน้อย...

 

บ้างก็ปั่นจักรยานกันกระหนุงกระหนิงจนน่าอิจฉา...

พอขึ้นเขาก็ช่วยกันจูง น่ารักดีค่ะ...

ฉันตกลงกับผู้ร่วมเดินทางว่าเราจะมีความสุขในการเดิน จุดหมายของเราคือ Chek Jawa ซึ่งก็คือหาดเลนที่ฉันยังไม่เคยไปมาก่อน จากท่าเรือถึงที่หมายเป็นระยะทาง 3.4 กิโลเมตร อากาศที่สดชื่น ไม่ร้อนมากนัก ด้วยสายลมที่พัดอ่อนๆ กลิ่นของแมกไม้โชยมาแตะจมูกอยู่บ่อยๆ บางช่วงของถนนเงียบกริบ ทำให้การเดินน่ารื่นรมย์ยิ่งนัก

บ้านทรงพื้นเมืองสีสันสวยงาม...

นี่...เขาก็มีส่วนช่วยรณรงค์สนับสนุนการท่องเที่ยวของที่นี่ค่ะ เด็กๆตื่นเต้นมากที่ได้เห็นตัวจริงเสียงจริงของต้นตำรับบะหมี่หมูแดงแบบออร์แกนิก..

ตลอดสองข้างทางมีดอกไม้ ต้นไม้ ต้นเงาะ ต้นทุเรียนป่า และผลไม้พื้นบ้านหลากชนิดให้ดูชมอยู่ ไม่ขาดสาย...

ที่ชอบที่สุดคือที่นี่นกเยอะมาก ที่นี่ยังเป็นที่อยู่ของนกเงือกหรือนกแก๊กอีกหลายตัวด้วย แต่ฉันไม่มีโอกาสเห็นพวกเขาในวันนั้น เสียงนกหลายชนิดเจื้อยแจ้วฟังแล้วไพเราะมากมายเหลือเกิน จนอยากเห็นตัวจริง..

ใครคนหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่า ดนตรีช่วยชำระล้างฝุ่นละอองในชีวิตประจำวันได้ สำหรับฉันนอกจากดนตรีแล้ว เสียงนกร้องยิ่งช่วยทำให้ชีวิตนี้สดใสงดงามขึ้นอีกมากมาย...

เราเดินไปถึง Chek Jawa เวลาเกือบบ่ายโมง พอดีกับที่กรมอุตุฯ พยากรณ์เอาไว้ว่าน้ำจะลด

จังหวะชีวิตของสรรพสัตว์ที่นี่ขึ้นอยู่กับระดับน้ำ สัตว์บางชนิดออกหากินตอนน้ำลด พักผ่อนตอนน้ำขึ้น บางชนิดออกหากินตอนน้ำขึ้นและพักผ่อนตอนน้ำลง

สำหรับหาดเลนแล้วสายน้ำนำออกซิเจนและอาหารใหม่ๆเข้ามาในบริเวณนั้น สาหร่าย ปะการังก็รับอาหารที่สายน้ำพามา ปลาก็หาอาหารตามที่ตื้นได้ พืชพันธุ์ได้มีโอกาสแพร่ขยายพันธุ์ไปสู่ที่ใหม่ เมื่อน้ำลดสายน้ำก็จะพัดพาชะล้างเอาสิ่งสกปรกออกไป นำสารอาหาร พืช และสัตว์ออกไปจากฝั่ง หมุนเวียนกันไป..

คงจะดีไม่น้อยหากชีวิตของเราจะเป็นเหมือนหาดเลนที่ยังคงยืนหยัดสงบนิ่งอย่างมีความสุข ไม่ว่าน้ำจะขึ้นหรือลง ไม่ติดกับน้ำ และไม่ว่าจะน้ำขึ้นหรือน้ำลดหาดเลนยังคงเป็นแหล่งพักพิงของหลายร้อยหลายพันชีวิตอยู่เสมอ..

