โดราเอมอน กับกระบวนการคิดของคนยุคหนึ่ง

วันนี้ได้หยิบหนังสือการ์ตูนโดราเอมอนขึ้นมาอ่าน ก็พลันอ่านเพลินๆไป สุดท้ายอ่านไปได้ 3-4 ตอน ก็วางหนังสือลง พลางนึกไปนึกมาท่ามกลางฝาปรอยๆว่า "ถ้าคนที่ได้อ่านโดราเอมอนมาเมื่อตอนเด็กๆ ย้อนเวลากลับไปแล้วไม่ให้เขาเหล่านั้นอ่าน ความคิดพวกเขาจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ในปัจจุบัน"

 

  โดราเอมอนเป็นการ์ตูนที่ยอดฮิตมากเมื่อผมยังเป็นเด็ก แทบทุกคนรู้จักโดราเอมอน หรือในทางเศรษฐศาสตร์ก็อาจจะบอกว่าทุกคนรู้จักโดราเอมอน (อาจจะมี 0.1% ที่ไม่รู้จักก็เป็นได้) เจ้าตัวการ์ตูนอ้วนกลมสีฟ้านี้มีบทบาทอย่างมากต่อผู้ที่ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับมัน ซึ่งเจ้าโดราโอมอนนี้ก็มีของวิเศษมากมายจริงๆที่หยิบเอาออกมาจากพุงของมัน เรียกได้ว่าถ้าโลกนี้มีโดราเอมอนจริง โลกนี้ก็ไม่ต้องมีอะไรอีกแล้ว

 

  ผมมานึกดูว่าอิทธิพลของโดราเอมอนต่อการคิดของผมนั้นมีขนาดไหน...ในตอนเด็ก ผมอ่านโดราเอมอน (สรุปโดราเอมอน หรือโดเรมอนก็ไม่รู้นะ) แล้วก็สนุกทุกครั้ง ยังจำวันที่คุณแม่ของผมซื้อโดราเอมอนมาให้เล่มนึงได้ เป็นเล่มใหญ่ แต่เป็นตอนสั้นๆ (ผมชอบอ่านตอนสั้นๆ) หน้าปกมีครบตัวละครเลยมั้ง แล้วก็มีแกะอยู่ตัวนึง ซึ่งก็ไม่รู้ที่มาที่ไปของแกะตัวนั้นหรอก 

 

  ในตอนเด็กนั้นผมคงอดไม่ได้ที่จะมีฝันถึงเรื่องราวในการ์ตูน ว่าจะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ วันนึงจะมีโดราเอมอนมาหรือไม่ แต่พอโตขึ้น เราก็รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้

 

แต่!!!...เราจะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกาย หรือสมองเราในปัจจุบัน ไม่ได้หวังให้โดราเอมอนมีจริง เปรียบเสมือนความเครียดที่เรามีหรือไม่เรายังไม่รู้ตัว เพราะลองมานึกดู เวลาเราคิดอยากได้อะไร หรือรู้สึกไม่สะดวก ไม่สบายใจ เรายังนึกว่าเผื่อมีคนมาช่วย เผื่อถูกหวย เผื่อมีนักการเมืองดีๆ เผื่อโชคดีได้ลาภ...พวกเราในบางครั้งยังมีความคิดแบบนี้อยู่ ซึ่งเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันไม่ใช่ผลที่มาจากการ์ตูนในวัยเด็กของเรา

 

วัยเด็กนั้นเป็นวัยแห่งการเจริญเติบโต เป็นวัยที่สมองกำลังมีพัฒนาการอย่างมาก ถามว่า ถ้า ณ ตอนนั้น เราชอบอ่านหนังสือการ์ตูนสักเรื่องหนึ่ง เช่นโดราเอมอน แล้วโตขึ้นมา เราจะไม่มีความคิดในลักษณะฝันเฟื่องติดตัวมาเลยหรอ...มันก็ไม่แน่นะทุกท่าน

 

 

โดราเอมอนเป็นการ์ตูนที่มีอิทธิพลต่อเรามาก ถ้าจะให้มองก็มีทั้ง Positive และ Negative ...เพราะฉะนั้น อย่าลืมว่า "สิ่งไหนดี...เราเก็บ เราจำ สิ่งไหนไม่ดี เราจำ...แต่ไม่เก็บ" เนื้อหาของการ์ตูนโดราเอมอนก็เช่นกัน

 

กระแสการเมืองปัจจุบันแรงมาก จะเลือกใครก็สุดแท้แต่ตัวท่านเองจะเลือก...คุณตาผมสอนไว้อย่าง ท่านสอนว่า "มันจะพรรคไหน คนไหนก็ไม่สำคัญ เราทำมาหากินของเรา เราทำธุระของเรา อย่าไปยุ่งเรื่องพวกนั้นให้มันมากไป" ผมยึดถือคำสอนนี้ ผมมองว่ามันเป็นจริง คนเราเปลี่ยนใครไม่ได้...แต่เปลี่ยนตัวเองนั้น..พอได้ แม้จะยาก แต่ก็เปลี่ยนได้

 

กระบวนการคิดของเราเป็นไปตามสภาพปัจจัยต่างๆที่เข้ามาในชีวิต อย่าลืมมีสติคิดให้ดี อะไรก่อน อะไรหลัง อะไรควร อะไรไม่ควร อะไรยึดติด...ก็เป็นทุกข์

 

เดินสายกลาง...