คุณ meepole เขียนให้กำลังใจใน วันนี้... คุณกอดตัวเองหรือยัง? เอาไว้ว่า

หลายคนเปรียบชีวิตเหมือนเส้นกราฟที่มีขึ้นลง ตามเหตุและปัจจัยที่เข้ามา ซึ่งจริงๆแล้วหากเราไม่ประคองใจให้ดีเราก็คงจะแกว่งขึ้นแกว่งลง เช่นนั้นบ่อยๆ ก็จะส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตเราด้วย การศึกษาธรรมะ ไม่ว่าจะโดยการอ่านหรือปฏิบัติ ให้เข้าใจ จนเป็นส่วนหนึ่งในจิตสำนึกลึกๆของเรา เมื่อมีเหตุอะไรมากระทบเราสามารถนำธรรมะเหล่านั้นมาเป็นเกราะช่วยให้คิดเป็น อยู่เย็นได้ กับทุกๆปัญหาที่เข้ามาโดยไม่ทุกข์ ไม่เครียด

หาดเลนที่สวยงามของที่นีอยู่ในการควบคุมดูแลของสวนสาธารณะแห่งชาติ ชีวิตและจิตใจที่งดงามคงต้องขอนำเข้าไปสู่การดูแลของพระธรรม ตามที่คุณ meepole บอกค่ะ..

 

หมายเลขบันทึก: 444496เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2011 22:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)

นั่นแน่เห็นปลาเท้าด้วย (กลัวไม่สุภาพ) เลยเรียกให้เพราะหน่อย

สวัสดีค่ะ

เห็นเหมือนอาจารย์โสภณ และเห็นปู  ก้ามสีแดง และปูลมด้วย ที่เหมือนบ้านเรา

ซูมได้ภาพชัดเจนดีจังค่ะ 

ชมภาพและอ่านคำบรรยาย  ทำให้รู้สึกสดชื่นได้ธรรมชาติจริง  ขอขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณปริม

เป็นบรรยากาศสวยงาม สงบ สดชื่น มากเลยนะคะ

สุขสันต์กับทุกโมงยามของชีวิต ระลึกถึงนะคะ

การดำรงชีวิตอย่างมีสุขได้ยามน้ำลด ต้องอาศัยปัญญา ซึ่งได้มา สั่งสมมา ยามชีวิตอยู่ในภาวะน้ำขึ้น น้ำปานกลางและน้ำลด

 

ทุกข์ เสื่อมยศ เสื่อมลาภ คำนินทา เป็นโลกธรรมอีกด้าน

เมื่อพบเจอ ยืนได้ อยู่ได้ในครั้งแรก ครั้งต่อไป พอไหวเอง

 

ขอบคุณบันทึกดี ๆ ภาพธรรมชาติงาม ค่ะ 

ธรรมชาติให้อะไรกับเรามากมาย  อ่านและดูภาพแล้วสัมผัสได้ถึงความสุขที่ได้รับ

ทั้งเจ้าของบันทึกและคนที่แวะเข้ามาเยือนนะคะ......

สวัสดีค่ะ

Happy with you ค่ะ ที่ได้โอกาสพักผ่อน หย่อนสมองจากสภาพการทำงาน ไปดูชีวิต สิ่งแวดล้อมสวยงามที่ธรรมชาติให้มา พร้อมข้อคิดที่คุณปริม นำมาเติมเต็มให้ในทุกโอกาส เพียงแค่นี้ ก็สุขใจทั้งผู้ไปเที่ยวและผู้เข้ามาเยือนค่ะ

ชีวิตในธรรมชาติเรียบง่ายเสมอ เพราะเขาไม่มีการปรุงแต่งอะไรมากมาย สัตว์เหล่านั้นอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เป็นมา อยู่สุขตามที่เป็น ดูจากภาพเจ้าปลาตีน ก็เห็นชัดว่า ขอเพียงมีโคลนเลน มีน้ำ เท่านี้ก็แสนสุข ชีวิตที่สุขจริงๆก็ง่ายนิดเดียว

อยากให้ลองอ่านค่ะ

http://meecorner.blogspot.com/2011/06/2.html

ขอบคุณภาพสวยงาม ข้อความที่นำใจไปสู่ความสงบได้ค่ะ...ด้วยธรรมชาติที่งดงาม

อ่านแล้วเห็นธรรมะในธรรมชาติครับ

เขียนเล่าเรื่องแล้วน่าไปเที่ยว ยิ่งภาพถ่ายงามจริง ๆ

สวัสดีค่ะคุณปริม

ภาพสวยบรรยากาศดีคำบรรยายเยี่ยม ขอบคุณค่ะ^_^

....ยายธีมีความสุขที่ยังได้เห็นภาพ..ที่อาจจะหาดูยาก..ต่อไปในอนาคตอันสั้นลงทุกที...ของธรรมชาติที่ยังหลงเหลือให้เห็น(อยู่ในประเทศไทย)..เพราะนักท่องเที่ยวผู้ต้องการสัมผัสความเป็นธรรมชาติ...(สิงคโปร์เขามีความสำเร็จในการจัดสรรค์ระหว่างการเมืองและธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง..เจ้าค่ะ...

เคยชมสารคดีท่องเที่ยวสิงคโปร์ทางช่องDiscovery หรือ National Geographic ซึ่งเขาพาท่องเที่ยวให้เห็นมุมธรรมชาตินอกเมืองใหญ่ของสิงคโปร์ในหลายๆจุด ดูแล้วทึ่งด้วยความคาดไม่ถึงค่ะ รู้สึกว่าเขาจะพาไปที่เกาะที่คุณปริมนำเรื่องและภาพมาฝากกันด้วย

คุณปริมถ่ายภาพได้สวยงามมากเช่นเคยค่ะ ดูแล้วสดชื่นมีชีวิตชีวามาก

 

สวัสดีค่ะคุณปริม

หากเข้ามากรุณาแวะไปที่ กฏของรถขนขยะ (The law of the garbage truck) ที่คุณปริมเคยเขียนไว้นะคะ

http://www.gotoknow.org/blog/pirimarj/400442

ขอบคุณค่ะ :)

สวัสดีค่ะอาจารย์โสภณ

ไม่ได้เข้ามาบอกเหตุผลว่าเพราะเกรงไม่สุภาพเช่นกัน

เลยไม่บรรยายค่ะ

เอาภาพมาให้ดูเฉยๆ :)

สวัสดีค่ะอาจารย์คิม ต้องขอบคุณ Lumix FZ35 ค่ะ ซูมได้ 15X ถ้าได้ 30X คงจะชัดมากยิ่งขึ้นค่ะ....

ค่ะที่นี่ป่าชายเลยก็คล้ายๆกับบ้านเรา เพราะไม่ไกลกันเลย...

สวัสดีค่ะคุณปู

บรรยากาศแบบนี้ถือเป็นของแปลกของคนที่นี่ไปแล้วค่ะ

คิดอยู่ว่าถ้ารัฐบาลเขามาปลูกแฟลตที่นี่น่าจะมาจอง อิอิอิ...

สวัสดีค่ะพี่หมอภูสุภา ขอบคุณค่ะ ชอบจังประโยคนี้

"การดำรงชีวิตอย่างมีสุขได้ยามน้ำลด ต้องอาศัยปัญญา ซึ่งได้มา สั่งสมมา ยามชีวิตอยู่ในภาวะน้ำขึ้น น้ำปานกลางและน้ำลด"

ตอนนี้เป็นช่วงน้ำปานกลางในชีวิต จะไม่ประมาทค่ะจะคอยสั่งสมปัญญาอยู่...ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ krugui

ขอบพระคุณที่กรุณามาให้กำลังใจค่ะ

ดีใจที่ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความสุขที่ตั้งใจจะแบ่งปันค่ะ...

สวัสดีค่ะคุณ meepole ขอบคุณมากค่ะสำหรับบทความดีดีที่จะได้อ่านในยามบ่ายวันอาทิตย์....

สวัสดีค่ะคุณ noktalay ขอบคุณมากค่ะที่มาเยี่ยมเยียนและสัมผัสความสงบสุขไปด้วยกัน

สุขสันต์วันอาทิตย์ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพิชัย ไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนนานหลายเพลา สบายดีนะคะ??

สวัสดีค่ะคุณครูสายันต์ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ถ้ามีโอกาสเชิญค่ะ อาจจะสวนทางกับผู้ที่มาเที่ยวที่นี่นะคะ เพราะคนไทยทีมาเที่ยวจะไปชอปปิ้งกันเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหนูรี ขอบคุณค่ะ แล้วปริมจะไปเยี่ยมเยียนนะคะ พักนี้ไม่ได้ไปเลย...

สวัสดีค่ะคุณยายธี คงเพราะเป็นประเทศเล็กๆ เขาไม่มีทรัพยากรอะไรมาก เท่าที่มีจึงดูแลได้ทั่วถึงค่ะ และก็เป็นวิสัยทัศน์ของผู้นำเขาด้วยก็เลยทำได้ง่ายค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่กรุณามาฝากคอมเมนท์ไไว้ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพี่คุณนายดอกเตอร์

ขอบคุณมากค่ะ บรรยากาศวันนั้นดีมากค่ะ

เลยทำให้ภาพที่ออกมาดูมีชีวิตชีวาดี

คุณพี่สบายดีนะคะ??

สวัสดีค่ะคุณ meepole ขออนุโมทนาบุญด้วยคนค่ะ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท